หลายคนคงสงสัยว่า ฮัจญ์ คืออะไร ทำไมถึงต้องไป ฮัจญ์?
ทำไมต้องไปฮัจญ์? ไกลถึงซาอุฯ
หลายคนคงสงสัยว่า ฮัจญ์ คืออะไร ทำไมถึงต้องไป ฮัจญ์?
การที่มุสลิมต้องไปประกอบพิธีฮัจญ์นั้น เพราะอยู่ในหลักการปฏิบัติของอิสลาม
หนึ่งในหลักการปฏิบัติของอิสลาม คือ การประกอบพิธีฮัจญ์โดยการครองชุดอิห์รอมและทำการฏอวาฟยังบัยตุลลอฮ์ อัลฮะรอมหลังฏอวาฟมีการนมาซ และมีการเดินสะแอระหว่างภูเขาศอฟาและมัรวะฮ์และการไปวุกูฟยังทุ่งอะรอฟะฮ์และมุซดะลิฟะฮ์และมินา มีการค้างแรมที่นั้น อะมั้ลที่ต้องปฏิบัติในมินาอีก และ....
ฉะนั้นถือว่า การประกอบพิธีฮัจญ์ เป็นหลักการหนึ่งของอิสลาม ที่พระองค์อัลลอฮฺ ตะอาลาทรงตรัสไว้ในคัมภีร์ อัลกุรอาน ในบทซูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 97
ความว่า : "และสำหรับอัลลอฮฺ(มีบทบัญญัติ) เหนือบรรดามนุษย์ คือการทำฮัจญ์ ณ บัยตุลลอฮฺ สำหรับผู้ที่มีความสามารถเดินทางไปได้ "
หมายถึงว่า มุสลิมที่มีสุขภาพแข็งแรง สติปัญญาสมบูรณ์ มีทรัพย์สินเพียงพอในการใช้จ่ายโดยมิต้องเป็นหนี้สินและเดือดร้อนบุคคลที่ต้องรับผิดชอบ และเส้นทางที่จะเดินทางไปจะต้องปลอดภัย
การทำฮัจญ์ เป็นอิบาดะห์หลักต่ออัลลอฮฺ ซึ่งมีเป้าหมายในการขัดเกลาจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ ผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ต้องใช้ความอุตสาหะ เสียสละทั้งกำลังกาย ทรัพย์ สติปัญญาและมีความสามารถอดทนต่อความยากลำบาก และมีความสามารถที่จะไปได้
สถานที่สำคัญที่ใช้ในการประกอบพิธีฮัจย์ คือ ทุ่งอารอฟะห์,ตำบลมุซดะลิฟะห์,ตำบลมีนา,และอัล-กะบะฮ์
ลำดับขั้นตอนของพิธีฮัจญ์เรียงตามรุก่นและวาญิบฮัจญ์
1. เริ่มต้นด้วยการครองอิหฺรอม คือการตั้งเจตนาเข้าสู่พิธีฮัจญ์ ( รุก่น ) จากสถานที่ที่กำหนด (วาญิบ)
2. การวุกูฟที่ทุ่งอะรอฟะฮฺ เริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์คล้อยของวันที่ 9 ซุลฮิจญะฮฺ จนกระทั้ง ดวงอาทิตย์ตก ( รุก่น )
3. การค้างแรมที่มุซดะลิฟะฮฺ เริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตกของคืนวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ จนกระทั้งเวลาซุบฮฺ ( วาญิบ )
4. การขว้างเสาหิน 7 ก้อนที่ญัมรอตุลอะเกาะบะฮฺ ที่มีนา เริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ จนกระทั้งดวงอาทิตย์ตก ( วาญิบ )
5. การโกนศีรษะหรือการตัดผม เมื่อกระทำมาถึงตอนนี้แล้วเรียกว่า ตะฮัลลุลเอาวัล คือการเปลื้องชุดอิหฺรอมครั้งที่ 1 ( รุก่น )
6. การฏอวาฟบัยตุลลอฮฺ 7 รอบ ( รุก่น )
7. การเดินสะแอระหว่างภูเขาซอฟาและมัรวะฮฺ 7 เที่ยว ( รุก่น ) เมื่อฏอวาฟและสะแอแล้วเรียกว่า ตะฮัลลุลซานี คือการเปลื้องอิหฺรอมครั้งที่ 2
8. การค้างแรมที่มีนา ในค่ำคืนของวันตัชรีก ( วาญิบ )
9. การขว้างเสาหินทั้ง 3 ต้น ในวันที่ 11 12 13 ซุลฮิจญะฮฺ ต้นละ 7 ก้อน ( วาญิบ )
10. การฏอวาฟวิดาอฺ ( ฏอวาฟอำลา คือการเวียนรอบกะบะฮฺเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกจากดินแดนเมืองมักกะฮฺเพื่อจะเดินทางกลับ ) ( วาญิบ )
รุก่นและวาญิบของการประกอบพิธีฮัจญ์ มีความแตกต่างกัน คือ
ผู้ใดละทิ้งรุก่นหนึ่งรุก่นใดของการทำฮัจญ์ การทำฮัจญ์ของเขาใช้ไม่ได้ และจำเป็นจะต้องไปทำฮัจญ์ใหม่ในปีต่อไป ส่วนผู้ที่ละทิ้งวาญิบ ข้อหนึ่งข้อใด จำเป็นที่เขาจะต้องเสียดัม (เชือดสัตว์พลี)
ข้อห้ามสำหรับผู้ที่ครองอิหฺรอม
1. ห้ามสวมเสื้อผ้าที่มีรอยเย็บ กางเกง กางเกงชั้นใน ห้ามสวมหมวก ส่วนผ้าที่ไม่ได้เย็บเข้ารูปอนุญาตให้สวมได้แม้ว่าจะมีรอยเย็บ เช่น ผ้าโสร่ง ถ้าเราตัดออกเป็นผ้าผืนยาวๆ ก็ถือว่าใส่ได้ แม้ว่าจะมีรอยเย็บ(สำหรับผู้ชาย)
2. ห้ามใส่เครื่องหอมหรือน้ำหอมทุกชนิด
3. ห้ามตัดเล็บ ตัดผม โกนหนวด
4. ห้ามพูดจาหยาบคาย ไร้สาระ เกี้ยวพาราสี การนินทา และการทะเลาะวิวาท
5. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ เล้าโลม กอดจูบ
6. ห้ามจัดพิธีนิกะฮฺ(แต่งงาน)หรือการหมั้น
7. ห้ามไล่ล่าสัตว์ในเขตแผ่นดินฮะราม(ห้าม)
8. ห้ามตัดหรือถอนต้นไม้ในเขตแผ่นดินฮะราม
การประกอบพิธีฮัจญ์มี 3 แบบ
1.ตะมัตตัวะอฺ คือผู้ครองอิหฺรอมตั้งเจตนาทำอุมเราะฮฺก่อนการทำฮัจญ์ ขณะที่เข้าสู่เทศการฮัจญ์แล้ว (ส่วนมากนิยมทำฮัจญ์แบบตะมัตตัวะอฺ คนไทยก็เช่นกัน)
2. อิฟร้อด คือผู้ครองอิหฺรอม หลังจากการทำการตอวาฟกุดูมแล้ว เขาจะต้องสวมชุดอิหฺรอมจนกระทั้งถึงวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ หลังจากนั้นจึงทำอุมเราะฮฺ
3. กิรอน คือผู้ครองอิหฺรอมตั้งเจตนาทำอุมเราะฮฺและการทำฮัจญ์พร้อมกัน
หลังจากการทำอุมเราะฮฺคือตอวาฟและสะแอแล้ว ไม่ต้องโกนศีรษะหรือตัดผม แต่ให้เขาครอง อิหฺรอมกระทั้งถึงวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ