การขว้างเสาหิน ถือเป็นวายิบของพิธีฮัจญ์ มีกำหนด 3 ต้น
ทำไมต้องขว้างเสาหิน ฮิกมะห์ซ่อนเร้นจากการขว้างเสาหิน 3 ต้น
การขว้างเสาหิน ถือเป็นวายิบของพิธีฮัจญ์ มีกำหนด 3 ต้น
เมื่อออกเดินทางจากมุซดะลิฟะฮฺ ผู้ที่ทำฮัจญ์จะต้องมุ่งหน้าไปสู่มีนา พร้อมทั้งกล่าวตัลบียะฮฺในระหว่างทางโดยตลอดเมื่อเดินทางไปถึงมีนา ก็ให้ไปยังญัมรอตุ้ล อะกอบะฮฺ แล้วขว้างเสาหินที่นั่น 7 ก้อน หินแต่ละก้อนควรมีขนาดใหญ่กว่าเมล็ดถั่วลิสงเล็กน้อย วิธีขว้างนั้นให้ขว้างทีละก้อน ทุกๆ ครั้งที่ยกมือขึ้นเพื่อขว้างก้อนหินนั้นต้องกล่าว “บิสมิลลาฮิ อัลลอฮุอักบัร”
มีซุนนะฮฺให้ขว้างจากด้านวาดี โดยให้มักกะฮฺอยู่ด้านซ้ายมือ และมีนาอยู่ด้านขวามือ การขว้างนั้นจะโดนเสาหินหรือไม่ก็ไม่เป็นไร ก้อนหินที่ขว้างนั้นต้องหล่นในหลุม แต่ถ้าไม่ตกในหลุม การขว้างนั้นเป็นโมฆะ แต่หากว่าตกในหลุมแล้วกระเด็นออกไป ถือว่าใช้ได้
เมื่อขว้างเสาหินเรียบร้อยแล้วผู้ทำฮัจญ์แบบตะมัตตัวะอฺและกิรอน ให้เชือดสัตว์พลี (อัลฮัดยฺ) หากผู้ทำฮัจญ์แบบตะมัตตัวะอฺไม่สามารถเสียดัม (เชือดสัตว์) ได้ก็ต้องถือศีลอดแทน 3 วันในช่วงฮัจญ์ ที่ดีนั้นให้ถือวันที่ 11-12-13 ซุลฮิจญะฮฺ และอีก 7 วันเมื่อกลับสู่บ้านเกิด ส่วนผู้ที่ทำฮัจญ์แบบอิฟรอนไม่ต้องเชือดสัตว์พลี แต่ประสงค์จะทำกุรบานก็ได้
หลังจากที่เชือดสัตว์พลี (อัลฮัดยฺ) เรียบร้อยแล้วให้ตัดผม สำหรับผูชายนั้นที่ดีควรโกนศรีษะ เพราะ ท่านศาสดา ได้ขอดุอาอฺให้กับกับผู้ที่โกนศรีษะ 3 ครั้ง แต่ขอดุอาอฺ ให้แก่ผู้ตัดผมเพียง 1 ครั้ง เมื่อตัดผมหรือโกนศรีษะเสร็จ เรียบร้อยแล้ว เราเรียกว่า “ตะฮัลลุล เอาวัล” เพราะผู้สวมชุดอิหฺรอมสามารถปฏิบัติสิ่งที่เป็นข้อห้ามได้นอกจากการหลับนอนฉันท์สามีภรรยาเท่านั้น เมื่อทำตะฮัลลุลแล้วให้เปลี่ยนชุดอิหฺรอม โดยสามารถสวมชุดธรรมดาและใส่น้ำหอม ผู้ทำฮัจญ์จะเดินทางมุ่งสู่มักกะฮฺ เพื่อทำการฏอวาฟอิฟาเฏาะ(ฏอวาฟฮัจญ์)หลังจากนั้นก็ทำสะแอ เมื่อปฏิบัติสิ่งดังกล่าวครบถ้วนหลัง เท่ากับว่าท่านได้ทำตะฮัลลุ้ลครั้งที่ 2 แล้ว ข้อห้ามต่างๆ เกี่ยวกับการครองอิหฺรอม และการทำฮัจญ์จึงหมดไป ในสภาวะเช่นนี้ถือว่าเป็นตะฮัลลุ้ลที่สมบูรณ์ อนึ่ง เนื่องมาจากการฏอวาฟและสะแอในช่วงวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮฺ(วันอีด)จะมีผู้ทำฮัจญ์ปฏิบัติสิ่งดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ถ้าหากเกรงว่าจะได้รับความยากลำบากหรือไม่สะดวกที่จะกระทำในวันนั้นก็สามารถเลื่อนการฏอวาฟและสะแอ มาเป็นหลังวันขว้างเสาหิน (วันตัชรีก) ไม่เป็นไร เพราะไม่มีกำหนดหมดขอบเขตของการฏอวาฟ
ฮิกมะฮ์ที่ช่อนเร้นจากการขว้างเสาหิน 3 ต้น
การขว้างเสาหิน ถือเป็นวายิบของพิธีฮัจญ์ มีกำหนด 3 ต้น และมีกำหนดเวลา ดังนี้
วันแรกขว้างเสาต้นที่ 3 เรียกว่า “ ญัมรอตุลอะกอบะฮฺ" สามารถเริ่มขว้างตั้งแต่เวลาหลังเที่ยงคืนของวันที 10 เดือนซุลฮิจยะฮฺ หลังจากกลับมาจากมุซดาลิฟะฮ์ จนถึงเที่ยงคืนของอีกวันหนึ่ง ด้วยก้อนหินที่เก็บจากลานทุ่งมุซดาลีฟะฮฺ จำนวน 7 ก้อน
หลังจากนั้นสามารถทำการตะฮัลลุ้ลเอาวัล โดยการโกนผมสำหรับผู้ชาย และขลิบผมสำหรับผู้หญิง แล้วเปลื้องชุดเอ๊ยะรอม แต่งกายตามปกติได้
วันที่ 11 12 และ13 เดือนซุลฮิจยะฮฺ หลังตะวันคล้อย ฮุจญาจจะเดินออกจากเต็นที่พัก ณ ทุ่งมีนา ไปขว้างเสาหินทั้ง 3 ต้นๆละ 7 ก้อนตามลำดับ โดยกำหนดให้เริ่มจากเสาต้นที่ 1 (ญัมรอตุลอูลา) จำนวน 7 ก้อน ต้นที่ 2 (ญัมรอตุลวุสฏอ) จำนวน 7 ก้อน และต้นที่ 3 (ญัมรอตุลอะกอบะฮ์) จำนวน 7 ก้อน ทำเหมือนกันทั้ง 3 วัน
เสาหินที่ปรับปรุงใหม่
เสาหิน 3 ต้น เปรียบเสมือนมารร้ายซัยตอน 3 ตัว ที่คอยมาบอกให้เราทำความชั่ว ทำไม่ดีต่างๆ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้เราหลุดจากแนวทางศาสนา ให้เราเป็นคนชั่ว ให้เราเป็นคนไม่ดี
ญัมรอตุลอูลา (Small Jamarah) เปรียบเสมือน ชัยตอนตัวเล็ก ซึ่งหมายถึง สิ่งยั่วยวนภายนอกทั่วๆ ไป ที่มีอิทธิพลกับเราน้อย
ญัมรอตุลวุสฏอ (Middle Jamarah) เปรียบเสมือน ชัยตอนตัวกลาง หมายถึงมารร้าย ชัยตอนที่อาศัยช่องทางผ่านมาทางผู้ที่ใกล้ชิดหรือมีอิทธิพลโดยตรงกับเรา เช่น พ่อแม่ ลูก หรือภรรยา สามี พี่น้อง เพื่อมาชี้นำเราไปสู่สิ่งที่ไม่ดี
ญัมรอตุลอากอบะฮ์ (Big Jamarah) เปรียบเสมือน ขัยตอนตัวใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้เรามากที่สุด นั่นหมายถึงอารมณ์ใฝ่ต่ำ หรือจิตด้านมืดของเราเอง นั่นหมายถึง ตัวที่สำคัญที่สุด ถ้าเราเอาชนะใจ และอารมณ์ของตัวเองได้ เราก็จะชนะได้ทั้งหมด
ดังนั้น เวลาเราขว้างเสาหิน ให้เรานึกถึงการไล่มารร้ายชัยตอนทั้งสามตัว ให้ห่างไปจากตัวเรา และครอบครัวเราให้มากที่สุด นี่คือฮิกมะห์ ที่ซ่อนเร้นจากการขว้างเสาหิน
ที่มา: คุณ ผุสดี มุหะหมัด