10 สิ่งที่ทำให้สูญเสียอิสลาม (สิ้นสภาพจากการเป็นมุสลิม)


30,194 ผู้ชม

ท่านชัยคฺ มุฮัมมัด บินอับดิลวะฮาบ -ร่อฮิม่าฮุลลอฮ-ได้กล่าวว่า: พึงทราบเถิด แท้จริงสิ่งที่ทำให้สูญเสียอิสลามนั้นมีอยู่ 10 ประการ ดังต่อไปนี้


10 สิ่งที่ทำให้สูญเสียอิสลาม (สิ้นสภาพจากการเป็นมุสลิม)

10 สิ่งที่ทำให้สูญเสียอิสลาม (สิ้นสภาพจากการเป็นมุสลิม)

ท่านชัยคฺ มุฮัมมัด บินอับดิลวะฮาบ -ร่อฮิม่าฮุลลอฮ-ได้กล่าวว่า:

พึงทราบเถิด แท้จริงสิ่งที่ทำให้สูญเสียอิสลามนั้นมีอยู่ 10 ประการ ดังต่อไปนี้

ประการแรก : การให้มีสิ่งอื่นมามีส่วนร่วมกับอัลลอฮฺ (ชิริก) ในการประกอบอิบาดะห์ ดังที่อัลลอฮฺ ได้ตรัสว่า

إِنَّ اللَّهَ لَا يَغْفِرُ أَنْ يُشْرَكَ بِهِ وَيَغْفِرُ مَا دُونَ ذَٰلِكَ لِمَنْ يَشَاءُ ۚ وَمَنْ يُشْرِكْ بِاللَّهِ فَقَدِ افْتَرَىٰ إِثْمًا عَظِيمًا ﴿٤٨﴾؅

"แท้จริงอัลลอฮฺ จะไม่ทรงอภัยโทษให้แก่การที่สิ่งหนึ่งจะถูกให้มีภาคี ขึ้นแก่พระองค์ และพระองค์ทรงอภัยให้แก่สิ่งอื่นจากนั้น สำหรับผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์" (อันนิสาอ 48)

และพระองค์ยังตรัสอีกว่า

إِنَّهُ مَنْ يُشْرِكْ بِاللَّهِ فَقَدْ حَرَّمَ اللَّهُ عَلَيْهِ الْجَنَّةَ وَمَأْوَاهُ النَّارُ ۖ وَمَا لِلظَّالِمِينَ مِنْ أَنْصَارٍ ﴿٧٢﴾؅

"แท้จริงผู้ใดให้มีภาคีขึ้นแก่อัลลอฮ์ แน่นอนอัลลอฮ์จะทรงให้สวรรค์เป็นที่ต้องห้ามแก่เขา และที่พำนักของเขานั้นคือนรก และสำหรับบรรดาผู้อธรรมนั้นย่อมไม่มีผู้ช่วยเหลือใด ๆ" (อัลมาอิดะห 72)

ประการที่สอง : ผู้ใดที่ทำให้มีสื่อกลางระหว่างเขากับอัลลอฮฺ ซึ่งพวกเขาได้ขอวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพวกเขา ตลอดจนมอบหมายการงานทุกอย่างไว้กับสิ่งต่างๆ เหล่านั้น (สิ่งที่เป็นสื่อกลางระหว่างอัลลอฮฺ) ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้ ถือว่าเป็นกุฟร (การปฏิเสธต่ออัลลอฮฺ) ตามมติเอกฉันของอุละมาอ (ปรวงปราชญ์) ของอิสลาม

ประการที่สาม : ผู้ใดที่ปฏิเสธการเป็นกาฟิร(การปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ)ของพวกมุชริกีน หรือมีข้อสงสัยในความเป็นกาฟิรของพวกเขา หรือ เห็นว่าศาสนาหรือแนวทางของพวกเขานั้นถูกต้อง

ประการที่สี่ : ผู้ใดที่เชื่อและศรัทธาว่ามีทางนำหรือแนวทางอื่นที่ดีกว่า และสมบูรณ์กว่าแนวทางของท่านนบี ศ.ล หรือเชื่อและศรัทธาว่า บทบัญญัติของผู้อื่นดียิ่งกว่าบทบัญญัติของท่านนบี ศ.ล เปรียบเสมือนกับ ผู้เชื่อว่าบทบัญญัติที่ไม่ใช่อิสลาม(บทบัญญัติของพวกปฏิเสธศรัทธา) ดีกว่าบทบัญญัติของอิสลาม เขาคือกาฟิร (ผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ)

ประการที่ห้า : ผู้ใดที่รังเกียจ หรือเกลียดชังส่วนใดส่วนหนึ่งในสิ่งที่ท่านนบี ศ.ล ได้นำมาเสนอ ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิบัติสิ่งดังกล่าวอยู่ก็ตามที เขาคือกาฟิร (ผู้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ)

ประการที่หก : ผู้ที่เย้ยหยัน ล้อเลียนส่วนใดส่วนหนึ่งจากศาสนาของอัลลอฮฺ ทั้งในเรื่องของผลบุญการตอบแทนหรือในเรื่องของการลงโทษ เขาคือกาฟิร (ผู้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ) 
ดังที่พระองค์ตรัสว่า

قُلْ أَبِاللَّهِ وَآيَاتِهِ وَرَسُولِهِ كُنْتُمْ تَسْتَهْزِئُونَ ﴿٦٥﴾؅
لَا تَعْتَذِرُوا قَدْ كَفَرْتُمْ بَعْدَ إِيمَانِكُمْ

"จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่าต่ออัลลอฮ์ และบรรดาโองการของพระองค์และร่อซูลของพระองค์กระนั้นหรือที่พวกท่านเย้ยหยันกัน ?พวกท่านอย่าแก้ตัวเลย แท้จริงพวกท่านได้ปฏิเสธศรัทธา แล้ว หลังจากการมีศรัทธาของพวกท่าน" (อัตเตาบะฮ 65-66)

ประการที่เจ็ด : ซิเฮร หมายถึง ไสยศาสตร์และส่วนหนึ่งจากรูปแบบของการทำไสยศาสตร์ คือการการทำให้สามีภรรยาแยกกัน หรือทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจากชาย หรือหญิงที่เขาชอบให้มารักกับเขา ซึ่งผู้ใดที่กระทำไสยศาสตร์ และพึงพอใจยอมรับมัน เขาคือกาฟิร (ผู้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ)

ดังที่อัลลอฮฺ ได้ตรัสว่า

وَمَا يُعَلِّمَانِ مِنْ أَحَدٍ حَتَّىٰ يَقُولَا إِنَّمَا نَحْنُ فِتْنَةٌ فَلَا تَكْفُرْ

"และเขาทั้งสอง(ฮารูต กับ มารูต) จะไม่สอน(ไสยศาสตร์)ให้แก่ผู้ใดจนกว่าจะกล่าวว่า แท้จริงเราเพียงเป็นผู้ทดสอบเท่านั้น ท่านจงอย่าปฏิเสธการศรัทธาเลย" (อัลบะเกาะเราะฮ 102)

ประการที่แปด : การให้การสนับสนุนและช่วยเหลือบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ เพื่อมาทำลายมุสลิมด้วยกันเอง

อัลลอฮฺ ตรัสว่า

وَمَنْ يَتَوَلَّهُمْ مِنْكُمْ فَإِنَّهُ مِنْهُمْ ۗ إِنَّ اللَّهَ لَا يَهْدِي الْقَوْمَ الظَّالِمِينَ ﴿٥١﴾؅

"และผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเอาพวกเขา(ผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ)มาเป็นมิตรแล้วไซร้ แน่นอนผู้นั้นก็เป็นคนหนึ่งในพวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์นั้นไม่ทรงแนะนำกลุ่มชนที่อธรรม" (อัลมาอิดะฮฺ 51)

ประการที่เก้า : ผู้ที่เชื่อว่ามุสลิมนั้น มีสิทธิที่จะออกห่างปลีกตัวไป หรือไม่ต้องใช้ชะรีอะหฺ(บทบัญญัติศาสนาของท่านนบี ศ.ล) ได้ เหมือนกรณีที่ท่านคิฏร มีสิทธิไม่ใช้ชะรีอะหของนบีมูซาได้ ใครที่เชื่อแบบนั้น เขาคือกาฟิร (ผู้ปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ)

ประการที่สิบ : การผินหลังออกจากศาสนาของอัลลอฮฺ โดยไม่ได้มีการเรียนรู้ และไม่มีการปฏิบัติใดๆ ทั้งสิ้น ในสิ่งที่มีอยู่ในศาสนาอิสลาม ดังที่พระองค์ตรัสว่า

وَمَنْ أَظْلَمُ مِمَّنْ ذُكِّرَ بِآيَاتِ رَبِّهِ ثُمَّ أَعْرَضَ عَنْهَا ۚ إِنَّا مِنَ الْمُجْرِمِينَ مُنْتَقِمُونَ ﴿٢٢﴾؅

"และผู้ใดเล่าจะอธรรมยิ่งไปกว่าผู้ถูกเตือนให้รำลึกถึงอายาตทั้งหลายของพระเจ้าของเขา แล้วเขาก็ผินหลังให้กับอายาตเหล่านั้น แท้จริงเราเป็นผู้จองเวรบรรดาผู้กระทำผิด" (อัสสัญดะฮ 22)

ทั้งหมด ที่กล่าวมาในข้างต้นนี้ ไม่ได้มีข้อแตกต่างอะไรกันเลยระหว่างผู้ที่ทำเล่นๆ หรือทำจริงๆ หรือผู้ที่ตกอยู่ในสภาพหวาดกลัว 

เว้นแต่กรณีผู้ที่ถูกบังคับเท่านั้น 

ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง และเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

ดังนั้น  สมควรอย่างยิ่งสำหรับมุสลิมทุกคนที่ต้องระวังระวังและยับยั้งตนเองจากสิ่งดังกล่าว ขอความคุ้มครองจากอัลลอฮ ได้ทรงทำให้เราห่างจากสิ่งที่จะทำให้เราต้องตกอยู่ภายใต้การโกรธกริ้วของพระองค์ด้วยเถิด

วารสารดาริสสลาม : เล่มที่ 18
หัวเรื่อง : สิ่งที่ทำให้เสียอิสลาม
ผู้เขียน : ชัยคฺ มุฮัมมัด บิน อับดิลวะฮาบ
ผู้แปล : อ.มุบาร๊อก แดงโกเมน
หน้า : 71-76

จากเพจ : มันฮัจญฺ สะลัฟ

islamhouse.muslimthaipost.com

อัพเดทล่าสุด