เรื่องราวความประทับใจของ วิลเลียม อับดุลลอฮฺ ควิลเลียม มุอัลลัฟ (มุสลิมใหม่) แห่งชาวอังกฤษคนแรก ที่คุณต้องทึ่ง!!....
วิลเลียม อับดุลลอฮฺ ควิลเลียม มุอัลลัฟชาวอังกฤษคนแรก
เรื่องราวความประทับใจของ วิลเลียม อับดุลลอฮฺ ควิลเลียม มุอัลลัฟ (มุสลิมใหม่) แห่งชาวอังกฤษคนแรก
วิลเลียม อับดุลลอฮฺ ควิลเลียม ผู้ก่อตั้งมัสยิด ที่ขึ้นทะเบียน แห่งแรกของอังกฤษ
ในวันที่ฝนตกลงพัดและเยือกเย็นในลิเวอร์พูล อาคารสีขาวแบบจอร์เจียเก่าแก่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของมัสยิดที่ขึ้นทะเบียนแห่งแรกของอังกฤษ มองดูอึมครึมยิ่งนัก
อสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งอยู่บนบรู้คแฮม เทอรเรส แห่งนี้อยู่ห่างจากใจกลางเมืองลิเวอร์พูลเพียงไม่กี่ไมล์เท่านั้น แต่มันผิดแผกไปจากอาคารที่ประชุมแห่งใหม่ที่อยู่ถัดไปอย่างชัดเจน สีเริ่มหลุดลอกออกจากผนังด้านหน้าและหน้าต่างถูกปิดด้วยแผ่นกระดาน หลังจากหลายปีของยุคแห่งความป่าเถื่อน
ตัวบ้านซึ่งเป็นหนึ่งในสามอาคารที่ติดกับทรัพย์สินแห่งนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นของวิลเลียม อับดุลลอฮฺ ควิลเลียม ทนายความและลูกชายของพระเทศนาธรรมนิกายเมธอดิสต์ เขาเป็นคริสเตียนคนแรกที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามในอังกฤษสมัยวิคตอเรีย
ชื่อเดิมของเขา คือ วิลเลียม เฮนรี่ ควิลเลียม เขาเปลี่ยนศาสนาหลังจากเดินทางไปโมรอคโค และเปลี่ยนชื่อเป็น อับดุลลอฮฺ
สองปีต่อมา เขาเปิดสถาบันมุสลิมลิเวอร์พูลขึ้นที่อาคารเลขที่ 8 บรู้คแฮม เทอร์เรส เพื่อใช้เป็นมัสยิดและศูนย์กลางสำหรับชุมชนชาวมุสลิมที่กำลังเติบโตขึ้น เขายังเปิดโรงเรียนสำหรับเด็กชายหญิงและเด็กกำพร้าอีกด้วย
ศาสตร์จารย์ รอน กีฟส์ เป็นผู้เขียนหนังสือ อิสลามในสมัยวิคตอเรีย เขาบรรยายเกี่ยวกับอับดุลลอฮฺ ควิลเลียม ครั้งแรกที่ศูนย์กลางชุมชนปากีสานในลิเวอร์พูดเมื่อต้นเดือนนี้
“วิลเลียม อับดุลลอฮฺ ควิลเลียม ถูกเลี้ยงดูมาในฐานะคริสเตียนผู้อุทิศตนคนหนึ่ง และเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการ Temperance Movementซึ่งส่งเสริมการไม่ดื่มสุรา หนึ่งในเหตุผลหลายข้อที่เขาสนใจศาสนาอิสลามคือการที่สุราเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับมุสลิม เขายังมีความกังวลในหลักคำสอนที่เกี่ยวกับเรื่องตรีเอกภาพในศาสนาคริสต์อีกด้วย” เขากล่าว
ผู้นำมุสลิม
ควิลเลียมได้รับการยอมรับทั้งภายในประเทศและต่างประเทศจากงานเขียนหลายเล่มและการบรรยายเกี่ยวกับศาสนาอิสลามและมุสลิม พื้นที่ส่วนหนึ่งในบ้านของเขาถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงพิมพ์เพื่อวัตถุประสงค์นี้
ในปี 1894เขาได้รับสถานะเป็นชัยคุล-อิสลาม หรือผู้นำมุสลิมในหมู่เกาะอังกฤษโดยสุลต่าน อับดุล ฮามิด ที่ 2กาหลิบองค์สุดท้ายของออตโตมาน และเขายังได้รับการแตกต่างตั้งเป็นผู้แทนกงสุลแห่งเปอร์เซียโดยกษัตริย์ชาห์อีกด้วย
ศาสตราจารย์กีฟส์กล่าวว่า “เขาเป็นผู้มีความจงรักภักดีและได้รับการรับรองจากพระราชินีวิคตอเรียอีกด้วย เขาเคยส่งหนังสือเล่มหนึ่งของเขาที่เกี่ยวกับอิสลามให้พระนางด้วย พระนางจึงได้สั่งหนังสืออีกหลายเล่มให้แก่ลูกๆ ของพระนาง”
วิเลียม อับดุลลอฮฺ ควิลเลียม ผู้ก่อตั้งมัสยิดที่ขึ้นทะเบียนแห่งแรกของอังกฤษ
ในช่วงแห่งพระราชพิธีราชาภิเษกพระโอรสของพระนาง คือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7ควิลเลียมได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้นำของมุสลิมในหมู่เกาะอังกฤษ
ศาสตราจารย์กีฟส์ได้เล่าถึงโอกาสหนึ่งเมื่อครั้งที่ควิลเลียม ในฐานะชัยคุล-อิสลาม แต่งกายด้วยชุดเสื้อคลุมยาวและสวมตุรบัน ได้เข้าร่วมกับนายกเทศมนตรีเพื่อต้อนรับผู้ทรงเกียรติจากต่างประเทศที่เดินทางมาถึงกฤษทางท่าเรือที่ลิเวอร์พูล ซึ่งประกอบไปด้วยมหาราชา, พระบรมวงศานุวงศ์ และผู้นำชาติต่างๆ ทั่วโลก
“แขกหลายร้อยคนได้มารวมตัวกันในท้องพระโรงใหญ่ รวมทั้งทหารต่างชาติ เมื่อทุกคนเห็นเขา ทั้งหมดลุกขั้นยืนและทำความเคารพต่อเขาไม่ใช่ในแบบของกองทัพอังกฤษ แต่เป็นในแบบของอิสลาม ‘อัลลอฮุอักบัรฺ, อัลลอฮุอักบัรฺ’(พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่)”
ควิลเลียมรับผิดชอบหน้าที่ในการเผยแพร่ศาสนาอิสลามในอังกฤษในสมัยวิคตอเลีย เขาช่วยให้มีผู้เปลี่ยนศาสนาประมาณ 600คน ในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าของที่ดินผู้ร่ำรวย ลอร์ดสแตนลีย์ แห่งอัลเดอร์ลีย์ ในเมืองเชไชร์ ขุนนางมุสลิมคนแรกในสภาขุนนาง เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงอย่างแท้จริง
ศาสตราจารย์กีฟส์กล่าวว่า “เมื่อเขา (ลอร์ดสแตนลีย์) เสียชีวิตลง ชาวคริสเตียนบางคนยังสงสัยว่า เขาเป็นมุสลิมหรือเปล่า พวกเขาบอกว่าเขาได้สร้างโบสถ์หลายหลังบนที่ดินของเขา เพราะฉะนั้นเขาไม่น่าจะใช่มุสลิม”
“ควิลเลียมจึงกล่าวแทรกขึ้นแล้วบอกกับพวกเขาว่า ในฐานะเจ้าของที่ดิน เขาสามารถมอบสถานที่ให้แก่คนงานชาวคริสเตียนของเขาเพื่อประกอบศาสนกิจได้”
ถึงแม้จะมีการถกเถียงกัน แต่ลอรด์สแตนลีย์ก็ได้รับการฝังแบบมุสลิมโดยมีควิลเลียมเป็นผู้นำในการทำละหมาดในพิธีศพแบบอิสลามให้ที่มัสยิดที่เขาก่อตั้งขึ้นในบรู้คแฮม เทอร์เรส
โถงละหมาดมีช่องบนผนัง
หลังจากที่ควิลเลียมเสียชีวิตในปี 1932อาคารที่เป็นที่ตั้งมัสยิดแห่งนี้ถูกขายไป และต่อมาภายหลังถูกใช้เป็นสำนักงานทะเบียนที่เก็บรักษาบันทึกการเกิด, การเสียชีวิต และการแต่งงาน ซึ่งรวมถึงบันทึกการแต่งงานของจอห์น เลนนอน และซิลเธีย ภรรยาคนแรกของเขาด้วย
เบื้องหลังประตูของอาคารเลขที่ 8บรู้คแฮม เทอร์เรส ในปัจจุบัน อาจบรรยายได้ว่าเป็นเปลือกหอยที่ว่างเป่า โถงละหมดเก่าแก่มีช่องโหว่อยู่บนผนังที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีประตูและหน้าต่าง
มุสลิมกลุ่มหนึ่งจากเมอร์ซีย์ไซด์ ได้ก่อตั้งสมาคมอับดุลลอฮฺ ควิลเลียมขึ้นในปี 1999เพื่อรักษามรดกของควิลเลียมเอาไว้ ในปี 2000พวกเขาได้เข้ารับผิดชอบอาคารหลังนี้ ซึ่งปัจจุบันถูกรับรองว่าเป็นส่วนหนึ่งของมรดกของอังกฤษ
สมาคมนี้ต้องการที่จะเปิดมัสยิดและโรงพิมพ์แห่งนี้อีกครั้งเพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์กลางมรดก
กาลิบ คาน ประธานสมาคมกล่าวว่า “มันเป็นสถานที่ถือกำเนิดของศาสนาอิสลามในอังกฤษ เราต้องรวบรวมเงิน 3.8ล้านปอนด์ เพื่อทำให้มันกลับมางดงามรุ่งเรืองเหมือนเมื่อก่อน
“มุสลิมหลายร้อยคนเคยมารวมตัวกันที่นี่เพื่อฟังท่านเชค และเคยมีเปียโนอยู่ที่ด้านหลังของโถงละหมาดด้วย เขามีเชื่อเสียงในการเขียนเพลงสวดของคริสเตียนขึ้นใหม่โดยที่ดัดแปลงให้เป็นเพลงอิสลาม”
การทำงานเพื่อฟื้นฟูมัสยิดแห่งนี้เป็นไปได้ช้า จนถึงขณะนี้พวกเขาเพิ่งรวบรวมเงินได้เพียงแค่ประมาณ 300,000ปอนด์ ซึ่งถูกนำไปใช้ในการเปลี่ยนหลังคาใหม่และแก้ไขส่วนที่แห้งเปื่อยไป
คุณคานกล่าวว่า “เราต้องการให้โครงการนี้เสร็จสิ้นภายในปี 2008แต่มันเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เรากำลังพยายามจะทำให้งานมันเดินต่อไปในหลายๆ ด้าน แต่เวลาเป็นเรื่องยาก ทุกคนไม่ค่อยมีเงิน”
“มีคนหลายคนที่ให้เงินเราเดือนละหรือสัปดาห์ละหนึ่งปอนด์ แต่เรามีความคิดในแง่ดีว่าเราจะสามารถรวบรวมเงินได้ 100,000ปอนด์ ดังนั้นอย่างน้อยโถงละหมาดจะสามารถซ่อมแซมได้ก่อนถึงฤดูร้อนและเดือนรอมฎอน ซึ่งจะเริ่มในเดือนกรกฎาคม”
“น่าหลงใหลที่สุด”
สมาคมอับดุลลอฮฺ ควิลเลียม พยายามที่จะยกย่องเกียรติคุณของชัยคุล-อิสลาม โดยเพิ่งจะจัดให้มีการบรรยายประจำปีเป็นครั้งแรกเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาที่ศูนย์กลางชุมชนชาวปากีสถานในลิเวอร์พูล
สมาคมยังมีแผนที่จะจัดพิธีมอบรางวัลเพื่อยกย่องผู้ที่ส่งเสริมศาสนาอิสลามและผู้ที่ทำงานเพิ่มสร้างความสัมพันธ์อันดีกับศาสนาอื่นๆ
การบรรยายครั้งนี้มีลูกหลานของเชคเข้าร่วมหลายคน โจนาธาน ควิลเลียม และสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ของเขาเดินทางมาลิเวอร์พูลจากสแตฟฟอร์ด
“ผมคิดว่าผมเป็นญาติทางฝ่ายพ่อของผม มันน่าสนใจมากที่ได้รู้ว่าใครคนหนึ่งที่มีพื้นเพดั้งเดิมจากเกาะแมน ที่เรายังมีญาติอยู่ที่นั่น แล้วก็ที่ลิเวอร์พูลนี่ จะเป็นผู้ที่ทำให้ศาสนาอิสลามรุ่งเรืองขึ้นในประเทศนี้ มันน่าหลงใหลที่สุด”
มุสลิมอังกฤษบางคน ที่เข้าร่วมฟังการบรรยายครั้งนี้มีความประทับใจกับความกล้าหาญและความมุ่งหมายที่แข็งแกร่งของควิลเลียม
มุฮัมมัด อัฟซัล วัย 20ปลายๆ กล่าวว่า “มันสำคัญเพราะมีคำประณามมากมายต่อศาสนาอิสลาม แต่ควิลเลียมพูดถึงมันได้อย่างเปิดเผยถึงแม้ว่ามันจะขัดกับสถานะของเขาก็ตาม”
ชาฮีนา อันญุม กล่าวว่า “ในวันนี้และยุคนี้ ผู้คนพบแต่สิ่งที่ยากลำบาก แต่เขามาจากครอบครัวชาวคริสเตียน นิกายเมธอดิสต์ ฉันคิดว่าเขาต้องใช้ความเด็ดเดี่ยวและความกล้าหาญเป็นอย่างมากเลย”
ที่มา: https://www.fatonionline.com/index.php/news/detail/1195