ไม่มีสักคนที่ได้เรียนรู้อัลกุรอานแล้วเขาก็ลืมมันนอกเสียจากมันจะเกิดจากบาปของเขานั่นเอง
การศรัทธาในคัมภีร์อัลกุรอานทั้งเล่ม เป็นหลักการหนึ่งที่มุสลิมทุกคนต้องศรัทธา นั่นก็หมายความว่าหากไม่ศรัทธาในอัลกุรอาน หรือศรัทธาเพียงบางส่วนก็จะเป็นมุสลิมไม่ได้ เช่นเดียวกับที่ต้องศรัทธาว่าคัมภีร์อัลกุรอานนี้มีความบริบูรณ์ภายใต้การพิทักษ์ของพระผู้เป็นเจ้า ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีการสังคายนาคัมภีร์อัลกุรอานเลย ตั้งแต่วันที่ท่านศาสดาเสียชีวิตจนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดยมีความเหมือนกันในทุกฉบับบนโลก และภาษาอาหรับในคัมภีร์จึงเป็นภาษาโบราณภาษาเดียว ที่มีใช้อย่างคงเดิมอยู่จนกระทั่งวันนี้ได้ และได้กลายเป็นภาษามาตรฐานของประเทศอาหรับทั้งหลาย เป็นภาษาวิชาการของอิสลาม และเป็นภาษาที่ใช้ในการปฏิบัติศาสนพิธีของมุสลิมทุกคนทั่วโลก
บาปทำให้ลืมอัลกุรอาน
قال الضحاك -رحمه الله-:
ما تعلمَّ رجلٌ القرآن ثمّ نسيه إلاّ بذنب ، ثمّ قرأ (وَمَا أَصَابَكُمْ مِنْ مُصِيبَةٍ فَبِمَا كَسَبَتْ أَيْدِيكُمْ ) ، ثمّ قال : وأي مصيبة أعظم من نسيان القرآن !
الجامع لأحكام القرآن (16/30)
อัฎเฎาะหาก เราะหิมะฮุลลอฮฺ (หนึ่งในปราชญ์สลัฟด้านการอธิบายอัลกุรอาน เป็นลูกศิษย์อิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ) กล่าวว่า
"ไม่มีสักคนที่ได้เรียนรู้อัลกุรอานแล้วเขาก็ลืมมันนอกเสียจากมันจะเกิดจากบาปของเขานั่นเอง จากนั้นท่านก็อ่านอัลกุรอานที่อัลลอฮฺตรัสว่า
"และเคราะห์กรรม (มุศีบะฮฺ) ใดก็ตามที่ประสบกับพวกเจ้า มันก็เป็นผลมาจากสิ่งที่พวกเจ้าได้ขวนขวายเอาไว้นั่นเอง"
จากนั้นท่านก็กล่าวว่า แล้วมุศีบะฮฺใดเล่าจะหนักไปกว่าการลืมอัลกุรอาน"
อัลญามิอฺ ลิ อะหฺกาม อัลกุรอาน (16/30)
ที่มา: เรียนรู้อัลกุรอาน อัลฮาดิษและดุอาอฺ วันละบท