ถ้าหากว่าเมื่อก่อน (สมัยเราไม่คลุมฮิญาบ) เรามีแฟนเป็นทอม (ผู้หญิงที่ทำตัวเลียนแบบเป็นผู้ชาย) คบกันถึงปัจจุบันนี้ เรามีความผิดไหม?
ถ้าหากว่าเมื่อก่อน (สมัยเราไม่คลุมฮิญาบ) เรามีแฟนเป็นทอม (ผู้หญิงที่ทำตัวเลียนแบบเป็นผู้ชาย) คบกันถึงปัจจุบันนี้ เรามีความผิดไหม?
ตอบโดย อ.มุรีด ทิมะเสน
คําถาม มี 2 ประเด็นด้วยกัน
ประเด็นแรก เมื่อก่อนมิได้คลุมฮิญาบ แต่ปัจจุบันนี้คลุมฮิญาบ แล้วนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ดียิ่ง เพราะการไม่คลุมฮิญาบถือเป็นบาปใหญ่ ภายหลังได้ศึกษาอย่างเข้าใจแล้วถึงตัดสินใจคลุมฮิญาบ โดยให้เตาบะฮตัวต่อพระองค์อัลลอฮฺ
- โทษของการไม่คลุมฮิญาบ
- การคลุมฮิญาบ ที่ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอาน
- กำไลข้อเท้า สร้อยข้อเท้า หญิงมุสลิมใส่ได้ไหม?
ท่านนบีมุหัมมัด (ซ.ล.) กล่าวไว้ว่า “ลูกหลานอาดัมล้วนมีความผิดและบรรดาผู้มีความคิดที่ประเสริฐที่สุดคือ บรรดาผู้กลับเนื้อกลับตัว (ยังพระองค์อัลลอฮฺ)”
(เล่าโดยท่านอนัส บันทึกโดยติรมีซีย์, อิบนุ มาญะฮฺ, หากิม, อะหมัด และท่านอบู ยุอลา)
เงื่อนไขของการเตาบะฮตัวมีดังนี้
1. ละทิ้งสิ่งที่เป็นข้อห้ามตามหลักการของศาสนาทันที
2. เศร้าโศกเสียใจต่อสิ่งที่ได้กระทําผิดมาในอดีต
3. จะต้องตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่หวนกลับไปกระทําสิ่งต้องห้ามนั้นอีก (หากละทิ้งข้อหนึ่งข้อใด ถือว่าไม่ครบ เงื่อนไขของการเตาบะฮฺ)
ประเด็นสอง กรณีที่ถามต่ออีกว่า การคบกับทอมมีความผิดแค่ไหน ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า อิสลามไม่มีระบบแฟนดังเช่นค่านิยมของศาสนิกอื่นดังที่ได้อธิบายมาแล้วในข้อที่ 30 ส่วนประเด็นการคบทอม เป็นแฟนนั้นถือว่ามีความผิดตามหลักการของศาสนาอย่างชัดเจน ดังที่ท่านนบีมุหัมมัด (ซ.ล.) ได้กล่าวไว้ว่า
“บุคคลใดก็ตามที่มีพฤติกรรมเยี่ยงพฤติกรรม กลุ่มชนของนบีลูฏ (อ.) (คือพวกสะดูม) พวกเขาจะถูกสาปแช่ง (หมายถึง พระองค์อัลลอฮฺทรงงดความเมตตาพวกเขา)”
(บันทึกโดยติรฺมีซีย์)
ดังเช่นมุสลิมะฮฺท่านหนึ่งคบหาสตรีที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน ทางเพศ (กล่าวคือชอบผู้หญิงด้วยกัน) แล้วไซร้ ศาสนาถือว่านางกําลัง มีพฤติกรรมเฉกเช่นพฤติกรรมกลุ่มชนของนบีลูฏ (อ.)ในอดีตที่นิยม รักเพศเดียวกัน และนางก็จะถูกงดความเมตตาจากพระองค์อัลลอฮฺ ตลอดไปจนกว่าจะละทิ้งการกระทําเช่นนั้น ส่วนกรณีถึงขั้นเปิดเผย เอาเราะฮฺหรือร่วมหลับนอนกัน เช่นนี้ ถือว่าหะรอมอย่างหนัก
ท่านนบีมุหัมมัด (ซ.ล.) กล่าวไว้ว่า :
“ไม่อนุญาตให้ผู้ชายมองเอาเราะฮฺของผู้ชาย (ระหว่างสะดือถึงหัวเข่า) และไม่อนุญาตให้ผู้หญิงมองเอาเราะฮฺของผู้หญิง และไม่อนุญาตให้ผู้ชายเปลือยกายกับผู้ชายภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน และไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเปลือยกายกับผู้หญิงภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน”
(เล่าโดยบิดาของอู สะอีด บันทึกโดยติรุมซีย์, อิบนุ, มาญะฮฺ, อิบนุ คุชัยมะฮฺ, และท่านอะหมัด)
ฉะนั้น แนวทางแก้ไขจึงจำเป็นที่จะต้องเลือกการกระทำเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด จากนั้นให้รีบเตาบะฮฺตัวยังพระองค์อัลลอฮฺโดยทันที เพราะสิ่งดังกล่าวเป็นความผิดที่ร้ายแรงยิ่ง อีกทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนกฎของธรรมชาติที่พระองค์อัลลอฮฺทรงสร้างให้ผู้ชายคู่กับผู้หญิงอีกด้วย