ข้องใจ การซีนาคืออะไร


14,805 ผู้ชม

ปัจจุบันการผิดประเวณีหรือการร่วมหลับนอนกันระหว่างหนุ่มสาวที่ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันนั้นกลายเป็นเรื่องปกติ ในสังคมมนุษย์  เป็นความนิยมที่กำลังแพร่หลาย


ข้องใจ การซีนาคืออะไร

ปัจจุบันการผิดประเวณีหรือการร่วมหลับนอนกันระหว่างหนุ่มสาวที่ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันนั้นกลายเป็นเรื่องปกติ ในสังคมมนุษย์  เป็นความนิยมที่กำลังแพร่หลาย  ใครพอใจที่จะหลับนอนกับผู้หญิงหรือผู้ชายคนใด ก็ไม่มีผู้ใดคัดค้านและต่อต้าน  เพราะได้กลายเป็นค่านิยมที่ปลูกฝังให้เด็กยุคใหม่มองเป็นเรื่องธรรมดา นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น และกำลังประสบปัญหาในสังคมมุสลิม

ข้องใจ การซีนาคืออะไร

ซินา ( الزِّنَا ) เป็นคำอาหรับ  มีคำกริยาว่า  ซฺะนา  ( زَنٰى )  มีรูปคำอาการนามว่า زِنًى    (ตามสำเนียงฮิญาซฺ)  และ زِنَاءً (ตามสำเนียงเผ่าตะมีม) หมายถึง فُجُورٌ  ซึ่งมีความหมายว่า  การเบี่ยงเบนจากความถูกต้อง,  การฝ่าฝืน,  ความเสียหาย,  การผิดประเวณี  ในที่นี้หมายถึง  การผิดประเวณีอันเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องตามหลักนิติธรรมอิสลาม, ซินา มี  2  ลักษณะคือ
1. ซินาในเชิงนามธรรม  อาทิเช่น  การมองดูเพศตรงข้ามด้วยอารมณ์กำหนัด  การเกี้ยวพาราสี  การสัมผัสลูบคลำ  เป็นต้น  การกระทำข้างตนเข้าข่ายเป็นซินา กล่าวคือ เป็นสิ่งชักนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้อง  ถือเป็นสิ่งต้องห้าม (ฮะรอม) และผู้กระทำโดยเจตนามีบาป (อิซฺม์)  การซินาในลักษณะที่ 1 นี้ไม่มีบทลงโทษที่ถูกกำหนดไว้ตามกฎหมายอิสลามแต่ผู้กระทำการดังกล่าวจะถูกปรามหรือถูกลงโทษสถานเบา  (ตะอฺซีรฺ)  ตามดุลยพินิจของฝ่ายปกครองหรือศาลอิสลาม เช่น เฆี่ยน, ด่าทอ, ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวด้วยหรือการเนรเทศ (มินฮาญุลมุสลิม 425)  แล้วแต่กรณี
2. ซินาในเชิงรูปธรรม  คือ การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องตามหลักนิติธรรมอิสลาม  ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมที่มีบทลงโทษรุนแรงสถานหนักกำหนดเอาไว้ ( حُدُوْدٌ ) นักวิชาการระบุคำนิยามของซินาลักษณะนี้ว่า หมายถึง การร่วมเพศที่ต้องห้ามในทวารหน้าหรือทวารหลัง (มินฮาญุลมุสลิม  415)  โดยลักษณการร่วมเพศเป็นไปโดยการทำให้ส่วนปลายองค์ชาติ (ส่วนที่ถูกขลิบหนังหุ้มปลายออกไป) หายเข้าในอวัยวะเพศของหญิงที่ต้องห้ามมีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยอวัยวะเพศนั้นกระตุ้นอารมณ์กำหนัดตามภาวะปกติ  ทั้งนี้มิใช่การมีเพศสัมพันธ์ในกรณีการสมรสที่คลุมเครือ  (นิกะฮฺ ซุบฮะฮฺ)   ถึงแม้ว่าจะไม่มีการหลั่งก็ตาม  (ฟิกฮุซฺซุนนะฮฺ ; ซัยยิดซาบิก 2/553)  โดยกระทำไปทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นสิ่งต้องห้าม  (อิอานะตุตตอลิบีน,  อัดดุมยาฏีย์  4/162)  การมีเพศสัมพันธ์ตามลักษณะดังกล่าวถือเป็นซินาที่ผู้กระทำจำต้องได้รับบทลงโทษสถานหนักตามหลักนิติธรรมอิสลาม  เพราะถือเป็นคดีอาญาร้ายแรงรองจากการตกศาสนา  (ริดดะฮฺ)  และการฆ่า  (อิอานะตุดตอลิบีน  4/161)  และเป็นมหันตโทษ  (บาปใหญ่)  
โดยหลักนิติธรรมอิสสลามกำหนดบทลงโทษเอาไว้  2 ลักษณะ  กล่าวคือ
1. ผู้ทำซินา  เป็นบุคคลที่ไม่เคยผ่านการสมรสที่ถูกต้องตามหลักศาสนามาก่อน  ( غَيْرُمُحْصَن )  มีบทลงโทษ ด้วยการถูกเฆี่ยน 100 ที  ตามวิธีการที่ถูกกำหนดไว้ถูกเนรเทศออกจากบ้านเมืองในระยะทางที่อนุญาตให้ละหมาดย่อหรือมากกว่านั้นเป็นเวลา 1 ปี  (มินฮาญุลมุสลิม)  415, อิอานะฮฺ 162)
2. ผู้ทำซินา  เป็นบุคคลที่ผ่านการสมรสที่ถูกต้องตามหลักศาสนามาก่อนแล้ว ( مُحْصَن )  มีบทลงโทษด้วยการถูกขว้างด้วยก้อนหินจนตาย  (มินฮาญุลมุสลิม  415)  ทั้งนี้คำนึงถึงเงื่อนไขของผู้ทำซินา  ซึ่งถูกลงโทษทั้ง  2  ลักษณะว่า  เป็นมุสลิม  มีสติสัมชัญญะบรรลุศาสนภาวะ,  สมัครใจมิได้ถูกบังคับ  และผู้ทำซินานั้นยอมรับสารภาพด้วยตัวเองในสภาพปกติ  หรือมีพยานยืนยันที่เป็นชายที่เชื่อถือได้จำนวน 4 คน  และผู้ทำซินานั้นไม่กลับคำให้การก่อนคำเนินการลงโทษ  (อ้างแล้ว  หน้า 416)  และลักษณะวิธีการในการเฆี่ยนนั้น  ให้จำเลยนั่งลงกับพื้น  และเจ้าหน้าที่เฆี่ยนที่หลังของจำเลยด้วยแส้ขนาดปานปลางและเฆี่ยนในระดับปานกลางจำนวน 100 ที  ผู้หญิงก็เช่นเดียวกับผู้ชาย  ยกเว้นให้นางปกปิดร่างกายด้วยผ้าบางๆ  และการลงโทษต้องคำนึงถึงสภาพอากาศและสุขภาพของจำเลยด้วย  ส่วนการขว้างนั้น  ให้ขุดหลุมลึกถึงหน้าอกของจำเลยแล้วขว้างด้วยก้อนหินจนตายต่อหน้าผู้ปกครองหรือตัวแทนและพยานตลอดจนชาวมุสลิมที่ร่วมรับรู้การลงโทษนั้นไม่น้อยกว่า 4  คน  (อ้างแล้ว  หน้า  414, 417) 
ที่กล่าวมานี้ในกรณีที่มีการสารภาพ  หรือมีคำร้องถึงศาลอิสลามตามกระบวน  วิธีพิจารณาคดีอาญา  ส่วนถ้าไม่มีศาลอิสลามก็ให้ผู้กระทำผิดสำนึกผิด  (เตาบะฮฺ)  ตามเงื่อนไขที่ศาสนากำหนดไว้

ที่มา:   alisuasaming.org

อัพเดทล่าสุด