มัสยิดญามิอ์ อัลฮัซฮัร นับเป็นมัสยิด สำคัญแห่งที่ 4 ในหัวเมืองสำคัญของอาณาจักรอิสลาม
มัสยิดอัลอัซฮัร ถูกก่อตั้งโดยชีอะฮ์ จริงหรือ?
หลังการพิชิตอียิปต์ของพวกฟาตีมียะห์ โดยแม่ทัพ เญาฮัร อัซซิกิลลีย์ ในยุคสมัยคอลีฟะห์ อัลมุอิซซ์ลี ดีนิลลลาห์ แห่งราชวงศ์ฟาตีมียะห์ โดยแม่ทัพ เญาฮัร อัซซิกกิลลีย์ก็ได้สร้างกรุงไคโร ขึ้นเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ สำหรับคอลีฟะห์ของตน หลังจากสร้างกรุงไคโรเสร็จราว 9 เดือน แม่ทัพเญาฮัรก็ได้สร้างมัสยิดญามิอ์ อัลอัซฮัร เพื่อเป็นสถานที่ประกอบนมัสการ โดยเปิดทำการละหมาดวันศุกร์อย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 7 เดือนรอมาดอน ปี ฮ.ศ. 361
มัสยิดญามิอ์ อัลฮัซฮัร นับเป็นมัสยิด สำคัญแห่งที่ 4 ในหัวเมืองสำคัญของอาณาจักรอิสลาม
มัสยิดหลังแรก คือ มัสยิดญามิอ์ ที่สร้างโดย ท่านอัมร์ อิบนุ อัลอ๊าศ ซึ่งสร้าง ณ นครฟุสต๊อด หลังการพิชิตอียิปต์ ของชาวอาหรับมุสลิม บ้างก็เรียกมัสยิดแห่งนี้ว่า ญามิอ์อัลฟัตฮ์ หรือ ญามิอ์อัลอะตีก ซึ่งหมายถึงมัสยิดอันเก่าแก่
ต่อมาพวกอับบาซียะห์ ซึ่งโค่นล้มราชวงศ์อุมาวียะห์ลงได้ ก็ได้สร้างมัสยิดญามิอ์ อัลอัสกัร ณ เมืองอัลอัสกัร ซึ่งเมืองนี้สร้างโดยผู้ปกครองของอับบาซียะห์ นามว่า ซอลิฮ์ อิบนุ อะลี อับบาซียะห์ ต่อมาภายหลัง อะห์หมัด อิบนุฏูลูน ก็เข้ามามีอำนาจในอียิปต์ ซึ่งอิบนุฏูลูน ก็เข้ามามีอำนาจในอียิปต์ ซึ่งอิบนุฏูลูน ผู้นี้ได้สร้างมัสยิดญามิอ์ขึ้นในเขตอัลก่อตออิอ์ และยังคงอยู่จวบจนทุกวันนี้ ในท้ายที่สุด ก็คือ ญามิอ์ อัลอัซฮัร ซึ่งสร้างโดยแม่ทัพ เญาฮัร อัซซิกิลลีย์ในช่วงแรกของการพิชิตอียิปต์ ของพวกฟาตีมียะห์นั้น พวกฟาตีมียะห์ได้ทำการละหมาดที่มัสยิดญามิอ์ อัมร์ อิบนุ อัลอ๊าศ และกล่าวขอดุอาแก่คอลีฟะห์ อัลมุอิซในคุตบะห์เป็นครั้งแรกในวันที่ 19 เดือนชะห์บาน ปี ฮ.ศ. 358
ต่อมาในวันศุกร์ที่ 28 ร่อบีอุซซานีย์ ปี ฮ.ศ. 359 คือหลังจากแสดงคุตบะห์ที่มัสยิดยามิอ์ อัมร์ได้ 8 เดือน พวกฟาตีมียะห์ก็ย้ายสถานที่ละหมาดวันศุกร์มายังมัสยิด ในการสร้างมัสยิดญามิอ์ของพวกตนเป็นการเฉพาะ เพื่อปฏิบัติศาสนกิจตามแนวทางของชีอะห์ อิสมาอีลียะห์ สิ่งที่เห็นอย่างชัดเจนก็คือมัสยิดยามิอ์ อัลอัซฮัรในตอนแรก สร้างนั้นมิใช่สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์จะให้เป็นสถาบันทางการศึกษาเหมือนดังปัจจุบัน แต่สร้างขึ้นเพื่อเป็นมัสยิดหลวง อย่างเป็นทางการของพวกฟาตีมียะห์ และเพื่อเป็นสัญลักษณ์ บ่งบอกถึงการเผยแพร่แนวคำสอนของชีอะห์ อิสมาอีลียะห์ที่พวกฟาตีมียะห์ยึดถือส่วนความคิดในเรื่องการใช้มัสยิดแห่งนี้เป็นสถาบันการศึกษานั้นพึ่งจะมาเริ่มในยุคสมัยคอลีฟะห์ อัลอาซีซ บิลลาห์ อันเป็นผลมาจากการแน่นหนักในการเผยแพร่แนวคำสอนของชีอะห์
ดังนั้นในปี ฮ.ศ. 378 เสนาบดียะกู๊บ อิบนุ กิลลิซ ซึ่งเป็นชาวยิวที่รับอิสลาม ได้แต่งตั้งนักวิชาการนิติศาสตร์จำนวน 37 ท่าน ให้ดำเนินการเรียนการสอนตามแนวทางชีอะห์ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา มัสยิดญามิอ์ อัลอัซฮัร ก็กลายเป็นสถาบันทางการศึกษาหรือมหาวิทยาลัยที่สำคัญในโลกอิสลาม เหตุที่เรียกสถาบันทางการศึกษาซึ่งแต่ดั้งเดิมคือมัสยิดญามิอ์แห่งนี้ว่า อัลอัซฮัร ก็เพื่อว่าเป็นอนุสรณ์แก่ท่านหญิงฟาตีมะห์ อัซซะฮ์รอฮ์ บุตรีของท่านศาสนทูต บ้างก็ว่าที่เรียกเช่นนั้นก็เพราะมีบรรดาปราสาท และตำหนักของคอลีฟะห์ตลอดจนสวนดอกไม้ ที่ถูกสร้างอยู่รายรอบ มัสยิดญามิอ์ แห่งนี้ก็ได้กลับมาเป็นสถานที่ละหมาดวันศุกร์ และเป็นสถาบันทางวิชาการตามแนวทางของอะห์ลิซซุนนะห์ อัลญะมาอะห์ ในสมัยราชวงศ์ อัลอัยยูบีย์ ซึ่งมีท่านซอลาฮุดดีน เป็นปฐมราชวงศ์ และยังคงมีการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาจวบจน (ปริญญาเอก) มาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ในนามมหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร อัชชะรีฟ ซึ่งมีความเก่าแก่มากกว่ามหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ของอังกฤษเสียอีก
ที่มา: www.sunnahstudent.com