ทำไมต้องไปฮัจญ์? ไกลถึงซาอุฯ


10,913 ผู้ชม

หลายคนคงสงสัยว่า ฮัจญ์ คืออะไร ทำไมถึงต้องไป ฮัจญ์?


ทำไมต้องไปฮัจญ์? ไกลถึงซาอุฯ

หลายคนคงสงสัยว่า ฮัจญ์ คืออะไร ทำไมถึงต้องไป ฮัจญ์?  

 การที่มุสลิมต้องไปประกอบพิธีฮัจญ์นั้น เพราะอยู่ในหลักการปฏิบัติของอิสลาม 

หนึ่งในหลักการปฏิบัติของอิสลาม คือ การประกอบพิธีฮัจญ์โดยการครองชุดอิห์รอมและทำการฏอวาฟยังบัยตุลลอฮ์ อัลฮะรอมหลังฏอวาฟมีการนมาซ และมีการเดินสะแอระหว่างภูเขาศอฟาและมัรวะฮ์และการไปวุกูฟยังทุ่งอะรอฟะฮ์และมุซดะลิฟะฮ์และมินา มีการค้างแรมที่นั้น อะมั้ลที่ต้องปฏิบัติในมินาอีก และ....

ทำไมต้องไปฮัจญ์? ไกลถึงซาอุฯ     

ฉะนั้นถือว่า  การประกอบพิธีฮัจญ์   เป็นหลักการหนึ่งของอิสลาม  ที่พระองค์อัลลอฮฺ ตะอาลาทรงตรัสไว้ในคัมภีร์ อัลกุรอาน ในบทซูเราะฮฺ  อาลิอิมรอน  อายะฮฺที่  97

ความว่า :  "และสำหรับอัลลอฮฺ(มีบทบัญญัติ)  เหนือบรรดามนุษย์  คือการทำฮัจญ์  ณ  บัยตุลลอฮฺ สำหรับผู้ที่มีความสามารถเดินทางไปได้  "

หมายถึงว่า  มุสลิมที่มีสุขภาพแข็งแรง สติปัญญาสมบูรณ์ มีทรัพย์สินเพียงพอในการใช้จ่ายโดยมิต้องเป็นหนี้สินและเดือดร้อนบุคคลที่ต้องรับผิดชอบ และเส้นทางที่จะเดินทางไปจะต้องปลอดภัย

การทำฮัจญ์ เป็นอิบาดะห์หลักต่ออัลลอฮฺ ซึ่งมีเป้าหมายในการขัดเกลาจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ ผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ต้องใช้ความอุตสาหะ เสียสละทั้งกำลังกาย ทรัพย์ สติปัญญาและมีความสามารถอดทนต่อความยากลำบาก และมีความสามารถที่จะไปได้

สถานที่สำคัญที่ใช้ในการประกอบพิธีฮัจย์ คือ ทุ่งอารอฟะห์,ตำบลมุซดะลิฟะห์,ตำบลมีนา,และอัล-กะบะฮ์

ทำไมต้องไปฮัจญ์? ไกลถึงซาอุฯ

ลำดับขั้นตอนของพิธีฮัจญ์เรียงตามรุก่นและวาญิบฮัจญ์

1. เริ่มต้นด้วยการครองอิหฺรอม คือการตั้งเจตนาเข้าสู่พิธีฮัจญ์ ( รุก่น ) จากสถานที่ที่กำหนด (วาญิบ) 

2. การวุกูฟที่ทุ่งอะรอฟะฮฺ   เริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์คล้อยของวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ จนกระทั้ง ดวงอาทิตย์ตก ( รุก่น )

3. การค้างแรมที่มุซดะลิฟะฮฺ  เริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตกของคืนวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ จนกระทั้งเวลาซุบฮฺ ( วาญิบ )

4. การขว้างเสาหิน 7 ก้อนที่ญัมรอตุลอะเกาะบะฮฺ ที่มีนา เริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ จนกระทั้งดวงอาทิตย์ตก ( วาญิบ )

5. การโกนศีรษะหรือการตัดผม เมื่อกระทำมาถึงตอนนี้แล้วเรียกว่า ตะฮัลลุลเอาวัล   คือการเปลื้องชุดอิหฺรอมครั้งที่ 1  ( รุก่น )

6. การฏอวาฟบัยตุลลอฮฺ  7 รอบ ( รุก่น )

7. การเดินสะแอระหว่างภูเขาซอฟาและมัรวะฮฺ  7 เที่ยว ( รุก่น ) เมื่อฏอวาฟและสะแอแล้วเรียกว่า ตะฮัลลุลซานี  คือการเปลื้องอิหฺรอมครั้งที่ 2 

8. การค้างแรมที่มีนา ในค่ำคืนของวันตัชรีก  ( วาญิบ )

9. การขว้างเสาหินทั้ง  3  ต้น  ในวันที่ 11  12  13 ซุลฮิจญะฮฺ ต้นละ 7 ก้อน ( วาญิบ )

10. การฏอวาฟวิดาอฺ ( ฏอวาฟอำลา คือการเวียนรอบกะบะฮฺเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกจากดินแดนเมืองมักกะฮฺเพื่อจะเดินทางกลับ ) ( วาญิบ )

รุก่นและวาญิบของการประกอบพิธีฮัจญ์  มีความแตกต่างกัน  คือ

ผู้ใดละทิ้งรุก่นหนึ่งรุก่นใดของการทำฮัจญ์  การทำฮัจญ์ของเขาใช้ไม่ได้  และจำเป็นจะต้องไปทำฮัจญ์ใหม่ในปีต่อไป  ส่วนผู้ที่ละทิ้งวาญิบ  ข้อหนึ่งข้อใด  จำเป็นที่เขาจะต้องเสียดัม  (เชือดสัตว์พลี)

ทำไมต้องไปฮัจญ์? ไกลถึงซาอุฯ

ข้อห้ามสำหรับผู้ที่ครองอิหฺรอม

1. ห้ามสวมเสื้อผ้าที่มีรอยเย็บ  กางเกง  กางเกงชั้นใน  ห้ามสวมหมวก ส่วนผ้าที่ไม่ได้เย็บเข้ารูปอนุญาตให้สวมได้แม้ว่าจะมีรอยเย็บ เช่น ผ้าโสร่ง ถ้าเราตัดออกเป็นผ้าผืนยาวๆ ก็ถือว่าใส่ได้ แม้ว่าจะมีรอยเย็บ(สำหรับผู้ชาย)

2. ห้ามใส่เครื่องหอมหรือน้ำหอมทุกชนิด

3. ห้ามตัดเล็บ ตัดผม  โกนหนวด

4. ห้ามพูดจาหยาบคาย  ไร้สาระ  เกี้ยวพาราสี  การนินทา และการทะเลาะวิวาท

5. ห้ามมีเพศสัมพันธ์  เล้าโลม  กอดจูบ

6. ห้ามจัดพิธีนิกะฮฺ(แต่งงาน)หรือการหมั้น

7. ห้ามไล่ล่าสัตว์ในเขตแผ่นดินฮะราม(ห้าม)

8. ห้ามตัดหรือถอนต้นไม้ในเขตแผ่นดินฮะราม

การประกอบพิธีฮัจญ์มี 3 แบบ

1.ตะมัตตัวะอฺ คือผู้ครองอิหฺรอมตั้งเจตนาทำอุมเราะฮฺก่อนการทำฮัจญ์ ขณะที่เข้าสู่เทศการฮัจญ์แล้ว (ส่วนมากนิยมทำฮัจญ์แบบตะมัตตัวะอฺ คนไทยก็เช่นกัน)

2. อิฟร้อด คือผู้ครองอิหฺรอม หลังจากการทำการตอวาฟกุดูมแล้ว เขาจะต้องสวมชุดอิหฺรอมจนกระทั้งถึงวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ หลังจากนั้นจึงทำอุมเราะฮฺ

3. กิรอน คือผู้ครองอิหฺรอมตั้งเจตนาทำอุมเราะฮฺและการทำฮัจญ์พร้อมกัน 

หลังจากการทำอุมเราะฮฺคือตอวาฟและสะแอแล้ว ไม่ต้องโกนศีรษะหรือตัดผม แต่ให้เขาครอง อิหฺรอมกระทั้งถึงวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ

https://islamhouse.muslimthaipost.com/article/21877

อัพเดทล่าสุด