กลลวงของชัยฏอน ที่คุณอาจยังไม่รู้!


4,860 ผู้ชม

กลลวงของชัยฏอน ที่คุณอาจยังไม่รู้! แต่มันทำให้ได้ข้อคิดว่าแม้แต่ชัยฏอนยังรู้ว่าพระองค์คือใคร แต่มันไม่ยอมรับเพราะมันต้องการหลอกลวงมนุษย์ต่อนั่นเอง....


กลลวงของชัยฏอน ที่คุณอาจยังไม่รู้!

1. บุคคลใดก็ตามที่ได้ยินเสียง “อะซาน” (ประกาศเชิญชวนสู่การนมาซ) แต่มิได้ลุกขึ้นไปนมาซ เขาคือพ่อของฉัน

2. บุคคลใดก็ตามที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย เขาคือ พี่ชายของฉัน

3. บุคคลใดก็ตามที่รับประทานอาหาร โดยปราศจากการกล่าว “บิสมิลลาฮิรเระฮ์มานิรเราะฮ์ฮีม” (ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ) เขาคือ ลูกของฉัน

4. บุคคลใดก็ตามที่บอกเล่าถึงการงานต่างๆ ของฉันให้แก่ผู้อื่นรับรู้ เขาคือ ศัตรูของฉัน

กลลวงของชัยฏอน ที่คุณอาจยังไม่รู้!

5. บุคคลใดก็ตามที่ไม่บอกเล่าการงานของฉันแก่ผู้อื่น เขาคือ มิตรสหายของฉัน และที่เป็นความลับเฉพาะพวกคุณรู้หรือไม่ว่า :

5.1 ถ้าหาก​พวกคุณอยู่ในสภาพที่กำลังจับพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน การกระทำนั้นจะทำให้ชัยฏอนมีอาการปวดหัวเป็นอย่างมาก?

5.2 การเปิดพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน จะทำให้ชัยฏอนล้มป่วยลง?

5.3 การอ่านพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน จะทำให้ชัยฏอนหมดแรง เป็นลม

5.4 การอ่านพระมหาคัมภีร์อัลกุอาน ยังทำให้อาการของชัยฏอนอยู่ในอาการขั้นโคม่า ไร้กำลังที่จะมาลวงล่อมนุษย์ได้? และยิ่งไปกว่านั้นในช่วงที่ผู้หนึ่งผู้ใดมีความคิด
และตั้งใจที่จะส่งเรื่องราวนี้ไปให้แก่ผู้อื่นได้รับรู้นั้น บรรดาชัยฏอนจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการเปลี่ยนความตั้งใจของเขาให้ล้ม เลิกความตั้งใจนั้นเสีย จงคิดใคร่ครวญในเรื่องการปฏิบัตินมาซของตนเอง ให้เสมือนกับที่สนใจยอดเงินคงเหลือในมือถือ!

เมื่อได้ยินเสียงอาซานดังกึกก้องขึ้น จงตอบรับเสียงอาซานด้วยการลุกขึ้นมุ่งสู่การนมาซ ให้เหมือนกับเวลาได้ยินเสียงสายเข้าของโทรศัพท์ รีบลุกขึ้นมุ่งไปหาโทรศัพท์! จงใช้นิ้วมือช่วยในการกล่าวซิกร์ (การรำลึก) ต่างๆ ให้เหมือนกับที่ใช้นิ้วจิ้มไปที่แอพต่างๆ บนหน้าจอโทรศัพท์ !

จงอ่านพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานอย่างสม่ำเสมอ ให้เหมือนกับที่อ่านโพสต์หรือคอมเม้นต์ต่างๆ ในเฟสบุคและไลน์ ผ่านไปเกือบครึ่งทางแล้วสำหรับการใช้ชีวิตอยู่ในเดือนรอมฏอนอันทรงเกียรติปี นี้ ในเดือนแห่งการเป็นแขกวีไอพีของพระองค์ มีรางวัลอันยิ่งใหญ่ลดแลกแจกแถมมากมายในเดือนนี้ เพียงแค่แลกกับการปฏิบัติอามั้ลอิบาดัต (เคารพภักดี) เพียงน้อยนิด การนอนในตอนกลางวันที่ดูธรรมดาไม่มีราคาค่างวด หรืออาจเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจในสายตามบุคคลทั่วไป ทว่าการนอนหลับของผู้ถือศีลอดช่วงกลางวันในเดือนรอมฎอน ถูกตีราค่างวดเทียบเท่ากับการปฏิบัติอามั้ลอิบาดัต (เคารพภักดี) ต่อพระองค์

หากในเดือนนี้ เดือนที่ชัยฏอนถูกล่ามโซ่…..เดือนที่ประตูนรกถูกปิด….. เดือนที่ประตูสวรรค์ถูกเปิด….. แต่ยังมีบางคนออกห่างจากเรื่องราวของศาสนา ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในตัวของเขา แทนการเข้าสวรรค์ที่ประตูเปิดอ้ารับ กลับมุ่งลงสู่นรกทั้งๆ ที่ประตูนรกปิดสนิท

ดังนั้น จงตระหนักเถิดว่า ไม่เกี่ยวกับชัยฏอนมารร้าย ทว่าล้วนมาจากตัวตนของเขาทั้งสิ้น จงอย่าได้แอบอ้างใส่ความชัยฏอนอีกเลย อีกครึ่งทางที่เหลือกว่าจะสิ้นสุดปลายทางแห่งรอมฎอ นอันจำเริญ อย่าคิดว่าที่เหลืออยู่มันน้อย แต่จงเริ่มเถิด นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เพื่อสะสมเสบียงในการเดินทางไกลที่เราเอง ต่างก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะต้องหวนกลับคือสู่พระองค์

ชัยฏอน มารร้าย คือ?

ชัยฏอน หรือ ญิน หรือที่เรียกกันว่า ปีศาจนั่นเอง ช่วงแรกยุซรอมักเจอะเจอเจ้าชัยฏอนในความฝัน และได้ถามมันว่ารู้จักอัลลอฮ์ ไหมพวกมันบอกว่า อ๋อ ! ผู้ที่สร้างโลกใบนี้ใช่ไหมฉันไม่รู้จักหรอก เมื่อตื่นขึ้นยังนึกแปลกใจว่าทำไมถึงฝันไปได้ขนาดนั้น

แต่มันทำให้ได้ข้อคิดว่าแม้แต่ชัยฏอนยังรู้ว่าพระองค์คือใคร แต่มันไม่ยอมรับเพราะมันต้องการหลอกลวงมนุษย์ต่อนั่นเอง ยุซรอจึงรำลึกถึงพระองค์ทันที  พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นฟ้าและจักรวาล

ศาสนาอิสลามนั้นยอมรับการมีอยู่ของญินและสิ่งเร้นลับ แต่ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่ชั่วร้ายเหล่านั้น มุสลิมที่ไปข้องเกี่ยวหรือศรัทธากับสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นการตั้งภาคีกับพระองค์เป็นการทำ "ชิริก" บุคคลนั้นต้องกล่าวคำปฏิญาณและปฏิบัติตนใหม่ แก้ไขและขออภัยกับพระองค์ด้วยความจริงใจเพื่อให้พระองค์ทรงยกโทษให้ และต้องไม่หวนกลับไปทำสิ่งนั้นอีกเพราะมันเป็นการหลอกลวงของชัยฏอนที่เสี้ยมสอนให้กับคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และสิ่งเหล่านั้นได้อยู่ภายใต้อำนาจของพระองค์อัลลอฮ์

ถ้ามุสลิมมีจิตใจที่เข้มแข็งละหมาดครบทุกเวลา ทุกวัน รำลึกถึงพระองค์ตลอดเวลา ไม่มีสิ่งไหนจะทำอันตรายมนุษย์ได้นอกจากได้รับการอนุมัติจากพระองค์ ที่จริงแล้วพี่น้องมุสลิมน่าจะเกรงกลัวอัลลอฮ์ มากกว่าที่จะกลัวชัยฏอนนะ เพราะนรกที่พระองค์ได้สร้างไว้ให้กับผู้ปฏิเสธศรัทธานั้นมันน่ากลัวมากกว่ายิ่งนัก

ความว่า:  "แท้จริงชัยฏอนนั้น เพียงขู่ได้เฉพาะบรรดาผู้ที่ปฏิบัติตามมันท่านั้น ดังนั้นพวกเจ้าจงอย่ากลัวพวกเขา และจงกลัวข้าเถิดหากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา" (Al-Quran 3:175)

โดย: ซัยหนับ กุมมีย์ , www.islammore.com

สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์

https://islamhouse.muslimthaipost.com/

อัพเดทล่าสุด