สาส์นของท่านศาสดามูฮัมหมัด


3,775 ผู้ชม

เมืองมะดีนะฮ์ ที่ท่านนบีปกครองนั้นเป็นเพียงรัฐเล็กๆในอารเบีย ที่ข่าวคราวความเป็นรัฐได้กระจายออกไปด้วยสนธิสัญญา อัลฮุดัยบียะฮ์ แต่ภารกิจของท่านนั้นคือการประกาศ


สาส์นของท่านศาสดามูฮัมหมัด

สาส์นของท่านศาสดามูฮัมหมัด 

เมืองมะดีนะฮ์ ที่ท่านนบีปกครองนั้นเป็นเพียงรัฐเล็กๆในอารเบีย ที่ข่าวคราวความเป็นรัฐได้กระจายออกไปด้วยสนธิสัญญา อัลฮุดัยบียะฮ์ แต่ภารกิจของท่านนั้นคือการประกาศ หลักธรรมอันแท้จริงของพระเจ้า ที่ได้คลาดเคลื่อนออกไปจากหลักการอันแท้จริง แม้ว่าศาสนาจากยิวหรือชาวคริสต์ จะมาจากพระเจ้าองค์เดียวกันก็จริงในเชิงประวัติศาสตร์ แต่ทั้งสองศาสนานั้นมิได้อยู่ในหลักการของนบี หรือศาสดาที่มาสอนอย่างแท้จริงอีกแล้ว ไม่ว่า เปอร์เชีย โรมัน อียิปต์ และอาณาจักรอื่นๆในโลกจะใหญ่เล็กเพียงใดก็ตาม พระองค์ก็จำต้องนำอิสลามไปสู่คนเหล่านั้นให้ได้ เพราะนั่นคือหน้าที่ของนบี(ศาสนทูต)ของอัลเลาะฮ์ อย่างแท้จริง

ท่านมุ่งมั่นชัดเจนในภารกิจต่อพระเจ้าของท่านเสมอ และมิได้ลังเลต่อเจตนารมณ์ของท่านต่อเรื่องใดๆ ที่จะเรียกร้องคนเหล่านั้นมาสู่อิสลาม

วันหนึ่งขณะที่ท่านสนทนาอยู่กับมิตรสหายสาวกของท่านอยู่ท่านได้กล่าวว่า

“โอ้ผู้คนทั้งหลาย อัลเลาะฮ์ได้ส่งฉันมาเป็นนบี(ศาสนทูต) แห่งความเมตตาแก่มนุษยชาติ เพราะฉะนั้นจงอย่าขัดแย้งและแตกแยกกันดังสาวกของนบีอีซา(ศาสดา(ศาสนทูต)เยซู) บุตรแห่งแมรี ที่เกิดขึ้นหลังจากท่านสิ้นไปแล้ว”

 มิตรสหายของท่านขอร้องให้ท่านอธิบายความหมาย ท่านได้กล่าวว่า “นบีอีซา(พระเยซู)ได้เรียกร้องสาวกของท่านให้มาสู้สัจธรรมอันเดียวกันกับที่ฉันกำลังเรียกร้องพวกท่านอยู่นี้ ผู้ที่นบีอีซาได้ส่งคำเรียกร้องไปซึ่งอยู่ใกล้ๆ ได้ยอมรับและปฏิบัติตามสัจธรรมที่ท่านนบีอีซานำมา ส่วนผู้ที่อยู่ไกลออกไปไม่ชอบสัจธรรมนั้น ก็ไม่ยอมรับ”                      

ท่านได้กล่าวต่อไปถึงแผนการที่ท่านจะส่ง ทูตศาสนา ไปหา เฮราคลิอุส และราชาคณะแห่งอเล็กซานเดรียในอียิปต์ คุสโรแห่งเปอร์เชีย และอาณาจักรโดยรอบอารเบียทุกแว่นแคว้น เพื่อเรียกร้องให้ กษัตริย์และประชาการเหล่านั้นมาสู่อิสลาม บรรดามิตรสหาย(สาวก ท่านนบีมูฮัมหมัดจะเรียกสาวกของท่านว่าสหายของท่านเสมอ) ต่างเห็นด้วย และได้ทำตราประทับ ที่ทำด้วยเงินอันหนึ่งให้แก่ท่าน ซึ่งเขียนว่า “มูฮัมหมัด นบี(ศาสนทูต)แห่งอัลเลาะฮ์”

สาส์นของท่านศาสดามูฮัมหมัด

กษัตริย์เฮราคลิอุส แห่งโรมัน


ท่านได้ส่งสาส์นไปยังประมุขแห่งดินแดนต่างๆมีใจความคล้ายๆกันดังนี้ “ ในนามแห่งอัลเลาะฮ์ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงกรุณายิ่ง จากมูฮัมหมัด อิบนุ(บุตรของ) อับดุลเลาะฮ์ ถึง เฮราคลิอุส จักรพรรดิแห่งไบแซนติอุม  ขอความสงบสุขมีแด่ผู้ได้รับทางนำที่ถูกต้อง ข้าพเจ้าขอเชิญชวนท่านมาสู่อิสลาม ถ้าท่านเปลี่ยนมารับอิสลาม ท่านจักปลอดภัยและพระผู้เป็นเจ้าจักทรงเพิ่มรางวัลให้ท่านเป็นสองเท่า หากท่านไม่ยอมเปลี่ยน ความรับผิดชอบความรอดพ้นสำหรับประชาชนของท่านย่อมขึ้นอยู่กับท่าน


 โอ้ชาวคัมภีร์(ชาวยิวและชาวคริสต์) บัดนี้จงมาสู่หลักการอันดีงามซึ่งเป็นของร่วมกันสำหรับเราทั้งสองฝ่าย นั่นคือ เราจะเคารพบูชาแต่พระเจ้าเท่านั้น เราจะไม่ยกสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นเท่าเทียมพระองค์ และเราไม่ถือว่าผู้หนึ่งผู้ใดเป็นเจ้า นอกจากพระผู้เป็นเจ้า แต่หากพวกท่านปฏิเสธก็จงเป็นพยานเถอะว่า “เราเป็นมุสลิม(ผู้นอบน้อมในพระเจ้า)”

 สาสน์และข้อความทำนองเดียวกันนี้มีทูตถือไปยัง เฮราคลิอุสแห่งโรมัน กษัตริย์คุสโรแห่งเปอร์เชีย เนกุสแห่งเอธิโอเปีย อาร์บิชอป แห่งอเล็กซานเดรีย อียิปต์ กษัตริย์แห่ง บะฮ์เรน กษัตริย์แห่งเยเมน ซีเรีย ฯ นักประวัติศาสตร์บางท่านยืนยันว่าทูตเหล่านี้ออกเดินทางเวลาเดียวกัน แต่บางท่านก็คัดค้านกล่าวว่าเดินทางออกไปคนละเวลา


ที่มา : oknation.nationtv.tv

อัพเดทล่าสุด