การให้สลาม เป็นอีกหนทางหนึ่งในการสร้างไมตรีจิตต่อกันและช่วยเสริมสร้างความสนิทสนมกลมเกลียวให้มากยิ่งขึ้น การให้สลามก่อนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นวิธีที่ได้ผลในการสมานรอยร้าวระหว่างบุคคล
เริ่มต้นให้สลาม
การให้สลาม เป็นอีกหนทางหนึ่งในการสร้างไมตรีจิตต่อกันและช่วยเสริมสร้างความสนิทสนมกลมเกลียวให้มากยิ่งขึ้น การให้สลามก่อนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นวิธีที่ได้ผลในการสมานรอยร้าวระหว่างบุคคล ท่านร่อซูล (ซ.ล.) กล่าวว่า :
“ ฉันจะแนะพวกท่านทั้งหลายสู่หนทางที่จะทำให้พวกท่านรักใคร่กลมเกลียวกัน พวกท่านจะเอาไหม (นั่นก็คือ) ทำให้การสลามแผ่หลายในหมู่พวกท่าน ” (บันทึกโดย อิมามมุสลิม)
นี่คือแนวทางของท่านนบี (ซ.ล.) และบรรดาซอฮาบะฮฺก็น้อมรับและเจริญรอยตามท่าน ท่านอุมัร อันนัดบีย์ (ร.ด.) ได้กล่าวว่า :
“ ฉันได้ออกไปกับท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ อุมัร (อิบนุล คอฎฎ็อบ) ในระหว่างทางไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ท่านพบ ท่านก็จะให้สลามกับพวกเขา ”
นอกจากการให้สลามแล้ว การจับมือทักทายก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะได้ผลในการถ่ายทอดความรู้สึกรักใคร่และความปรารถนาดีให้แก่อีกฝ่าย ท่านนบี (ซ.ล.) สอนเราว่า :
“ จงจับมือทักทายกัน ความเคียดแค้นก็จะมลายหายไป ” (บันทึกโดย อิมามมาลิก)ท่านฮะซัน อัลบัสรีย์ ซึ่งเป็นตาบิอีย์ อาวุโสท่านหนึ่งกล่าวว่า :
“ การประสานมือจะเพิ่มความรักใคร่ต่อกัน ”
ท่านอิบรอฮีม อัซซุฮฺรีย์ ได้กล่าวว่า: บิดาของฉันได้มอบหมายให้ฉันจัดหาของขวัญ ตลอดจนเขียนรายชื่อบุคคลทั้งหลายที่จะมอบของขวัญให้ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว คนสนิท และญาติมิตรสหาย ฉันก็ทำตามที่ท่านมอบหมายมา แต่ท่านกลับบอกฉันว่า นึกดูให้ดีนะว่ามีใครที่เราละเลยไม่ได้ลงชื่อเขาอีกไหม? ฉันกล่าวกับบิดาว่า: ไม่มีใครแล้วครับ ท่านบอกว่า: มีสิ ยังมีชายอีกคนหนึ่ง เขาพบฉันกลางทางและให้สลามฉัน ยิ้มแย้มให้ฉัน เขามีลักษะอย่างนั้น อย่างนี้ อย่าลืมจัดเงิน 10 ดีนาร์ ให้เขาด้วย
นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่า การให้สลามและการยิ้มแย้มมีผลต่อจิตใจผู้รับมากมายเพียงใด ทำให้เขาทราบซึ้ง แลไม่ลืมที่จะตอบแทนผู้นั้น