สงครามครั้งสุดท้ายและวันอวสานโลก


128,197 ผู้ชม

วันกิยามะฮฺจะไม่บังเกิดขึ้นจนกว่าชาวโรม (ชาวยุโรปและชาวอเมริกันปัจจุบัน )จะรวมตัวกันที่เมืองA'maq หรือ Dabiq


สงครามครั้งสุดท้ายและวันอวสานโลก

สงครามครั้งสุดท้ายและวันอวสานโลก

لا تقوم الساعة حتى ينزل الروم بالأعماق ، أو بدابق . فيخرج إليهم جيش من المدينة . من خيار أهل الأرض يومئذ . فإذا تصافوا قالت الروم : خلوا بيننا وبين الذين سبوا منا نقاتلهم . فيقول المسلمون : لا . والله ! لا نخلي بينكم وبين إخواننا . فيقاتلونهم . فينهزم ثلث لا يتوب الله عليهم أبدا . ويقتل ثلثهم ، أفضل الشهداء عند الله . ويفتتح الثلث . لا يفتنون أبدا . فيفتتحون قسطنطينية . فبينما هم يقتسمون الغنائم ، قد علقوا سيوفهم بالزيتون ، إذ صاح فيهم الشيطان : إن المسيح قد خلفكم في أهليكم . فيخرجون . وذلك باطل . فإذا جاءوا الشام خرج . فبينما هم يعدون للقتال ، يسوون الصفوف ، إذ أقيمت الصلاة . فينزل عيسى ابن مريم صلى الله عليه وسلم . فأمهم . فإذا رآه عدو الله ، ذاب كما يذوب الملح في الماء . فلو تركه لانذاب حتى يهلك . ولكن يقتله الله بيده . فيريهم دمه في حربته
الراوي: أبو هريرة المحدث: مسلم - المصدر: صحيح مسلم - الصفحة أو الرقم: 2897
خلاصة حكم المحدث: صحيح


ความว่า วันกิยามะฮฺจะไม่บังเกิดขึ้นจนกว่าชาวโรม (ชาวยุโรปและชาวอเมริกันปัจจุบัน )จะรวมตัวกันที่เมืองA'maq หรือ Dabiq (ชื่อเมืองที่ตั้งอยู่ในกลางเมืองฮะลับ ประเทศซีเรียปัจจุบัน) เหล่าทหารที่มาจากเมืองอัลมะดีนะฮฺจะออกไปทำสงครามกับพวกเขา เมื่อทั้งสองฝ่ายตั้งแถวเพื่อเผชิญหน้า ชาวโรมกล่าวแก่ชาวมุสลิมีนว่า จงปล่อยให้พวกเราฆ่ากลุ่มที่เราจับเป็นเชลยในกลุ่มของพวกเราก่อน(เป็นสัญญาณว่าก่อนวันกิยามะฮฺชาวยุโรปส่วนหนึ่งจะเข้ารับอิสลามและพวกเขาถูกจับเป็นเชลยโดยชาวยุโรปเช่นเดียวกัน) ชางมุสลิมีนจึงกล่าวว่า ขอสาบานด้วยนามของอัลลอฮฺ เป็นไปไม่ได้ พวกเราไม่มีทางปล่อยให้พี่น้องของเราถูกฆ่าเช่นนี้ ดังนั้นสงครามระหว่างสองฝ่ายจึงปะทุขึ้น 1ใน 3 ของทหารมุสลิมประสบกับความพ่ายแพ้ ซึ่งอัลลอฮฺจะไม่ให้อภัยแก่พวกเขาแน่นอน(เนื่องจากพวกเขาตกมุรตัดและตั้งใจญิฮาดที่ไม่ใช่ในหนทางของอัลลอฮฺ) อีก 1ใน 3 ของทหารมุสลิมที่ยังคงเหลืออยู่จะถูกฆ่า และพวกเขาเป็นชะฮีด ณ อัลลอฮฺที่ประเสริฐที่สุด อีก 1ใน3ซึ่งเป็นกลุ่มสุดท้ายจะได้รับชัยชนะและพวกเขาจะไม่ถูกทดสอบอีกต่อไป(หมายถึงสามารถฟันฝ่าอุปสรรคอย่างสำเร็จลุล่วง) กองทหารมุสลิมกลุ่มนี้จะพิชิตเมืองคอนสแตนติโนเปิล(ประเทศตุรกีปัจจุบัน) ในขณะที่พวกเขากำลังแบ่งปันทรัพย์เชลยอยู่นั้น พวกเขาได้แขวนดาบที่ต้นมะกอก(เป็นสัญญาณว่าสงครามครั้งสุดท้ายนี้ ทหารทั้งสองฝ่ายนี้จะไม่ใช้อาวุธที่ทันสมัยอีกแล้ว เพราะทุกอย่างจะพินาศหมดสิ้น มนุษย์จึงกลับใช้ชีวิตเหมือนยุคกลางอีกครั้ง) ชัยฎอนได้ป่่าวประกาศว่าแท้จริงดัจญาลได้ปรากฎตัวแล้ว ชาวมุสลิมีนจึงออกมา แต่ก็เป็นเพียงข่าวลวง(ชัยฏอนปล่อยข่าวลวงนี้เพื่อกลบกระแสความดีใจที่ชาวมุสลิมได้รับชัยชนะ) หลังจากนั้นกองทัพมุสลิมด้วยการนำของอิมามมะฮฺดีย์พากันรวมตัวที่เมืองชาม ดัจญาลจึงปรากฎตัว และในขณะที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ในสภาพพร้อมรบ และชาวมุสลิมีนได้จัดแถวอย่างเรียบร้อย จนกระทั่งมีการประกาศให้ดำรงละหมาด วินาทีนั้น นบีอีซาได้ลงมาจากฟากฟ้าและนำละหมาดให้แก่พวกเขา ทุกครั้งที่ศัตรูของอัลลอฮฺ(ดัจญาล) เห็นและจับตัวนบีอีซาท่านจะละลายเหมือนเกลือละลายน้ำ และหากนบีอีซาปล่อยดัจญาล มันก็จะละลายไปเอง แต่อัลลอฮฺประสงค์ที่จะฆ่าด้วยพระองค์เองด้วยการให้นบีอีซาฆ่ามันด้วยมือของท่าน และนบีอีซาจะให้ชาวมุสลิมดูคราบเลือดของมันที่ยังติดอยู่ที่ปลายหอกที่ท่านใช้สังหารมัน

ที่มา: Mazlan Muhammad

อัพเดทล่าสุด