เรื่องราวที่ข่มขื่นในประวัติศาสตร์สมัยรซูล และเป็นบทเรียนแด่อุมมะฮฺรุ่นหลังตราบจนทุกวันนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการละเลย ไม่ฎออะฮฺต่อหน้าที่ความรับผิดชอบ
ภูเขาอูฮุด ประวัติศาสตร์น่าจดจำเเละเตือนใจ
เรื่องราวที่ข่มขื่นในประวัติศาสตร์สมัยรซูล และเป็นบทเรียนแด่อุมมะฮฺรุ่นหลังตราบจนทุกวันนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการละเลย ไม่ฎออะฮฺต่อหน้าที่ความรับผิดชอบ (อามานะฮฺ) ที่ได้รับมอบหมาย
อุฮุดเป็นเทือกเขาแห่งหนึ่งในนครมะดีนะฮฺ อยู่ห่างจากมะดีนะฮฺประมาณ 3 กม. เป็นภูเขาที่มีความสำคัญคือเป็นสถานที่ที่เคยทำสงครามในสมัยท่านรซูล เรียกว่า “สงครามอุฮุด”
แล้วเป็นภูเขาลูกเดียวที่ท่านรซูลกล่าวว่า "ภูเขาอุฮุดรักเรา และเราก็รักภูเขาอุฮุด" และยังมีกุโบรฺของนักรบมุสลิม ที่เสียชีวิต (ชะฮีด) ในสงครามครั้งนั้นถึง 70 คน และที่สำคัญ 1 ใน 70 คน มีอาของท่านรวมอยู่ด้วย คือ ฮัมซะฮฺ บิน อับดุลมุฏฏอลิบ
การสู้รบในตอนแรก ฝายมุสลิมได้ชัยชนะ แต่ยังไม่ทันที่การรบจะสิ้นสุดลง พลธนูที่ประจำการบนเขาอุฮุดก็ละทิ้งหน้าที่ ลงมาเก็บข้าวของฝ่ายข้าศึก โดยคิดว่าการรบเสร็จสิ้นลงแล้ว กองทัพฝ่ายมุสลิมจึงระส่ำระส่ายไม่เป็นระเบียบ คอลิด บินวาลิด (ก่อนรับอิสลาม) จึงฉวยโอกาสนี้เข้าโจมตีกองทัพมุสลิมจากด้านหลัง เมื่อไม่มีทางสู้ทหารฝ่ายมุสลิมจึงพากันแตกหนีจากสนามรบ ท่านรซูลพยายามที่จะนำพวกเขากลับมาแต่ก็ไม่สำเร็จ ในขณะนั้น อิบนุ กะมีอะฮฺ ทหารของฝ่ายกุร็อยชฺ ได้ขว้างก้อนหินมายังท่านรซูล จนฟันหน้าของท่านหักไปหนึ่งซี่ ท่านล้มลงกับพื้นจนมีข่าวลือไปว่าท่านถูกฆ่าเสียแล้ว ซึ่งความเป็นจริงนั้นท่านเพียงแค่ตกตะลึงไปชั่วขณะเท่านั้น
ครู่ต่อมา มีเศาะฮาบะฮฺช่วยอุ้มท่านขึ้นและช่วยท่านให้ไต่เข้าไปซ่อนในถ้ำบนภูเขาอุฮุด ซึ่งกองทัพส่วนใหญ่ของมุสลิมกำลังรออยู่ ในส่วนของฮัมซะฮฺอาของท่านที่ชะฮีดในสงครามครั้งนี้ ถูกนางฮินดฺซึ่งเป็นภรรยาของอบูซุฟยานฆ่าตาย และนางได้ผ่าท้องท่านฮัมซะฮฺแล้วควักเอาหัวใจของท่านมากิน เพื่อแก้แค้นที่ท่านเป็นคนฆ่าสามีของนางตายในสงครามบัดรฺ
ภาพภูเขาอุฮุด ในยาวมค่ำคืน สวยงามมาก