การละหมาด ส่งผลต่อระบบของร่างกายและจิตใจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การละหมาดในยามค่ำคืน..
ผลวิจัยทางการแพทย์กับการลุกขึ้นมาละหมาดในยามค่ำคืน(ละหมาดตะฮัจญุด)
การละหมาด ส่งผลต่อระบบของร่างกายและจิตใจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การละหมาดในยามค่ำคืน เพราะได้มีการยืนยันจากนักวิชาการชาวอเมริกันในหนังสือ
“ลักษณะลำดับการทดลองกับสิ่งที่ซ่อนเร้นในการรักษาแบบธรรมชาติ”
ซึ่งถูกตีพิมพ์ในปี 1993 ว่า :
“การลุกจาก ที่นอนในยามค่ำคืน และเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยภายในบ้าน และยืนขึ้นในลักษณะของการออกกำลังกายเบาๆ ถูหรือลูบปลายนิ้วด้วยกับน้ำ และหายใจลึกๆ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพ”
จากการพิจารณาประโยชน์เบื้องต้น พบว่า คำยืนยันดังกล่าว มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากกับการเคลื่อนไหวในการอาบน้ำละหมาดและการละหมาดในยามค่ำคืน เพราะแท้จริงท่านศาสดามูฮัมหมัดได้ยืนยันเรื่องนี้มามากกว่า 1430 ปีแล้วว่า :
“จำเป็นแก่พวกท่านที่จะลุกขึ้นมา (เพื่อทำละหมาด) ในยามค่ำคืน (ตะฮัจญุด) เพราะแท้จริงมันเป็นอุปนิสัยของบรรดาผู้ประพฤติดีในยุคก่อนพวกท่าน เป็นการทำให้ใกล้ชิดอัลลอฮ์ เป็นสิ่งห้ามปรามจากการกระทำความผิด และเป็นการลบล้างความชั่วร้ายต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการขับไล่โรคภัยออกจากร่างกาย”
(บันทึกโดย อิหม่ามอะห์หมัด ติรมิซี บัยฮากี และฮาเก็ม)
จากวิธีการละหมาดในยามค่ำคืน ที่สามารถขับไล่โรคภัยออกจากร่างกายได้นั้น ได้มีการยืนยันว่า “การลุกขึ้นมาในยามค่ำคืน (เพื่อทำละหมาด) นั้น จะนำไปสู่การลดการกระจายฮอร์โมนต่อมหมวกไต โดยเฉพาะยังยิ่งก่อนจะตื่นนอนหลายชั่วโมง ตรงกับช่วงเวลาซุโฮร์ (ช่วง 1 ใน 3 สุดท้ายของยามค่ำคืน) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดมิให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นการป้องกันมิให้เกิดอันตรายต่อผู้เป็นโรคเบาหวาน และเช่นเดียวกัน การตื่นขึ้นมาในยามค่ำคืนจะช่วยลดความดันโลหิตสูงที่ขึ้นอย่างรวดเร็วได้ ป้องกันมิให้เกิดการเป็นลมเนื่องจากเส้นโลหิตในสมองแตกหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ป้องกันการแข็งตัวของเลือดในเส้นเลือดใหญ่ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการไหลเวียนช้าในขณะนอนหลับ ป้องกันการหายใจลำบากเนื่องจากการไหลเวียนกลับของเลือดใน เส้นเลือดใหญ่จากศีรษะล่าช้า และการละหมาดในยามค่ำคืนยังทำให้ดีขึ้นกับผู้ป่วยไขข้ออักเสบ ไม่ว่าจะเป็นโรครูมาติซึ่มหรืออื่นๆ ซึ่งการเคลื่อนไหวเบาๆ และการลูบถูด้วยกับน้ำขณะอาบน้ำละหมาดจะช่วยให้อาการนี้ดีขึ้น”
สำหรับมุสลิมที่ละหมาดตะฮัจญุดเป็นประจำ จะได้รับภาคผลหรือความประเสริฐดังต่อไปนี้
- ได้รับการคุ้มครองจากอัลเลาะห์และจะปรากฏร่องรอยแห่งการภักดีบนในหน้าของเขา
- ใบหน้าของเขาเปล่งแสงขาวนวลในวันพิภาคษา
- ได้รับความสะดวกง่ายดายในการสบสวนเขาในวันแห่งการสอบสวน
- ผ่านซิรฏ้อลมุสตากีม เหมือนฟ้าแลบ
- ได้รับสมุดบันทึกความประพฤติด้วยมือขวา
การละหมาดตะฮัดยุด มีกี่รอกาอัต
การละหมาดตะฮัจญุด ต้องกระทำหลังจากละหมาดอิชา และจำเป็นต้องเข้านอนก่อน เวลาของการ ละหมาดตะฮัจญุด คือ ระหว่างหลังละหมาดอิชา เรื่อยไปจนถึงรุ่งเช้าที่ดีที่สุด (เวลาที่ประเสริฐที่สุด) ให้กระทำหลังเที่ยงคืนไปแล้ว หรือหลังเที่ยงคืนในชั่วโมงสุดท้ายประมาณตีสาม
วิธีการละหมาดตะฮัจญุด
กระทำหลังจากเวลา 12.00 กลางคืน โดย 2 รอกาอัต หนึ่งสลาม รอกาอะฮ์ที่แท้จริงไม่ได้กำหนดไว้ ละหมาดนี้เต็มไปด้วยคุณค่ามากมายและที่พิเศษยิ่งคือการ ถูกตอบรับดุอาจากอัลลอฮ์ พูดอะไรเป็นไปตามปาก หัวใจและความคิดมีความสงบนิ่ง ได้รับความง่ายดายในกิจการงาน ได้ริสกีง่าย คนให้เกรียติ ไม่เกิดการทำความเสียหายแก่มนุษย์ไปยังเขา (ส่วนหนึ่งของคุณค่าและอีมากมายที่ซ่อนเร้นไว้) และทีดีเลิศที่สุดคือ การกระทำหลังจากตื่นนอน และเวลาหลังจากเที่ยงคืน
ฏษณเนียตละหมาดตะฮัจญุด
أُصلّي سُنَّةَ الْتَهَجُّدِ رَكْعَتَيْنِ لِلّهِ تَعَالَى
กล่าวเนียต (ข้าพเจ้าเจตนาละหมาดตะฮัจญุด 2 รอกาอะห์เพื่ออัลลอฮ์)
* รอกาอัตที่1 : หลังจากฟาติฮะห์ อ่านซูเราะห์กุลยา
* รอกาอัตที่2 : หลังจากฟาติฮะห์ อ่านซูเราะห์กุลฮู
นอกจากการเนียต และข้อกำหนด (ที่จำเป็นข้างต้นแล้ว) การปฏิบัติอย่างอื่นก็เหมือนกับการละหมาดตามปกตินั่นเอง
ที่มา: Muttaqeen Al Islam, sunnahstudent.com
islamhouse.muslimthaipost.com