ซุนนะห์เรื่อง ผม หนวด เครา เล็บ


42,362 ผู้ชม

มาตรฐานของศาสนามีอยู่ว่า หากคุณไม่โกนคุณก็ได้ผลบุญที่ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของท่านนบี ประการที่สองคุณได้ผลบุญที่กล้าประกาศเอกลักษณ์ของความเป็นมุสลิม และทำตัวแตกต่างจากพวกมุชริกีน


ซุนนะห์เรื่อง ผม หนวด เครา เล็บ

ควรรู้! ซุนนะห์เรื่อง ผม หนวด เครา เล็บ


1.สิ่งที่เป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ (ฟิตเราะฮฺ) คือ


- โกนหนวด
- เลี้ยงเครา
- ถอนขนรักแร้
- ตัดเล็บ
- โกนขนในที่ลับ
- แปรงฟัน


2.ท่านรอซุลุลอฮฺชอบที่จะหวีผมและหวีเคราของท่าน แต่ไม่ได้หมกมุ่นกับมันมากนัก (หะดีษ บุคอรี)


3.ผมของท่านรอซูลยาวประมาณติ่งหูทั้งสองข้างของท่านหรือประบ่าของท่าน ผู้ใดที่ไว้ผมยาวเลยจากนั้นถือได้ว่าเป็นการเลียนแบบผู้หญิง และผู้หญิงที่มีผมสั้นกว่าบ่าทั้งสองข้างถือได้ว่าเป็นการเลียนแบบผู้ชาย  (หะดีษ บุคอรี,มุสลิม,นะซาอี,ติรฺมีซี)
4.ห้ามไว้ผมส่วนหนึ่งหรือไว้จุก แม้ว่าจะสำหรับเด็กๆ ก็ตาม (หะดีษ บุคอรี,มุสลิม,นะซาอี, ติรฺมีซี)


5.หากจะตัดผมก็ให้ตัดทั้งหมดหรือตัดส่วนข้างหลัง (หะดีษ นะซาอี) ให้เริ่มโกนผมจากทางด้านขวาก่อน


6.ผู้หญิงสามารถตัดผมให้สั้นลงได้แต่จะโกนไม่ได้ (หะดีษ ติรฺมีซี,นะซาอี,อบูดาวุด)


7.ห้ามย้อมผมหงอกด้วยสีดำอนุญาตให้ย้อมด้วยสีอื่น เช่น สีแดงหรือสีเขียว


8.ซุนนะฮฺให้ปล่อยเครายาว อนุญาตให้ตัดได้โดยให้เหลือแค่กำมือ (หะดีษ บุคอรี, มุสลิม, ติรฺมีซี)


9.อัลลอฮฺห้ามมิให้ผู้ชายทำตัวคล้ายผู้หญิงและแน่นอนการโกนเครานั้นยิ่งทำให้เหมือนผู้หญิง


10.ซุนนะฮฺให้ใส่น้ำมันที่ผมและเครา (หะดีษ บุคอรี,อิมามมาลิก) 
วิธีการคือ เทน้ำมันลงบนฝ่ามือ เริ่มต้นโดยเช็ดคิ้วขวา 3 ครั้ง คิ้วซ้ายอีก 3 ครั้ง จากนั้น จึงลูบผมสางจนน้ำมันชุ่มไปถึงรากผม


11.ซุนนะฮฺให้ขลิบหนวดจนเหลือแค่ริมฝีปากบน (หะดีษ มุสลิม,ติรฺมีซี)


12.รอซูลุลลอฮฺโกนผมหรือขลิบหนวดและตัดเล็บในวันศุกร์ ซึ่งอัลลอฮฺจะทรงช่วยเหลือปกป้องจากภัยต่างๆ จนถึงวันศุกร์หน้า


13.ซุนนะฮฺให้ตัดเล็บเพราะการไว้เล็บยาวนั้น จะเป็นที่ซ่อนของชัยฎอน (หะดีษ บุคอรี, มุสลิม)


14.ลำดับของการตัดเล็บมือคื


1) นิ้วชี้มือขวา
2) นิ้วกลางมือขวา
3) นิ้วนางมือขวา
4) นิ้วก้อยมือขวา
5) นิ้วก้อยซ้าย
6) นิ้วนางซ้าย
7) นิ้วกลางซ้าย
8 )นิ้วชี้ซ้าย
9) หัวแม่มือซ้าย
10) หัวแม่มือขวา


15. ลำดับการตัดเล็บเท้าคือ เริ่มจากนิ้วก้อยข้างขวาจนถึงนิ้วก้อยข้างซ้าย


16. อย่าตัดเล็บด้วยฟัน


17. โกนขนในที่ลับและถอนขนรักแร้ในระยะเวลาทุกๆ 40 วัน

และ"แท้จริงท่านนบีสั่งใช้ให้เล็ม (ตัด) หนวด และปล่อยเครา" (บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 381) ท่านรสูลุลอฮฺกล่าวว่า "พวกท่านจงทำตัวให้แตกต่างจากพวกมุชริก (พวกที่ตั้งภาคี) โดยที่พวกท่านปล่อยเครา และเล็มหนวดของพวกท่านเถิด" (บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษที่ 5442) หะดีษทั้งสองข้างต้นระบุว่า


1. ท่านรสูลสั่งใช้ให้มุสลิมชายทุกคนไว้หนวดและเล็มหนวดให้เรียบร้อย และกำชับให้ปล่อย (หรือเลี้ยง) เครา


2. การที่ไว้หนวดและปล่อยเคราเป็นเอกลักษณ์ของมุสลิมชาย อีกทั้งยังเป็นการทำตัวให้แตกต่างจากพวกมุชริกอีกด้วย สาเหตุเพราะพวกมุชริกไม่ไว้หนวดไว้เครานั่นเอง


3. ปัจจุบันผู้ชายส่วนใหญ่จะทำให้ใบหน้าคล้ายกับผู้หญิง ฉะนั้นการไว้หนวดไว้เคราจึงเป็นการบ่งชี้ว่า มุสลิมชายจะต้องมีหนวดมีเคราเพื่อให้แตกต่างจากเพศหญิง หรือหลีกเลี่ยงการเลียนแบบเพศหญิง


หากเราพิจารณาหลักฐานจากหะดีษข้างต้น เราจะได้รับความรู้ว่า ท่านรสูลสั่งกำชับอย่างเน้นหนักเลยว่า ให้มุสลิมชายเล็มหนวด นั่นหมายถึง มุสลิมชายคนใดที่มีหนวดไม่อนุญาตให้โกนแต่ให้ปล่อยยาวออกมา เพียงแต่ต้องคอยเล็มบ่อยๆ เท่านั้นเอง มิเช่นนั้นหนวดจะยาวล้ำเกินริมฝีปาก


ส่วนบุคคลใดที่เป็นมุสลิมชายที่ไม่มีหนวด กล่าวคือไม่เส้นหนวดขึ้นเลย เช่นนี้ศาสนาถือว่าไม่เป็นไร แต่ถ้ามีหนวดไม่อนุญาตให้โกน ส่วนกรณีเครา หากเรามีเคราจะมากหรือน้อยก็สั่งให้เราเลี้ยงเครา เพราะท่านนบีไม่ได้บอกว่า ผู้ชายที่มีเส้นเคราน้อยให้โกนทิ้งหรือ ผู้ชายที่มีเครามากให้ปล่อยไว้ แต่ท่านนบีพูดโดยรวมว่า ให้มุสลิมชายปล่อยหรือเลี้ยงเครา โดยไม่พิจารณาว่าจะมีมากหรือน้อยก็ตาม, ส่วนบุคคลใดที่ไม่มีเคราขึ้นเลย เช่นนี้ก็ถือว่าไม่ความผิดอันใดสำหรับเขา


อนึ่ง มาตรฐานของศาสนามีอยู่ว่า หากคุณไม่โกนคุณก็ได้ผลบุญที่ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของท่านนบี ประการที่สองคุณได้ผลบุญที่กล้าประกาศเอกลักษณ์ของความเป็นมุสลิม และทำตัวแตกต่างจากพวกมุชริกีน


อัพเดทล่าสุด