วันนี้วันที่ 31 ตุลาคม 2561 เป็นวันฮาโลวีน (Halloween) หรือวันปล่อยผีเป็นประเพณีเก่าแก่ของศาสนาคริสต์ ซึ่งประเทศไทยเราก็นิยมจัดงาน...
วันนี้วันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันฮาโลวีน (Halloween) หรือวันปล่อยผีเป็นประเพณีเก่าแก่ของศาสนาคริสต์ ซึ่งประเทศไทยเราก็นิยมจัดงาน
เห็นภาพการร่วมของมุสลิมบางคนแต่งตัวที่จินตนาการว่า เป็นผี เนื่องในวันฮาโลวีน ซึ่งเป็นเทศกาลของพวกศาสนาคริสต์ แล้วรู้สึกหดหู่เศร้าใจยิ่งนัก ทั้งที่อิสลามไม่มีหลักความเชื่อเรื่องผีๆ หรือดวงวิญญาณของผู้ตายที่มาปะปนกับชีวติความเป็นอยู่ของมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เลย
วันฮาโลวีน ( Halloween) กร่อนเสียงจาก "ออลแฮโลอีฟนิง" หมายถึง "เย็นนักบุญทั้งหลาย" เป็นเทศกาลประจำปีเฉลิมฉลองในหลายประเทศทุกวันที่ 31 ตุลาคม อันเป็นวันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลายของศาสนาคริสต์ตะวันตก เป็นวันสมโภชที่ศาสนาคริสต์รับมาซึ่งเดิมได้รับอิทธิพลจากเทศกาลเก็บเกี่ยวของเคลต์ โดยอาจมีเหง้าเพเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซาวิน (Samhain) ของชาวเกล (Gaels) ฮาโลวีนกำเนิดขึ้นแยกกับซาวินและมีเหง้าศาสนาคริสต์อย่างเดียว
กิจกรรมฮาโลวีนตรงแบบมีทริกออร์ทรีต (trick-or-treating) ร่วมงานเลี้ยงเครื่องแต่งกาย ประดับตกแต่ง แกะสลักฟักทองเป็นแจ็กโอแลนเทิร์น (jack-o'-lantern) จุดคบเพลิง ไปบ้านผีสิงที่จัดขึ้น เล่นตลก เล่าเรื่องสยองขวัญและดูภาพยนตร์สยองขวัญ พวกเขา นิยมแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจและพาเพื่อนฝูงไปงานเลี้ยงฉลองกัน โดยในวันฮาโลวีนนั้น จะมีการประดับแสงไฟ ต่างๆ ให้คล้ายกับเมืองภูตผีปีศาจ โดยสัญลักษณะของวันฮาโลวีน คือ โคมไฟฟักทองแกะสลัก
วันฮาโลวีน หรือวันปล่อยผี มีความเชื่อว่าพวกเขาได้อยู่บนสวรรค์ และพวกที่ยังต้องชดใช้โทษบาปในไฟชำระ รากความเชื่อแท้จริงของคาทอลิกอันเกี่ยวกับความตาย, นักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ และวิญญาณในไฟชำระอันเป็นความเชื่อสำคัญอันหนึ่งของพวกเขา
ไม่เห็นคนกาเฟร สักคนมาร่วมงานปีใหม่ของอิสลามที่ผ่านพ้น หรือแม้กระทั่ง วันอีด วันรื่นเริงของอิสลามก็ตาม ทั่งที่ไม่มีข้อห้ามสำหรับพวกเขาแต่เห็นแต่มุสลิมนี่แหละ มักจะร่วมงานปีใหม่ของกาเฟรที่จะถึงและแม้กระทั่ง ปีใหม่ของเทพเจ้าแห่งความตาย (ฮาโลวีน) 31 ตุลา ที่ผ่านมา ทั้งที่มันเป็นข้อห้ามสำหรับมุสลิม
ซุบฮานัลลอฮฺ!!!
เป็นถึงขนาดนี้เชียวหรือ? อยากฝากให้พี่น้องช่วยกันเตือนๆและนำเสนอๆ กันหน่อย
ไม่ใช่แค่มาตำหนิพี่น้องที่เอามาโพสต์ มาบอกกล่าวว่า ประจานเขาทำไม ก็ไปเตือนเขาซิ ศาสนาคือการตักเตือนเขาไม่ใช่หรอเอิ่มมม!! เพราะเรามัวแต่โลกสวยกับข้อแนะนำดีดี แต่งอมือ งอเท้าอะไรนีั้ซิเราถึงเห็นสังคม วิบัติ ขึ้นทุกวัน... อัลลอฮุอักบัร
เราหวังว่า พี่น้องที่อยู่ในรูป คงจะเตาบัตตัว และทำสิ่งเหล่านี้ ครั้งสุดท้ายในชีวิตนะ อินชาอัลลอฮฺ
ปล..ไม่ว่าจะเป็นเพราะกิจกรรมในโรงเรียนที่ครูสอน แต่นี้คือการจัดกิจกรรมเลียนแบบที่เป็นความเชื่อของเขา
และอย่าไปอ้างว่าทุกสิ่งอยู่ที่เจตนา เพราะเจตนาก็ต้องอยู่ที่การกระทำว่าอิสลามห้ามหรือไม่ด้วย ไม่ใช่แค่อ้างว่าหนูไม่คิดอะไร หนูแต่งตัวเท่านั้น
งั้นหนูก็ใส่ ชุดแม่ชี ชุดจีวรพระได้ซิ ...
อัลลอฮฺทรงตรัสในอัลกุรอานว่า
"ละกุม ดีนุกุม วะ-ลิยะดีน"
ความว่า : "สำหรับพวกท่านคือศาสนาของพวกท่านและสำหรับฉันคือศาสนาของฉัน" (ซูเราะห์อัลกาฟิรูน: 6)
สิ่งที่ได้รับจากซูเราะฮฺนี้
1. เป็นการจำแนกระหว่างพวกศรัทธากับพวกปฏิเสธการศรัทธาและพวกมุชริกีนอย่างชัดเจน คือการศรัทธาและการปฏิบัติที่แตกต่างกัน
2. ห้ามมิให้มุสลิมนำการปฏิบัติของศาสนิกอื่นมาปฏิบัติหรือเข้าร่วมอย่างเด็ดขาด
3.ผู้ใดนำการปฏิบัติของศาสนิกอื่นมาปฏิบัติหรือเข้าร่วมถือว่าเขาเป็นกาเฟร (ผู้ปฏิเสธ )
ท่านรอซูลฯกล่าวว่า
ความว่า : " บุคคลใดที่เลียนแบบชนกลุ่มหนึ่ง เขาก็เป็นเสมือนส่วนหนึ่งของชนกลุ่มนั้นด้วย "
(บันทึกโดยอบูดาวูด)
“ แน่นอนพวกเจ้าจะปฏิบัติตามกลุ่มชนที่มาก่อนพวกเจ้า คืบเป็นคืบ ศอกเป็นศอก ถึงแม้พวกเขาจะเข้ารูแย้ แน่นอนพวกเจ้าก็จะเข้าตามไป”
พวกเขา(บรรดาศอฮาบะฮ์ )ได้ถามว่า : ชาวยิวและชาวนาซอรอ (คริสต์)ใช่ไหม?
ท่านนบีได้กล่าวว่า : จะมีใครอีกหรือ?
(บันทึกโดยบุคอรีและมุสลิม)
ดังนั้น มุสลิมทุกคนต้องไม่เข้าไปมีส่วนเข้าร่วมในเทศกาล วันฮาโลวีน นี้