ผู้ใดที่ด่าทอกาลเวลา เเละเอาสิ่งใดที่เป็นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นพาดพิงไปยังกาลเวลานั้น เท่ากับเขาได้มีส่วนร่วมกับบรรดาพวกมุชริกีนเเละพวกดะฮฺรียะฮฺ...
ด่ากาลเวลา ด่าลม ด่าฝนฟ้าอากาศ เท่ากับด่าอัลลอฮฺ และเป็นพฤติกรรมของพวกญาฮิลียะฮฺ
ชัยคฺ อัล-อัลลามะฮฺ ศอลิหฺ บิน เฟาซาน อัล-เฟาซาน -หะฟิซอฮุลลอฮฺ- กล่าวว่า :
ด่ากาลเวลาเเละสิ่งอื่นๆที่คล้ายกัน
"เเละหนึ่งในสิ่งที่ผู้คนบางส่วนได้กระทำกันจนเคยชิน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้เตาฮีดบกพร่องเช่นเดียวกัน เเละมันทำไม่ดีต่ออะกีดะฮฺ(หลักความเชื่อ) นั่นคือ : การด่ากาลเวลา ด่าลม เเละที่คล้ายๆกันนี้ที่เป็นการพาดพิงการด่าไปยังสิ่งถูกสร้างต่างๆในสิ่งที่มันไม่มีสิทธิ์ในการบริหารจัดการ ฉะนั้นในความเป็นจริงเเล้วการด่าทอนี้ มันมุ่งไปหาอัลลอฮฺﷻ เพราะพระองค์คือผู้สร้าง ผู้ทรงบริหารจัดการ"
เเละท่านชัยคฺได้กล่าวต่อว่า :
"ดังนั้น ผู้ใดที่ด่าทอกาลเวลา เเละเอาสิ่งใดที่เป็นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นพาดพิงไปยังกาลเวลานั้น เท่ากับเขาได้มีส่วนร่วมกับบรรดาพวกมุชริกีนเเละพวกดะฮฺรียะฮฺ(พวกปฏิเสธวันกิยามะฮฺเเละโลกหน้า)ในลักษณะที่น่าตำหนินี้ ถึงเเม้จะไม่ได้มีส่วนร่วมกับพวกเขาในรากฐานของความเชื่อก็ตาม
เเละปรากฏในศ่อฮีฮฺทั้งสองเเละอื่นๆ จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า : ท่านรอซูลุลลอฮฺ(ซ.ล.)กล่าวว่า :
يقول الله تعالى: يؤذيني ابن آدم يسب الدهر وأنا الدهر، بيدي الأمر، أقلب الليل والنهار.
ควมว่า: "อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงตรัสว่า : ลูกหลานอาดัมได้ทำอันตรายต่อข้า เขาด่ากาลเวลา เเละข้าคือกาลเวลา ข้าสลับสับเปลี่ยนกลางคืนเเละกลางวัน"
เเละในอีกสายรายงานหนึ่ง :
لا تسبوا الدهر فإن الله هو الدهر.
ความว่า: "พวกท่านอย่าด่ากาลเวลา เพราะเเท้จริงอัลลอฮฺคือกาลเวลา"
ดังนั้นหะดีษบทนี้จึงบ่งชี้ว่าผู้ที่ด่ากาลเวลานั้น เขาได้ทำอันตรายต่ออัลลอฮฺ(ซ.บ.)เนื่องจากการด่านั้นมันมุ่งไปยังผู้บริหารจัดการเหตุการณ์ต่างๆเเละผู้ทรงสร้างมันขึ้นมา ซึ่งกาลเวลานั้น มันคือสิ่งถูกสร้างที่ถูกบริหารจัดการ มันไม่มีสิทธิ์ในการบริหารจัดการใดๆ เเละด้วยเหตุนี้อัลลอฮฺ(ซ.บ.)จึงทรงตรัสว่า :
ควมว่า: "เเละข้าคือกาลเวลา ข้าสลับสับเปลี่ยนกลางคืนเเละกลางคืน"
ซึ่งดำรัสของพระองค์ : "ข้าสลับสับเปลี่ยนกลางคืนเเละกลางวัน" มาอรรถาธิบายดำรัสของพระองค์ : "เเละข้าคือกาลเวลา"
เเละเช่นเดียวกัน ประโยคที่ว่า : "เพราะเเท้จริงอัลลอฮฺคือกาลเวลา" หมายความว่า : แท้จริงอัลลอฮฺคือผู้ทรงบริหารจัดกาลที่ทรงบริหารจัดการกาลเวลาเเละอื่นๆ ฉะนั้นผู้ที่ด่ากาลเวลา เขาผู้นั้นกำลังด่าผู้ทรงสร้างมันขึ้นมา ซึ่งนั่นคือพระองค์อัลลอฮฺ ผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงบริสุทธิ์ยิ่ง
ชาวสะลัฟ บางท่าน ได้กล่าวว่า : "ชาวอาหรับในยุคญาฮิลียะฮฺนั้น หนึ่งในพฤติกรรมของพวกเขาคือการตำหนิกาลเวลา"...
เเละชัยคฺได้กล่าวต่อว่า :
เเละจากชนิดของการด่ากาลเวลา คือการด่าลม ซึ่งมีคำสั่งห้ามไม่ให้ด่าลมในหะดีษที่ท่านอิหม่ามอัตติมิซีย์ ได้บันทึกเเละท่านก็ได้ให้สถานะศ่อฮีฮฺด้วย จากท่านอุบัย บิน กะอฺบ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ : แท้จริงท่านรอซูลุลลอฮฺ (ซ.ล.) กล่าวว่า :
ความว่า: "พวกท่านอย่าได้ด่าลม ดังนั้นถ้าหากพวกท่านเห็นสิ่งที่พวกท่านไม่ปราถนาก็จงกล่าวว่า : โอ้อัลลอฮฺ เเท้จริงเราขอต่อพระองค์ซึ่งสิ่งที่ดีของลมนี้ เเละสิ่งที่ดีของสิ่งที่มีอยู่ในมัน เเละความดีที่มันถูกบัญชาใช้ , เเละเราขอความคุ้มครองต่อพระองค์ให้รอดพ้นจากความเลวร้ายของลมนี้ เเละความเลวร้ายของสิ่งที่มีอยู่ในมัน เเละความเลวร้ายที่มันถูกบัญชาใช้"
เเละดังกล่าวนั้น เนื่องจากลมมันพัดตามบัญชาใช้เเละการบริการจัดการของพระองค์ เพราะพระองค์คือผู้ทรงบังเกิดมันขึ้นมา เเละทรงบัญชาใช้แก่มัน ฉะนั้นการด่ามัน ก็เป็นการด่าผู้ทรงจัดการมัน นั่นคืออัลลอฮฺ (ซ.บ.) ดังที่กล่าวมาเเล้วในเรื่องการด่ากาลเวลา เพราะการด่าลมเเละด่ากาลเวลานั้น มันกลับไปยังการด่าผู้สร้างที่ทรงบริหารจัดกาลจักรวาลนี้"
ที่มา : [الإرشاد إلى صحيح الاعتقاد : 91-93] / อิสลามตามแบบฉบับ