ประวัติย่อท่านนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสสลาม กับการถูกโยนเข้ากองไฟ
ประวัติย่อท่านนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสสลาม กับการถูกโยนเข้ากองไฟ
ท่านนบีอิบรอฮีม (อ.) สืบตระกูลมาจากนบีนัวะห์ และเป็นต้นตระกูลของอาหรับและอิสรออีล ท่านกําเนิดในประเทศอิรัคในท่ามกลางเจ้าเมือง ซึ่งมีอํานาจเด็ดขาด ยึดถือเอารูปปั้นเป็นสิ่งสักการะ บิดาของท่านชื่อ อาซาร มีอาชีพ ในการแกะสลักรูปปั้นต่าง ๆ
เมื่อนบีอิบรอฮีม (อ.) มีพระชนมายุได้ 40 พรรษา อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้แต่งตั้งเป็นศาสนทูตในสมัยผู้มีอํานาจเด็ดขาด คือ นัมรูช ได้เริ่มชักชวนบิดาเป็นคนแรกให้มาสักการะอัลเลาะห์เจ้าองค์เดียว แต่บิดาของท่านได้ปฏิเสธ และห้ามนบีอิบรอฮีม (อ.) มิให้ดูหมิ่นเหยียดหยามรูปปั้น ทั้งหลาย
หลังจากได้รับข่าวตําหนิจากอิบรอฮีมแก่รูปปั้นยิ่งขึ้น ประชาชนจึงได้ไปพบอิบรอฮีมเพื่อซักถามข้อเท็จจริงในการศรัทธาอิบรอฮีมจึงถามพวกนั้นว่า พวกท่านสักการะอะไร ในศาสนาของพวกท่าน พวกนั้นตอบว่า เราสักการะรูปปั้น ตามปู่ย่าตายายได้รับนับถือมาแต่กาลก่อน รูปปั้นที่พวกท่าน ทั้งหลายศรัทธานั้น หาทําประโยชน์ให้แก่พวกท่านแต่อย่างใดไม่ อัลเลาะห์เจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่สร้างท่าน ให้อาหารท่าน ให้การช่วยเหลือต่าง ๆ สามารถทําให้เป็นให้ตายได้และ อิบรอฮีมได้ให้สัญญากับพวกนั้นว่า ท่านจะทําลายรูปปั้นทั้งหลายให้หมดสิ้น
เมื่อเจ้าเมืองนัมรูชได้ทราบข่าวว่า นบีอิมรอฮีม (อ.) ประกาศศาสนายิ่งขึ้น เจ้าเมืองนมรูชก็ได้เชิญนบีอิมรอฮีม (อ.) มาพบและถามนบีอิบรอฮม (อ.) ว่าใครเป็นพระเจ้าของท่าน นบีอิบรอฮีม (อ.) ตอบว่าพระเจ้าของข้าฯ สามารถทําให้เป็นและตายได้ นัมรูชตอบว่า ฉันก็ทําให้เป็นให้ตายได้เหมือนกัน โดยนัมรูชได้เอาชายมาสองคนแล้วฆ่าเสียหนึ่งคน ไม่ฆ่าหนึ่งคน เป็นการแสดงให้เห็นว่า ทําให้เป็นและทําให้ตาย
นบีอิมรอฮีม (อ.) กล่าวต่อไปว่า แท้จริงอัลเลาะห์เจ้าได้ ให้ดวงอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก และให้มาตกทางตะวันตก ท่านจงเปลี่ยนให้ไปขึ้นทางตะวันตก และมาตกทางทิศตะวันออกได้หรือไม่ นัมรูชจนปัญญาไม่สามารถจะทําได้ จึงได้จํานนในการถกเถียงกับนบีอิบรอฮีม (อ.)
อยู่มามิช้านาน นบีอิบรอฮีม (อ.) ได้ฉวยโอกาสเข้าทําลายรูปปั้นในที่สักการะของพวกนัมรูช เนื่องจากพวกนั้นจัดงานรื่นเริงวันตรุษอย่างมโหฬารตามที่ได้ให้คํามั่นสัญญาไว้ โดยใช้ขวานทําลายรูปปั้นจนหมดสิ้น นอกจากรูปใหญ่ ซึ่งท่านนบีอิบรอฮีม (อ.) ได้เอาขวานไปวางไว้ที่คอรูปใหญ่ เพื่อแสดงให้รู้ว่ารูปใหญ่เป็นผู้ทําลายรูปเล็ก ๆ เหล่านั้น
เมื่อพวกนัมรูชได้มายังที่สักการะ เขาเห็นว่ารูปปั้นทั้งหลายถูกทําลายอย่างไม่มีชิ้นดี พวกนั้นก็มั่นใจว่าไม่มีใครจะมาทําลายนอกจากนบีอิบรอฮีม (อ.) คนเดียว ดังนั้นเขาจึงเรียกนบีอิบรอฮีม (อ.) มาสอบถาม
นบีอิบรอฮีม (อ.) ได้ตอบว่า รูปปั้นรูปใหญ่นี้แหละเป็นผู้ทําลายจงถามรูปปั้นใหญ่ นั้นดูซิว่า ใครเป็นผู้ทําลาย หากว่ารูปปั้นมันพูดได้พวกนั้นมั่นใจ นบีอิบรอฮีม (อ.) เป็นผู้ทําลาย จึงมีมติให้เผานบีอิบรอฮีม (อ.) ทั้งเป็น เพื่อให้สาสมกับที่ตนได้ทําลายรูปปั้นจึงได้ประกาศให้ประชาชนขนฟื้นมาทั่วทั้งเมือง
เมื่อเขาได้ก่อไฟขึ้นเป็นที่พอใจแล้ว ก็จะนํานบีอิบรอฮีม โยนเข้ากองไฟ เนื่องจากความร้อนสูงไม่สามารถจับโยนเข้าไปได้ จึงใช้กระดานหกให้นบีอิบรอฮีม (อ.) เข้าไปในกองไฟ อัลเลาะห์ (ซ.บ.) เจ้า ได้มีพระบัญชาแก่ไฟว่า เจ้าจงเย็นและให้ความปลอดภัยแก่อิบรอฮีม นี้คือความสามารถของอัลเลาะห์ (ซ.บ.) เจ้า และมัวะอ์ยีซาตของนบีอิบรอฮีม (อ.) จึงได้รับความปลอดภัย แม้กองไฟจะลุกมนี้มาสักเพียงใดก็ตาม ไม่ทําให้เกิดความร้อนแก่นบีอิบรอฮีม (อ.)