ผู้ดื้อดึง ละเมิด หรือสุโต่งในเรื่องศาสนาย่อมได้รับความหายนะอย่างแน่นอน หายนะอย่างไรละหรือ?....
ผู้ดื้อดึง ย่อมได้รับความหายนะ นบีกล่าวถึง 3 ครั้ง
บทความโดย: อ.มุรีด ทิมะเสน
ท่านรสูลุลลอฮฺ (ซ.ล.) กล่าวว่า :
«هَلَكَ الْمُتَنَطِّعُونَ» قَالَهَا ثَلَاثًا
“บรรดาผู้ดื้อดึง (ละเมิด,สุดโต่ง) จักได้รับความหายนะ” ซึ่งท่านรสูลกล่าว 3 ครั้ง [หะดีษเศาะหี้หฺ, บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 2670]
สิ่งที่ได้รับจากหะดีษ
หะดีษข้างต้นคำว่า “อัลมุตะนัฏฏิอูน” มีความหมายหลายนัย ทว่าผู้เขียนขอเลือกความหมาย “ละเมิด,ดื้อดึง หรือ สุดโต่ง” ต่อคำสอนของศาสนา หรือกระทำเกิน (บิดอะฮฺ) ในศาสนามานำเสนอ
ผู้ดื้อดึง ละเมิด หรือสุโต่งในเรื่องศาสนาย่อมได้รับความหายนะอย่างแน่นอน หายนะอย่างไรละหรือ? พวกเขาสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ผู้อื่น โดยทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่า สิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องตามนัยยะแห่งศาสนา
เอาเข้าจริง เขานั่นหละเป็นผู้สร้างความเสียหายให้แก่ศาสนา แม้ว่าเขาจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ความเสียหายย่อมเกิดขึ้นทุกครั้งที่เราละเมิด หรือทุกคราที่เราดื้อดึงต่อคำสอนศาสนาเสมอ, ช่วงนี้โรคโควิดกำลังระบาด มุสลิมศรัทธามั่นจักต้องอยู่ในครรลองของศาสนาอย่างเคร่งครัด ท่านนบีสั่งให้ออกห่างจากผู้ติดเชื้อโรคระบาดเฉกเช่นวิ่งหนีการไล่ล่าของสิงโตสุดแรงเกิด ท่านนบีห้ามเข้าเมือง หรือเข้าบริเวณโรคระบาดกำลังแพร่เชื้อโดยเด็ดขาด
ครั้นหันมาพิจารณามุสลิม ณ เพลานี้ โรคโควิดกำลังระบาดอยู่แท้ๆ เรากลับไม่สนใจ กลับฝ่าฝืนคำสั่งศาสนา และไม่สนคำแนะนำของแพทย์ว่าด้วยการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคระบาดดังกล่าว เราไม่ใช้ผ้าปิดปากเลย เราไม่ล้างมือไม่ล้างเจล กินอาหารร่วมถาดอาหารเดียวกัน และยังรวมตัวกันละหมาดที่มัสญิด ทั้งที่เปอร์เซ็นต์การติดเชื้อโรคมีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก ใช่แต่เท่านั้น ศาสนาอนุญาตไม่ต้องไปละหมาดฟัรฺฎูที่มัสญิดได้ เพราะการชุมนุมดังกล่าว ส่งผลต่อการแพร่เชื้อโรคได้เป็นอย่างดี
เราดื้อดึง และละเมิดกฎเกณฑ์เยี่ยงนี้เสมอ สุดท้ายเราก็ติดเชื้อโรคระบาดจนได้ อีกทั้งยังแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นอีกต่างหาก ด้วยเพราะความดื้อดึง และละเมิดของเรานี่เอง ความหายนะจึงมาเยือน ทั้งๆ ที่มีการป่าวประกาศให้ป้องกันโรค เรียกได้ว่า ทุกสื่อทำหน้าที่บอกกล่าวแทบจะทุกวันทุกเวลา แต่เรากลับไม่สนใจ อ้างว่ามอบหมายต่อพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าทรงกำชับให้ป้องกันตนเองก่อน จากนั้นค่อยมอบหมาย แต่เราเล่นไม่ป้องกันอะไรเลย สุดท้ายส่งผลเสียหาย และความเดือดร้อนขยายวงกว้าง
ต่างศาสนาก็ตำหนิเรา ที่เราไม่ฟังคำตักเตือน ภาพลักษณ์ของมุสลิมกลายเป็นขี้ปากชาวบ้านไปเสียฉิบ ยากจะกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาได้
ท้ายนี้ขอเรียกร้องพี่น้องมุสลิม โปรดอย่าดื้อดึง ดื้อดันไม่ยอมฟังใคร จงนอบน้อมถ่อมตนต่อคำสอนของศาสนาเถิด เราอ้างว่า เราเป็นผู้เจริญรอยตามคำสอนของท่านนบี แต่เรากลับดื้อดึงต่อคำสอนของท่านนบีเสียเอง แบบนี้เราจะนิยามตัวเราว่ากระไร
- ตายเกลื่อนจากโรคร้าย หนึ่งในสัญญาณวันกิยามะห์
- ค้าขาย อิสลามห้ามเอาเปรียบผู้บริโภค
- กักตัวในบ้านเมื่อเกิดโรคระบาด ผลบุญเสมือนผู้ตายชะฮีด
- มุสลิมกักตุนสินค้า (จำหน่ายราคาสูง) บาปอันมหันต์นะจ้า
- ดุอาอฺให้ห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ
- หะดีษ นายจ้างไม่จ่ายค่าจ้าง อิสลามห้ามอ้อยอิ่งเด็ดขาด
- แท้จริงมนุษย์ที่เลวที่สุด คือ..บุคคลตีสองหน้า