ประวัติมัสญิดอัลอักซอ มัสยิดโดมศิลาสีทอง ที่หลายคนสับสนว่า มัสญิดโดมศิลาสีทองคือมัสญิดอัลอักซอ...
อย่าสับสน มัสญิดอัลอักซอกับโดมศิลาสีทอง (ประวัติ)
ประวัติมัสญิดอัลอักซอ มัสยิดโดมศิลาสีทอง ที่หลายคนสับสนว่า มัสญิดโดมศิลาสีทองคือมัสญิดอัลอักซอ
มัสญิดอัลอักซอ (Al Aqsa Mosque)
มัสญิดอัลอักซอ (ในกรุงเยรูซาเล็ม) นั้นเป็นกิบละฮฺแรกในสองกิบละฮฺ (ทิศที่หันในการละหมาด)และเป็นหนึ่งในสามมัสญิด ที่ผู้คนเดินทางมา โดยมีเป้าหมายเพื่อการอิบาดะฮฺ (ต่ออัลลอฮฺ) กล่าวกันว่า มัสญิดแห่งนี้ สร้างขึ้นโดยนบีสุลัยมาน (อะลัยฮิสลาม) ดังที่มีบันทึกไว้ในสุนัน อัน นาซาอียฺ และจัดเป็นหะดีษศอเฮียะฮฺ โดยเชค อัล บานียฺ กล่าวกันอีกว่า มัสญิดแห่งนี้ มีมาก่อนท่านนบีสุลัยมาน โดยนบีสุลัยมาน ได้บูรณะมัสญิดหลังนี้ ในภายหลังตามหะดีษที่รายงานโดย อิมาม บุคอรียฺและอิมามมุสลิม ซึ่งรายงานมาจาก อบู ซัรรฺ (รอดิยัลลอฮุ อันฮุ) โดยเขากล่าวว่า
“ฉันถามท่านนบีว่า: มัสญิดใดที่ถูกสร้างขึ้นมา บนแผ่นดินเป็นแห่งแรก
ท่านตอบว่า : "มัสญิด อัลหะรอม (ในมักกะฮฺ)"
ฉันถามต่อว่า : หลังจากนั้นหล่ะ?
ท่านตอบว่า : มัสญิดอัล อักซอ
ฉันถามต่อว่า : มีระยะเวลาเท่าไหร่ ระหว่างสองมัสญิดนี้?
ท่านตอบว่า : สี่สิบปี
ดังนั้น ไม่ว่าเจ้าจะอยู่มัสญิดไหน (ระหว่างสองมัสญิดนี้) เมื่อเข้าเวลาละหมาด เจ้าจงละหมาด เพราะนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะปฏิบัติ”
ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ถูกนำพาไปในการเดินทางของคืนหนึ่ง (อิสเราะอฺ) สู่บัยตุลมักดิส (เยรูซาเล็ม) ที่ที่ท่านได้นำละหมาดนบีคนอื่นๆ ในมัสญิดอันศักสิทธ์แห่งนี้ อัลลอฮฺกล่าวว่า:
“มหาบริสุทธิ์ผู้ทรงนำบ่าวของพระองค์ เดินทางในเวลากลางคืน จากมัสญิดอัลหะรอม ไปยังมัสญิดอัลอักซอ ซึ่งบริเวณรอบมัน เราได้ให้ความจำเริญ เพื่อเราจะให้เขาเห็นบางอย่าง จากสัญญาณต่างๆ ของเรา แท้จริงพระองค์ คือ ผู้ได้ยิน ผู้ทรงเห็น” อัลอิสรออฺ 1
โดมศิลาทองนั้น ถูกสร้างขึ้นโดยเคาลีฟะฮฺ อับดุลมาลิก บิน มัรวาน ในปีที่ 72 ของฮิจญ์เราะฮฺศักราช ดังที่ถูกบันทึกไว้ใน อัล เมาซูอะฮฺ อัล ฟีลัสฏีนนียะฮฺ (4/203) ในเชิงประวัติศาสตร์ ชื่อมัสญิดอัลอักศอ เกี่ยวพันกับสถานศักดิ์สิทธิ์อันมีเกียรติ (อัลหะรอม อัลชะรีฟ) รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างที่อยู่ในนั้นด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือโดมศิลาทอง ที่สร้างโดยเคาะลีฟะฮฺ อับดุลมาลิก บิน มัรวาน ในปีที่ 72 ของฮิจญ์เราะฮฺศักราช ตรงกับปีที่ 691ของคริสตศักราช ซึ่งนับว่า เป็นสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์อิสลาม ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง แต่วันนี้ ชื่อของโดมศิลาทอง ถูกนำมาเกี่ยวข้องกับมัสญิด (อัลอักศอ) อันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเนินอันศักดิ์สิทธิ์
มีการกล่าวไว้ใน อัล เมาซูอะฮฺ (3/23) อีกเช่นกันว่า “โดมศิลาทอง ตั้งอยู่ตรงกลางเนินของมัสญิดอัลอักซอ ที่อยู่ในทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองอัล กุดส์ (เยรูซาเล็ม) มันอยู่ในที่ราบสูงที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่กว้างขวาง ประมาณ 480 เมตร จากทางทิศเหนือถึงทิศใต้ และ 300 เมตร จากทางทิศตะวันออก ถึงทิศตะวันตก เนินสูงแห่งนี้ ครอบคลุมเกือบจะหนึ่งในห้า ของพื้นที่เมืองเก่าของเยรูซาเล็มแห่งนี้”
มัสญิดที่เป็นสถานที่ละหมาดนั้น ไม่ใช่โดมศิลาทอง แต่เพราะว่ารูปภาพของโดมนั้น มีอย่างแพร่หลาย มีมุสลิมจำนวนไม่น้อย คิดว่าเมื่อพวกเขาเห็นมันแล้ว นั่นก็เป็นมัสญิดอัลอักศอ นี่ไม่ใช่ความจริง มัสญิดนี้ ตั้งอยู่ตอนใต้ของเนิน ส่วนโดมถูกสร้างบนหินลอย (raised rock) ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของที่ราบสูง
เราทราบมาแล้วจากที่กล่าวข้างต้นว่า ชื่อของมัสญิดแห่งนี้ เกี่ยวพันกับที่เนินแห่งนี้ ตลอดประวัติศาสตร์ ความเชื่อของมุสลิม ที่มีต่อภาพของโดม อาจเป็นเพราะว่า ความสวยงามของสิ่งก่อสร้างนี้ ก็เป็นได้ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ข้อแก้ตัว สำหรับพวกเขา ต่อความเข้าใจผิด ที่ไม่สามารถแยกแยะ ระหว่างมัสญิดแห่งนี้ กับสิ่งก่อสร้างที่อยู่รอบๆ
นี่อาจเป็นแผนการ และอุบายอย่างหนึ่ง ของยิว เพื่อที่ผู้คนจะได้หันไปให้ความสำคัญ กับโดมศิลานี้ เพื่อว่าจะได้ทำให้ความต้องการของพวกเขา ในการที่จะสร้างสิ่งที่เรียกกันว่า วิหารนบีสุลัยมาน บนความพินาศของมัสญิดอัลอักศอ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ด้วยการทำให้มุสลิม คิดว่ามัสญิดอัลอักศอ คือโดมศิลาทอง ทั้งนี้ เมื่อยิวเริ่มที่จะทำลายมัสญิดอัลอักศอ แล้วมุสลิมพากันประณามพวกเขาในเรื่องนั้น พวกเขาก็จะบอกมุสลิมว่า “มัสญิด อัลอักศอยังอยู่ดี” และจะนำภาพของโดมศิลาทอง มาให้ดู ด้วยวิธีนี้พวกเขา จะบรรลุเป้าหมายของพวกเขาและรอดพ้นจากการวิพากษ์วิจารณ์ของมุสลิม
- ความประเสริฐของมัสยิดอักซอ
- ลักษณะพิเศษของมัสยิดทั้ง 3 แห่งที่สำคัญในอิสลาม
- ภาพในค่ำคืน 27 ของรอมฎอน ที่มัสยิดอัลอักซอ
ประวัติมัสยิดอัลซอกห์เราะห์ (Al-Sakhrah Masjid)
มัสยิดอัลซอกห์เราะห์ (Al Sakhrah)หรือ โดมศิลาทอง( Dome of the rock ) นั้นถูกสร้างขึ้นโดยเคาลีฟะฮฺ อับดุลมาลิก บิน มัรวาน ในปีที่ 72 ของฮิจญ์เราะฮฺศักราช ดังที่ถูกบันทึกไว้ใน อัล เมาซูอะฮฺ อัล ฟีลัสฏีนนียะฮฺ (4/203) ในเชิงประวัติศาสตร์ ชื่อมัสญิดอัลอักซอ เกี่ยวพันกับสถานอันมีเกียรติ (อัลหะรอม อัลชะรีฟ) รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างที่อยู่ในนั้นด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือโดมศิลาทอง ที่สร้างโดยเคาะลีฟะฮฺ อับดุลมาลิก บิน มัรวาน ในปีที่ 72 ของฮิจญ์เราะฮฺศักราช ตรงกับปีที่ 691ของคริสตศักราช ซึ่งนับว่า เป็นสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์อิสลาม ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง แต่วันนี้ ชื่อของโดมศิลาทอง ถูกนำมาเกี่ยวข้องกับมัสยิด (อัลอักซอ) อันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเนินอันอันมีเกียรติ
มีการกล่าวไว้ใน อัล เมาซูอะฮฺ (3/23) อีกเช่นกันว่า "โดมศิลาทอง( Dome of rock )หรือมัสยิดอัลซอกห์เราะห์ (Al Sakhrah) ตั้งอยู่ตรงกลางเนินของมัสญิดอัลอักซอ ที่อยู่ในทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองอัล กุดส์ (เยรูซาเล็ม) มันอยู่ในที่ราบสูงที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่กว้างขวาง ยาวประมาณ 480 เมตร จากทางทิศเหนือถึงทิศใต้กว้างประมาณ 300 เมตร กว้างจากทางทิศตะวันออก ถึงทิศตะวันตก เนินสูงแห่งนี้ ครอบคลุมเกือบจะหนึ่งในห้า ของพื้นที่เมืองเก่าของเยรูซาเล็มแห่งนี้"
**โดมศิลาทองแห่งเยรูซาเลม ที่อาหรับเรียกว่า: Masjid Qubbat Al-Sakhrah, อังกฤษเรียกว่า: Dome of the Rock) ที่ตั้งเด่นอยู่ในเยรูซาเลมในขณะนั้น โดยเฉพาะการใช้โดมใหญ่ (rotunda) ที่ใช้ในการก่อสร้างโดมศิลาทอง ซึ่งเป็นลักษณะการก่อสร้างแบบใหม่สำหรับสถาปัตยกรรมอิสลาม เส้นผ่าศูนย์กลางของโดมคือ 20 เมตร 20 เซนติเมตร และสูง 20เมตร 48 เซนติเมตร ตัวอาคารก่อสร้างเป็นแปดเหลี่ยมที่ตอนบนเป็นโดมไม้ที่ตั้งอยู่บนเสา 16 เสา รอบโดมด้านล่างเป็นโค้งแปดเหลี่ยมที่รับโดยเสาอีก 24 เสา ”ทุกหนทุกแห่งรอบมัสยิดโดมศิลาทอง เต็มไปด้วยชิ้นส่วนของเสา ,หินอ่อนที่แกะอย่างงดงาม ด้านนอกของโดมศิลาทองทำด้วยพอร์ซีเลน และสะท้อนทรงแปดเหลี่ยมของสิ่งก่อสร้าง แต่ละช่วงมีขนาดกว้าง 18 เมตร และสูง 11 เมตร ทั้งโดมศิลาทองและผนังมีหน้าต่างเป็นระยะๆ
เราทราบมาแล้วจากที่กล่าวข้างต้นว่า ชื่อของมัสยิดแห่งนี้ เกี่ยวพันกับที่เนินแห่งนี้ ตลอดประวัติศาสตร์ ของมุสลิม ที่มีต่อภาพของโดมศิลาทอง อาจเป็นเพราะว่า ความสวยงามของสิ่งก่อสร้างนี้ ก็เป็นได้ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ข้อแก้ตัว สำหรับพวกเขา ต่อความเข้าใจผิด ที่ไม่สามารถแยกแยะ ระหว่างมัสยิดแห่งนี้ กับสิ่งก่อสร้างที่อยู่รอบๆ
**นี่อาจเป็นแผนการ และอุบายอย่างหนึ่ง ของยิว เพื่อที่ผู้คนจะได้หันไปให้ความสำคัญ กับโดมศิลาทองนี้ เพื่อว่าจะได้ทำให้ความต้องการของพวกเขา ในการที่จะสร้างสิ่งที่เรียกกันว่า วิหารนบีสุลัยมาน บนความพินาศของมัสยิดอัลอักซอ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ด้วยการทำให้มุสลิม คิดว่ามัสยิดอัลอักซอ คือโดมศิลาทอง ทั้งนี้ เมื่อยิวเริ่มที่จะทำลายมัสยิดอัลอักซอ แล้วมุสลิมพากันประณามพวกเขาในเรื่องนั้น พวกเขาก็จะบอกมุสลิมว่า “มัสยิด อัลอักซอยังอยู่ดี” และจะนำภาพของโดมศิลาทอง มาให้ดู ด้วยวิธีนี้พวกเขา จะบรรลุเป้าหมายของพวกเขา และรอดพ้นจากการวิพากษ์วิจารณ์ของมุสลิม
การละหมาดในมัสยิดอัล-อักซอได้ผลบุญเป็น 500 เท่าของการละหมาดในมัสยิดอื่นๆ ยกเว้นในมัสยิดอัล-ฮะรอมและในมัสยิด อัน-นะบะวีในนครมะดีนะฮ์ ท่านนบีมุฮัมมัดได้กล่าวว่า :
“การละหมาดในมัสยิดอัล-ฮะรอมเท่ากับการละหมาด 100,000 ครั้งและการละหมาดในมัสยิดของฉัน(ในมะดีนะฮ์)เท่ากับนมาซ 1,000 ครั้งและการละหมาดในบัยตุลมักดิศเท่ากับการละหมาด 500 ครั้ง” (รายงานโดยเฏาะบะรอนี)
นอกจากนี้แล้ว ยังมีข้อความในกุรอานและในคำพูดของท่านนบีมุฮัมมัดอีกมากมายหลายตอนที่อธิบายถึงความสำคัญของบัยตุลมักดิศในอิสลามและการที่อัลลอฮ์ได้ประทานความจำเริญให้แก่แผ่นดินรอบๆมัน
ด้วยเหตุนี้แผ่นดินปาเลสไตน์จึงเป็นที่รักและที่หวงแหนของบรรดาสาวกของท่านจนถึงขนาดที่ว่าเมื่อเคาะลีฟะฮ์อุมัร ได้เข้ามายังแผ่นดินแห่งนี้เป็นครั้งแรก ท่านได้ประกาศว่าแผ่นดินทั้งหมดของปาเลสไตน์จะเป็นส่วนหนึ่งของสมบัติสาธารณะแห่งอิสลาม(วะกัฟ)สำหรับมุสลิมต่อไปในวันข้างหน้า หลังจากที่ศึกษาข้อความในกุรอานและคำพูดของท่านนบีมุฮัมมัดเกี่ยวกับบัยตุลมักดิศแล้วก็ไม่มีใครที่มีเหตุผลสามารถปฏิเสธถึงความสำคัญของสถานที่แห่งนี้ต่อผู้ศรัทธาในอิสลามทุกคน
ที่มา: Marowee Tuanmaeroh