1. หน้าหลัก
  2. เรื่องน่ารู้ ไทยมุสลิม

ตกขาวสีน้ำตาล ละหมาดได้ไหม?

19,605 ผู้ชม

ตกขาวสีน้ำตาล ละหมาด เสียน้ำละหมาด อาบน้ำละหมาด ผู้หญิง

ในระยะปลายๆของการมีรอบเดือน ก่อนจะหมด สตรีไม่เห็นร่องรอยของเลือดหรือตกขาวแล้ว ถามว่าเธอต้องละหมาดในวันนั้นหรือไม่...


ตกขาวสีน้ำตาล ละหมาดได้ไหม?

คำถาม : ในระยะปลายๆของการมีรอบเดือน ก่อนจะหมด สตรีไม่เห็นร่องรอยของเลือดหรือตกขาวแล้ว ถามว่าเธอต้องละหมาดในวันนั้นหรือไม่ หรือมีข้อปฏิบัติในกรณีนี้อย่างไร ?

คำตอบ : ในเมื่อปกติแล้วเธอไม่เคยมีตกขาวเหมือนสตรีคนอื่น ในกรณีนี้จำเป็นต้องทำความสะอาดและละหมาด แต่ถ้าปกติแล้วเธอมีตกขาวหลังสิ้นสุดเลือดแล้ว จำเป็นต้องรอตกขาวมาก่อนแล้วจึงจะละหมาดได้

ตกขาวสีน้ำตาลหลังมีประจำเดือน อันตรายไหม

การมีตกขาวสีน้ำตาลเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานผิดปกติ ความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกายทั้งก่อนและหลังมีประจำเดือน หรือบางครั้งตกขาวสีน้ำตาลอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา แต่หากเกิดตกขาวสีน้ำตาลหลังมีประจำเดือน สาเหตุส่วนใหญ่มักจะมาจากผนังมดลูกลอกตัวช้า หรือลอกออกมาเป็นประจำเดือนไม่หมด ทำให้กลายเป็นตกขาวสีน้ำตาลภายหลังจากมีประจำเดือนไปแล้ว

โดยทั่วไปตกขาวสีน้ำตาลหลังมีประจำเดือนมักไม่เป็นอันตราย แต่หากเป็นหลายครั้ง หรือมีอาการผิดปกติอย่างอื่นร่วม เช่น คันในช่องคลอด มีกลิ่นเหม็น ปวดท้องร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ มีเลือดออกกะปริดกะปรอย แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย ตรวจภายในเพื่อนำตัวอย่างตกขาวไปตรวจ หรืออาจใช้วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap Test) ในกรณีที่สงสัยว่าอาจป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เพื่อทำการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

แนวทางการรักษาตกขาวสีน้ำตาล

  1. ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอาการตกขาวสีน้ําตาล ช่วยให้รักษาได้อย่างตรงจุด เพราะถ้าหากอาการตกขาวสีน้ำตาล เกิดสาเหตุจากโรคอื่นที่ไม่ใช่ผนังมดลูกลอกตัวช้า (ช่วงหลังมีประจำเดือน) จะได้รักษาอย่างทันท่วงที
  2. หากพบว่าตกขาวผิดปกติเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเกิดจากเชื้อรา แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อรา และถ้าผู้ที่มีอาการตกขาวผิดปกติ ซึ่งสาเหตุมาจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ควรให้คู่ของคุณเข้ารับการรักษาอาการดังกล่าวร่วมด้วย
  3. รับประทานสมุนไพรเพื่อช่วยในการบำรุงมดลูก อย่างเช่น ยาสตรี หรือว่านชักมดลูก เป็นต้น ทั้งนี้การรับประทานยาสมุนไพรควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์

ทั้งนี้ ผู้หญิงควรรักษาความสะอาดช่องคลอดและอวัยวะเพศอยู่เสมอ โดยการล้างช่องคลอดด้วยน้ำและสบู่อ่อน เช่น สบู่เด็ก ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีชนิดต่างๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบระคายเคืองได้ และสวมใส่กางเกงชั้นในที่สะอาด ทำจากผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่หนาและไม่อับชื้น

ที่มา: www.islammore.com , www.honestdocs.co

มาแรงรอบสัปดาห์

อัพเดทล่าสุด