การเสกเป่าผูกเงื่อนคือเป็นไสยศาสตร์ชนิดหนึ่งที่สร้างผลกระทบอย่างมากทางจิตใจและร่างกายของผู้โดนไสยศาสตร์นี้
ไสยศาสตร์การเสกเป่าเงื่อนผูกปม สิ่งใก้ลตัวที่มุสลิมต้องระวัง!
การเสกเป่าผูกเงื่อนคือเป็นไสยศาสตร์ชนิดหนึ่งที่สร้างผลกระทบอย่างมากทางจิตใจและร่างกายของผู้โดนไสยศาสตร์นี้
ไสยศาสตร์ประเภทนี้โดยรูปแบบการผูกและมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอันเป็นที่รู้จัก กันดีและเป็นที่นิยมมีดังนี้
1. “ไสยศาสตร์เพื่อผูกมัดอวัยวะเพศ” เป้าหมายการทำไสยศาสตร์นี้คือเพื่อให้เกิดการหย่าร้างระหว่างสามีภรรยา
2. “ไสยศาสตร์เพื่อผูกมัดไม่ให้ชอบพอกัน” เป้าหมายการทำไสยศาสตร์นี้คือเพื่อมิให้สามารถแต่งงานกันได้ ด้วยสาเหตุต่างๆ
3. “ไสยศาสตร์เพื่อผูกมัดมิให้ออกจากพื้นที่” เป้าหมายการทำไสยศาสตร์นี้คือเพื่อกีดกันบุคคลหนึ่งออกจากที่อยู่อาศัยได้
4.“ไสยศาสตร์เพื่อผูกมัดมิให้สามารถตั้งครรภ์ได้” เป้าหมายการทำไสยศาสตร์นี้คือเพื่อให้เกิดการหย่าร้างหรือสามีไปมีภรรยาใหม่
5. “ไสยศาสตร์เพื่อผูกมัดมิให้สามารนอนหลับได้” เป้าหมายการทำไสยศาสตร์นี้คือสร้างความวิตกกังวลใจ ถ้าหากนอนหลับ จะเกิดฝันร้าย
ไสยศาสตร์ หรือ ศาสตร์มืด คือการทำ “คุณไสย” นั้นถือว่าเป็นพิธีกรรมเพื่อทำร้ายอมิตร” เป็นศาสตร์ที่ทางวิทยาศาสตร์ไม่อาจจะพิสูจน์ได้ แต่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป และมีคนเชื่อและผู้ปฏิบัติทั่วโลก ในแต่ละชุมชนจะมีรูปแบบของไสยศาสตร์ที่แตกต่างกันออกไป แต่สรุปแล้วไสยศาสตร์ก็คือการทำให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น โดยผิดแปลกจากกฏของธรรมชาติ เช่น ทำให้สามีภรรยาที่ดีกันทะเลาะและแยกทางกัน ,ทำให้สาวหลงรักหนุ่มที่เคยเกลียด ซึ่งปกติแล้วจะใช้ไสยศาสตร์มาใช้ในทางที่ชั่วร้าย โดยเฉพาะการทำ “คุณไสย” ที่เป็นพิธีกรรมเพื่อทำร้ายผู้ไม่เป็นมิตรด้วยการปลุกเสกสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปในตัว หรือฝังรูปฝังรอย หรือการทำเสน่ห์ยาแฝด
ไสยศาสตร์ ถือเป็นศาสตร์ที่ลี้ลับมีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ และมีทั่วโลกแม้กระทั่งในเวลาปัจจุบัน แม้รูปแบบจะแตกต่างกัน แต่ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การทำอันตรายต่อผู้คนด้วยวิธีที่ลี้ลับ
ไสยศาสตร์ เวทย์มนต์คาถา ถือว่าเป็นบาปใหญ่ บรรดานักกฎหมายนักวิชาการบางท่านถือว่าเป็นชิริก หรือเป็นสิ่งที่นำไปสู่การทำชิริก และบางคนถือว่าพวกที่ใช้ไสยศาสตร์ มนตร์ดำ ควรถูกประหารเพื่อให้สังคมบริสุทธิ์จากความเลวทรามของมัน ท่านนบี(ศ้อลฯ) ได้กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดว่า
“จงหลีกห่างจากบาปใหญ่ 7 ประการ บรรดาเศาะฮาบะฮฺกล่าวว่า โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮฺ มันคืออะไร? ท่านนบี(ศ้อลฯ) กล่าวว่า การตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์ ไสยศาสตร์ การฆ่าชีวิตที่อัลลอฮ์ให้เป็นที่ต้องห้ามเว้นแต่เพื่อดำรงสัจธรรม การกินดอกเบี้ย การโกงกินทรัพย์เด็กกำพร้า การหนีทัพในวันประจัญบาน และการใส่ร้ายหญิงบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องและเป็นผู้ศรัทธา” (รายงานโดย บุคอรียฺและมุสลิม)
ในคัมภีร์กุรอานและในฮะดีษบอกให้เรารู้ว่ามนุษย์บางคนก็เป็นเพื่อนกับชัยฏอน เช่น คนที่สุรุ่ยสุร่ายเป็นพวกพ้องของชัยฏอน เป็นต้น ทุกคนที่มีความสัมพันธ์กับญินจนถึงขั้นเลี้ยงไว้ใช้งานจะได้รับความทรมานและทุรนทุรายก่อนตาย หากไม่หาคนมารับมันไปเลี้ยงต่อ ญิน มีความสามารถแตกต่างจากมนุษย์ อัลกุรอ่านได้เล่าถึง "อิฟรีต" ผู้เป็นญินที่รับใช้ท่านนบีสุลัยมานว่าสามารถย้ายบัลลังก์ของ "บัลก๊อยส์"มาให้ท่านนะบีสุลัยมานได้ในพริบตา (ดูอัลกุรอ่าน บท อัลนัมลุ / 38-39)
อีกทั้งสามารถจำแลงตนเป็นรูปร่างต่างๆได้ มนุษย์จึงสามารถเห็นญินได้นอกเหนือจากนี้ญินยังสามารถทำร้ายมนุษย์ได้ด้วยวิธีการต่างๆ หมอไสยศาสตร์จึงได้ใช้ญินเป็นสื่อเพื่อที่จะให้ผู้คนเชื่อว่าเขามีพลังอำนาจ สามารถล่วงรู้สิ่งต่างๆ สามารถสร้างความเจ็บป่วยหรือความสบายให้ใครๆได้ แต่หารู้ไม่ว่าเขากำลังนำพาตัวของเขาและผู้ที่หลงเชื่อตามเขาไปสู่ความหายนะทั้งโลกนี้และโลกหน้า
เครื่องหมายต่างๆของผู้โดนไสยศาสตร์หรือถูกญินสิงร่าง
วิธีการที่ญินจะเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ ญิน นั้นก็คือ ลม และร่างกายมนุษย์ก็มีรูขุมขนซึ่งญินนั้นสามารถที่จะเข้าไปในร่างกายมนุษว์ได้ทุกที่ ดังที่อัลลอฮฺทรงตรัสไว้ว่า
(وَخَلَقَ الْجَانَّ مِن مَارِجٍ مِن نَارٍ)
ความว่า: และพระองค์ทรงสร้างญินจากเปลวไฟ (อัรรอหฺมาน : 15)
“ท่านอิบนุอับบาสได้อธิบายโองการนี้ว่า อัลลอฮฺทรงสร้างญินมาจากเปลวไฟที่เป็นอากาศร้อนที่ออกมาจากไฟ และในขณะที่ญินได้เข้าไปสู่ร่างกายมนุษย์แล้ว มันจะมุ้งไปสู่"สมองเป็นอันดับแรก" และเส้นทางของสมองนี้เองสามารถที่จะส่งผลต่ออวัยวะส่วนอื่นๆของร่างกายได้ทั้งหมด ”
การสิงสู่ของญินนั้นมีขึ้นหลายรูปแบบ ซึ่งบางทีมันจะสิงสู่โดยการควบคุมประสาททั้งหมดของร่างกายมนุษย์ นั่นหมายถึงมันได้ควบคุมร่างกายทั้งหมด บางทีมนุษย์อาจถูกสิงสู่ในอวัยวะเพียงบางส่วน บางทีอาจจะสิงสถิตอยู่เป็นระยะเวลานาน หรือเพียงไม่กี่นาทีซึ่งจะมาในรูปของฝันร้าย
เครื่องหมายของผู้โดนไสยศาสตร์หรือถูกญิน สิงร่างในขณะตื่น
1. ปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ และห่างไกลการระลึกถึงอัลลอฮฺ
2. โกรธจัด, กลัวจัด,การเข้าไปในกุโบร์ในยามค่ำคืน
3. เจ็บป่วยเมื่อไปเยี่ยมคนตาย
4. เจ็บแน่นหน้าอกหลังเวลาอัสรี
5. สามีและภรรยามักจะทะเลาะกัน ในเรื่องเล็ก ๆ
6. รู้สึกงงงัน ,หลงลืม ,ขี้เกียจ ,สติแตก
7. ไม่มีความหนักแน่นในคำพูดและการกระทำ
8. มีความรู้สึก ว่ามีวัตถุเคลื่อนไหวใต้ผิวหนัง
9. ชอบนอน , กลัวจากการเข้าใกล้ญาติมิตร,ไม่สู้หน้าคน
10. ร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ ,หวีดร้อง , ตบหน้าตัวเอง
11. มีอาการเจ็บปวดอยู่บ่อยครั้งตามร่างกาย เช่น ปวดหัว, ปวดตามข้อ ,ปวดหลัง.
12. รู้สึกว่ามีสิ่งต่างๆที่ผิดปกติหรือจิตบางอย่างอยู่รอบตัวเขา ,ใจเต้นเร็ว ไม่ทราบสาเหตุ
13. ได้ยินเสียงประหลาดพูดกับเขา หรือเรียกชื่อเขา
เครื่องหมายของผู้โดนไสยศาสตร์ที่ถูกญินสิงร่างในขณะนอนหลับ
1. นอนไม่หลับ ,วิตกกังวล , ฝันร้าย
2. รู้สึกว่ามีคนต้องการจะฆ่าเรา
3. กัดฟัน,ยิ้มขณะนอนหลับ, ละเมอพูดหรือเดินโดยไม่รู้ตัว
4. ฝันเห็นสิ่งของที่มีคม (เช่น กริซ, มีด ฯลฯ )
5. ฝันให้นมเด็กเล็กหรืออุ้มเด็ก (baby)
6. ฝันว่ามีสัตว์ร้ายรุมกัด หรือเข้าจู่โจม หรือเดินตามหลังเขา
7. ฝันเห็นไม้กางเขนหรือโบสถ์คริสต์
8. ฝันว่าตกจากที่สูง หรือบินอยู่ในอากาศ
9. ฝันว่าตกบ่อหรือทะเล หรือตกลงไปในที่ที่มีไฟ
10.ฝันว่าอยู่ในกุโบร์ หรืออยู่ในกองมูลสัตว์
11.ฝันเห็นมนุษย์มีลักษณะแปลกๆ บางก็สูงหรือเตี้ยจนเกินไป
12. ตื่นขึ้นมามีรอยช้ำหรือกรงเล็บตามในร่างกาย
วัลลอฮุอะอฺลัมบิศเศาะวาบ (والله أعلم)
โดย :อะฮฺมัด อาลี , Ustaz Suhaimi Rozali , ustaz Sharhan shafie
- กินอินทผาลัมยามเช้า ป้องกันไสยศาสตร์ได้
- ชัยฏอนต่อต้านคนในมัสญิดหรือไม่ ?
- ชาวกุเรชมองไม่เห็นท่านนบี
- ทุกครั้งที่เราสุญูดมันทำให้ชัยฏอนร้องไห้
- ศาสนาและนิกายในหมู่ "ญิน"
- อินทผาลัมนบี ประโยชน์อินทผาลัมอัจวะฮฺ ประวัติอินทผาลัม
- ทำไสยศาสตร์ ให้คู่ครองรัก (ห้ามมุสลิมยุ่งเด็ดขาด)
- ดุอาอฺเมื่อโดนทำไสยศาสตร์ กล่าวว่าอย่างไร?
- ญิน ในอิสลาม มีกี่ประเภท จากหะดีษท่านนบีกล่าวไว้