อิสลามไม่สนับสนุนให้คนฝืนธรรมชาติ โดยไม่แต่งงาน แต่ส่งเสริมให้แต่งงานอย่างถูกต้องตามหลักศาสนา และห้ามการผิดประเวณีทุกลักษณะกับคนที่มิใช่สามีหรือภรรยาของตนเอง
เรื่องเพศในอิสลาม ที่หลายคนยังไม่ทราบ!!
อิสลาม คือ ระบอบการดำเนินชีวิต กล่าวคือ ทุกพฤติกรรมที่เกี่ยวกับความเป็นอยู่ต้องเป็นไปตามที่ศาสนาบัญญัติด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว สังคม การเมือง การทำมาหากิน และเรื่องเพศ
อิสลามไม่สนับสนุนให้คนฝืนธรรมชาติ โดยไม่แต่งงาน แต่ส่งเสริมให้แต่งงานอย่างถูกต้องตามหลักศาสนา และห้ามการผิดประเวณีทุกลักษณะกับคนที่มิใช่สามีหรือภรรยาของตนเอง
เนื้อหาที่จะเน้นเรื่องเพศมีอยู่ทุกสมัย แต่ในเชิงศาสนาก็ไม่ค่อยมีใครกล้าอธิบายให้มวลชนได้รับรู้เท่าไรนัก คือ
การสำเร็จความใคร่ (Masterbation) หมายความรวม ทั้งด้วยมือ หรือวัตถุที่มุ่งให้สำเร็จสมอารมณ์เพศ ในอิสลามมีทัศนะต่างกัน คือบางส่วนว่าหะรอม-ต้องห้าม บางทีว่าหะรอมบางกรณี บางกรณีจำเป็นให้กระทำได้ และกลุ่มสุดท้ายเห็นว่า เป็นเรื่องน่ารังเกียจ (มักโระห์)
กลุ่มที่เห็นว่าเป็นที่หะรอมโดยเด็ดขาด ยึดตามอัลกุรอานความว่า :
"และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้รักษาอวัยวะเพศ(ไม่ละเมิดประเวณี) เว้นแต่กับบรรดาภรรยาของพวกเขาที่มือขวาของเขาครอบครอง (ทาสหญิง) แท้จริงพวกเขาจะไม่ถูกตำหนิ ดังนั้นบุคคลใดที่แสวงหาอื่นจากนั้น ชนเหล่านั้นแหละ พวกเขาคือบรรดาผู้ละเมิด"
กลุ่มที่เห็นว่า การสำเร็จความใคร่ด้วยมือต้องห้ามในบางกรณี และบางกรณีจำเป็นต้องกระทำ ยึดตามแนวหะนะฟีย์ ให้เหตุผล จำเป็นต้องสำเร็จความใคร่ด้วยมือเพราะกลัวจะถลำไปละเมิดประเวณี (ทำซินา) ใช้หลักว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการทำบาปใหญ่ แต่ถ้าทำไปเพื่อสนองอารมณ์เพศ หรือมุ่งปลุกกระตุ้นอารมณ์ก็เป็นที่ หะรอม-ต้องห้าม
หากทำไปเพื่อระงับอารมณ์ โดยยังมิได้แต่งงาน การสำเร็จความใคร่ด้วยมือถือว่าอนุญาต เพราะไม่ต้องการให้อารมณ์ฟุ้งซ่าน
อีกทัศนะหนึ่งกล่าวว่า : การสำเร็จความใคร่ ถือเป็นสิ่งต้องห้าม ยกเว้นกรณีกลัวว่าจะถลำไปทำซินา หรือยังไม่ได้แต่งงาน หรือไม่มีความสามารถที่จะแต่งงานได้ ซึ่งกลัวว่าจะมีผลต่อระบบประสาท เช่นนี้อนุญาตให้กระทำ
กลุ่มที่เห็นว่า: การสำเร็จความใคร่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ แต่ไม่เป็นบาป เนื่องจากผู้ที่สัมผัสอวัยวะเพศของเขาด้วยมือซ้ายเป็นที่อนุมัติ เมื่อการสัมผัสกระทำได้ การทำให้อสุจิออกมาก็ไม่ใช่สิ่งต้องห้าม
การสำเร็จความใคร่ไม่ได้มีข้อห้ามตามหลักศาสนาไว้ชัดเจน อัลกุรอานมีกล่าวถึงความว่า :
"ทั้งๆที่พระองค์ทรงแจกแจงแก่พวกท่านแล้ว สิ่งซึ่งพระองค์ทรงห้ามแก่พวกท่าน และ สิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหมดถูกสร้างไว้สำหรับท่าน"
ดังนั้น เรื่องนี้จึงขอให้ผู้ศรัทธาพิจารณาถึงตนเองว่าเข้าอยู่ในทัศนะใด ทั้งนี้เพราะความจำเป็น อารมณ์ ความรู้สึก ความต้องการของแต่ละคนแตกต่างกัน โดยการสำเร็จความใคร่นั้น ทั้งเพศชายและเพศหญิงก็อยู่ในขอบข่ายดังที่กล่าว
เลสเบี้ยน (Lesbian) หรือการร่วมเพศระหว่างเพศหญิงด้วยกัน ไม่?
ค่อยมีการสำส่อน มักเป็นคู่แน่นอน อาจมีปัญหาเรื่องอิจฉาริษยา โกรธแค้นรุนแรงนำไปสู่การฆ่าได้ ซึ่งแน่นอนเป็นที่ต้องห้ามในอิสลาม
ท่านนบีมุฮัมมัด ซ.ล. กล่าวว่า : "ชายและหญิงต้องไม่มองสิ่งพึงสงวนของกันและกัน แม้จะเป็นเพศเดียวกันก็ตาม ชายหญิงต้องไม่ห่มผ้าผืนเดียวกับเพศเดียวกับตน"
หลักฐานนี้แสดงว่า แม้แต่ผู้หญิงจะห่มผ้าผืนเดียวกันยังเป็นที่ต้องห้าม การแสดงบทรักทั้งด้วยสรีระ อวัยวะ อุปกรณ์ร่วมกับเพศหญิงด้วยกันจึงย่อมเป็นที่ต้องห้าม ไม่ว่าจะร่วมเพศหรือไม่ ต้องถูกลงโทษจากอัลลอฮฺเหมือนกัน
รักร่วมเพศ (Homosexual) เกิดกับเพศชายมีหลายลักษณะคือเป็นผู้กระทำ ยอมถูกกระทำ ได้ทั้งสองลักษณะ และบางคนก็ร่วมกับผู้ชายด้วยกันก็ได้ และมีภรรยาด้วยก็มี
ประเด็นสำคัญที่อิสลามห้าม คือ การร่วมเพศทางทวารหนักไม่ว่าจะชายต่อชาย หรือชายกับหญิงแม้แต่ภรรยาของตนเอง รักร่วมเพศของชายจะได้ทั้งเป็นผู้กระทำและถูกกระทำ
คนที่ชอบเป็นหญิงจะกระตุ้งกระติ้ง คนที่เป็นชายก็จะแข็งแรงบึกบึน อิสลามถือว่าการรักร่วมเพศเป็นบาปอย่างมหันต์ อัลลอฮฺ กล่าวไว้ความว่า
"และจงรำลึกถึงนบีลู๊ตขณะกล่าวกับชุมชนของเขาว่า พวกท่านปฏิบัติสิ่งที่น่ารังเกียจ โดยไม่มีบุคคลในหมู่ประชาชาติของท่านได้กระทำไว้ก่อนหรือ แท้จริงพวกท่านจะสมสู่กับเพศชายด้วยตัณหาราคะอื่นจากเพศหญิง ใช่แต่เท่านั้น พวกท่านยังเป็นผู้ละเมิดอีกด้วย"
ท่านนบีมุฮัมมัด ซ.ล. กล่าวว่า : "บุคคลใดที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่นกลุ่มชนนบีลู๊ตปฏิบัติมา แน่นอนยิ่ง พวกเขาถูกสาปแช่งจากอัลลอฮฺ ซ.บ."
อิสลามไม่ยอมรับ ทั้งชายอยู่กินกับหญิงโดยไม่แต่งงาน ท้องก่อนแล้วมาแต่งก็ถือว่าละเมิดประเวณ-ทำซินา ชายแต่งงานกับชาย หญิงแต่งงานกับหญิง ล้วนผิดบาป เป็นการทำลายศีลธรรม ทำลายกฎธรรมชาติที่อัลลอฮฺให้มา
อัลลอฮฺมิได้สร้างมนุษย์มาเพื่อมุ่งเสวยสุขเสพสมทางเพศ จนคิดลองรูปแบบต่างๆที่ผิดธรรมชาติ แต่พระองค์ต้องการให้มนุษย์เคารพภักดีพระองค์ โดยดำเนินชีวิตตามที่บอกไว้ในอัลกุรอาน และตามแบบอย่างของนบีมุฮัมมัด ซ.ล.
โดยสรุป : เรื่องเพศที่อิสลามห้าม คือ ห้ามชายหญิงอยู่กันโดยไม่ได้นิกาห์ ห้ามร่วมเพศทางทวารหนัก ห้ามชายกับชาย หญิงกับหญิงอยู่ร่วมให้ความสุขทางเพศกัน หากใครมีลักษณะเบี่ยงเบนทางเพศมาแต่วัยเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองต้องพยายามแก้ไขพฤติกรรม และอธิบายหลักการศาสนาให้รู้อยู่ตลอดเวลาและต่อเนื่อง แก้ไขสิ่งแวดล้อมทุกอย่างจึงจะเป็นการแก้ต้นเหตุของปัญหา
ที่มา: www.sunnahstudent.com