ชัยฏอน รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของชัยฏอน ที่มุสลิมทุกคนควรรู้


36,125 ผู้ชม

ชัยฏอน รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของชัยฏอน ที่มุสลิมทุกคนควรรู้


ชัยฏอน รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของชัยฏอน ที่มุสลิมทุกคนควรรู้

งานใหญ่ของมัน(ชัยฏอน)คือ ทำทุกวิธีไม่ให้มนุษย์ กราบไหว้พระผู้สร้าง อยากให้อ่านเเล้วปรับเเผนให้ทันเลห์เหลี่ยมมัน

ชัยฏอน หรือ อิบลีส เป็นนามของญินตนหนึ่งที่หลอกลวงให้อาดัมและเฮาวาอ์ภรรยา ต้องออกจากสวนสวรรค์ และสาบานว่าจะตามล้างตามผลาญลูกหลานมนุษย์จนถึงวันโลกาวินาศ ในไบเบิลเรียกว่า ซาตาน ชัยฏอน อาจจะหมายถึง มารร้ายตนอื่น ๆ ที่เป็นพรรคพวกของอิบลีสก็ได้

คำว่า "ซาตาน" ในภาษายุโรปเป็นคำที่ยืมมาจากคำว่า "ชัยฏอน" ในภาษาอาหรับ

ช่องทางที่ทำให้ชัยฏอนสมความปรารถนา

1. ความโกรธและกระทำตามอารมณ์ 
ความโกรธจะทำลายความรับผิดชอบชั่วดี เมื่อมนุษย์มีความโกรธ เขาจะกลายเป็นของเล่นของชัยฏอน เสมือนฟุตบอลที่เป็นของเด็กเล่น

2. ความอิจฉาริษยา และความตระหนี่ (ละโมภ) 
เมื่อบ่าวของพระองค์คนใดมีความตระหนี่ ตาของเขาจะมืดบอดและหูหนวกต่อการรักษาทรัพย์สินนั้น ถึงแม้จะทำให้ผู้เป็นเจ้าของต้องตกอยู่ในความผิดก็ตาม

การตระหนี่ การอิจฉาริษยา เเละการหยิ่งยะโส ซึ่งการหยิ่งยะโสนั้น เป็นสาเหตุที่ห้ามไม่ให้อิบสิสก้มสุญุดต่อท่านอาดัม ความตระหนี่เป็นเหตุให้อาดัมต้องถูกอัปเปหิออกจากสวรรค์ ความอิจฉาเป็นสาเหตให้บุตรชายของอาดัมต้องฆ่าน้องชายตัวเอง

3. ความอิ่มจากการทานอาหาร

ถึงแม้อาหารนั้นจะเป็นอาหารที่ฮาลาล แต่เนื่องจากความอิ่ม จะทำให้ความต้องการทางเพศมากขึ้น และความต้องการทางเพศเป็นอาวุธสำคัญของชัยฏอน
ท่านวาฮีบ บิน อัลวัรด กล่าวว่า พวกเราได้ยินว่า แท้จริงอิบลิสผู้สกปรกได้เข้าหาท่านนาบียะห์ยา บิน ซาการียา عليهما السلام และกล่าวกับท่านว่า แท้จริงฉันต้องการจะตักเตือนท่าน ท่านนาบีกล่าวว่า เจ้าโกหก ไม่ต้องมาเตือนอะไรฉัน แต่จงเล่าเรื่องราวของลูกหลานอาดัมให้ฉันฟัง

อิบลิสกล่าวว่า ในสายตาของพวกเราแล้ว จะแบ่งลูกหลานอาดัมออกเป็น 3 จำพวก 

จำพวกที่หนึ่ง คือ พวกที่เรารับมามากที่สุด ซึ่งพวกนี้คือพวกที่เราหลอกลวงจนกระทั่งพวกเขาหลงผิด และเรามั่นใจว่าพวกเขาจะไม่กลับไปสู่แนวทางที่ถูกต้องอีก.. แต่ต่อมาพวกเขาก็ขออภัยโทษและกลับเนื้อกลับตัว พวกเขาจึงทำลายความพยายามของพวกเราจนสิ้นเชิง ซึ่งต่อมา เราก็จะเข้าหาเขาอีกครั้ง แต่อนิจจาเราไม่สามารถหลอกลวงเขาได้อีก พวกเขามิทำให้พวกเราสมความปรารถนาอีกต่อไป พวกเราจึงท้อแท้ที่จะพยายามหลอกลวงพวกเขาอีก

ส่วนจำพวกที่สอง คือ พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในกำมือของพวกเรา เป็นเสมือนลูกฟุตบอลสำหรับเด็กๆ ของพวกเรา เราจะชี้ทางให้เขาทำตามที่เราปรารถนา พวกเขาจึงกลายเป็นผู้ปฏิเสธเนื่องจากการหลอกลวงของพวกเรา

อีกจำพวกที่สาม คือ พวกเขาเหมือนๆ กับท่าน คือ เป็นกลุ่มชนที่ไม่มีบาป พวกเราไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ ท่านนาบียะห์ยาจึงถามชัยฏอนว่า ดังนั้น เจ้าเคยยุแหย่อะไรฉันได้บ้าง?

อิบลีส ตอบว่า ไม่เคย ยกเว้นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น นั่นคือท่านเคยรับประทานอาหารที่ท่านชื่นชอบจนเกินอิ่ม และเข้านอนในค่ำคืนนั้นอย่างเต็มที่ จนไม่สามารถตื่นมาละหมาดเสมือนกับที่ท่านเคยปฏิบัติอยู่เสมอ

ท่านนาบียะห์ยากล่าวกับชัยตอนว่า ฉันจะไม่รับประทานอาหารจนอิ่มหนำอีกต่อไป จนกระทั่งชีวิตฉันจะหาไม่

อิบลีส ผู้สกปรกจึงกล่าวกับท่านว่า ฉันจะไม่ตักเตือนลูกหลานอาดัมหลังจากท่านอีก

4. ความละโมภและความอยากได้สิ่งของจากผู้อื่น 

เพราะเมื่อมนุษย์มีความละโมบและอยากได้สิ่งของจากผู้อื่น ชัยฏอนจะประดับประดาและยกย่องผู้ที่เขาอยากได้ ให้เขามีความรักต่อผู้ที่เขามีความหวัง ด้วยการเอาอกเอาใจ ยกย่องบูชาเพื่อหวังจะได้รับความดีความชอบ จนเป็นเสมือนบ่าวทาส

5. ความรีบเร่ง จนขาดความตั้งใจ

เนื่องจากความรีบเร่ง เป็นการเปิดโอกาสให้ชัยฏอนเข้าสู่มนุษย์ได้ง่ายดายขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว ทั้งนี้เนื่องจากความรีบเร่งมาจากชัยฏอน การพิเคราะห์พิจารณามาจากพระองค์อัลลอฮ์

6.การยึดมั่นในผู้รู้เพียงกลุ่มเดียว ทำตามอารมณ์ และทะเลาะเบาะแว้งกับบุคคลอื่นที่มีความคิดแตกต่างไปจากตน

7. เข้าใจมุสลิมด้วยกันอย่างผิดๆ 

อัลลอฮ์ทรงตรัสว่า (ผู้ที่มีอีหม่านทั้งหลาย จงห่างไกลจากส่วนใหญ่ของการสงสัย แท้จริงการสงสัยบางอย่างนั้นเป็นบาป (จะได้รับการลงโทษ)...) อัลหุญุรอต อายะห์ที่ 12

8. การตระหนี่ และวิตกต่อความยากจน 

ท่านซุฟยานกล่าวว่า ชัยฏอนไม่มีอาวุธใดๆ เสมือนกับการกลัวความยากจน เมื่อผู้ใดรับมันเข้าไป ก็จะตกอยู่ในความผิดพลาด และหวงห้ามมิให้ผู้อื่นได้รับในสิทธิที่เขาพึงได้ พูดจาตามอารมณ์ และสงสัยในเรื่องของพระเจ้าในทางที่ไม่ดี

ท่านฮาติม อาซ็อม กล่าวว่า ไม่มีตอนเช้าวันไหน ยกเว้นชัยฏอนจะพูดกับฉันว่า ท่านจะรับประทานอาหารอะไร? จะสวมเสื้อผ้าตัวไหน? และจะอาศัยอยู่ที่ใด? ฉันตอบว่า ฉันจะกินอาหารเหมือนกับคนที่กำลังจะตาย จะใช้ผ้าที่ห่อศพเป็นเสื้อผ้าห่อหุ้มร่างกาย และจะใช้สุสานเป็นที่พักอาศัย

การสัมผัสของญินและชัยตอน

คำว่า المس ซึ่งมีความหมายว่า สัมผัสนั้นถูกนำมาใช้กับผู้ที่ถูกญิน ชัยตอน หรือมนต์ดำทำร้าย โดยการที่ญินหรือชัยตอนนั้นจะเข้าสิงสถิตอยู่ในร่างมนุษย์ และแน่นอนคำนี้ได้ถูกนำมาใช้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่านที่ว่า....

บรรดาผู้กินดอกเบี้ยนั้นจะไม่ทรงตัวยืนขึ้นได้ นอกเสียจากพวกเขาจะทรงตัวยืนประดุจดังผู้ที่ชัยตอนมารร้ายสิงสู่จากการสัมผัส (สิงสถิต)

ได้รายงานมาจากท่านอิบนุอับบาสว่า แท้จริงมีหญิงคนหนึ่งมาพร้อมลูกชายของนาง แล้วนางก็ได้กล่าวว่า โอ้ท่านร่อซูลุ้ลลอฮฺ แท้จริงลูกชายของฉันคนนี้เป็นคนบ้า เขาจะมีอาการบ้าในตอนรับประทานอาหารกลางวัน และตอนรับประทานอาหารกลางคืน แล้วเขาก็ได้สร้างความเสียหายให้แก่เรา แล้วท่านร่อซู้ล (ศ็อลฯ) ก็ได้ลูบไปที่ตัวเด็กคนนั้นและขอดุอาให้กับเขา แล้วเด็กคนนั้นก็อาเจียนออกมาอย่างมาก สิ่งที่ออกมาจากท้องของเขาคล้ายกับลูกสัตว์สีดำ

สาเหตุที่ญินจะมาสำผัสมนุษย์นั้นมีอยู่หลายสาเหตุ ซึ่งบางทีอาจเป็นเพราะญินนั้นมีความรักใคร่ต่อมนุษย์ผู้นั้น หรือไม่ก็เพราะต้องการที่จะล่อลวงให้หลงผิด และเนื่องจากดังกล่าวนี้ญินจะทำการล่อลวงมนุษย์ด้วยการสัมผัส(สิงสู่)ในร่างกายมนุษย์ พฤติกรรมอันชั่วร้ายของญินนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ นอกเสียจากมนุษย์จะต้องอยู่ในสภาพดังต่อไปนี้

โกรธจัด - กลัวจัด - ปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ - ห่างไกลจากแนวทางของอัลลอฮฺ - หลงลืมอัลลอฮฺ - หวีดร้อง - ตบหน้าตัวเอง - การเข้าไปในกุโบร์ในยามค่ำคืน

การสิงสู่ของญินนั้นมีขึ้นหลายรูปแบบ ซึ่งบางทีมันจะสิงสู่โดยการควบคุมประสาททั้งหมดของร่างกายมนุษย์ นั่นหมายถึงมันได้ควบคุมร่างกายทั้งหมด บางทีมนุษย์อาจถูกสิงสู่ในอวัยวะเพียงบางส่วน บางทีอาจจะสิงสถิตอยู่เป็นระยะเวลานาน หรือเพียงไม่กี่นาทีซึ่งจะมาในรูปของฝันร้าย...

ฝันดี มาจากอัลลอฮฺ ฝันร้าย มาจากชัยฏอน 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก อิศรา โต๊ะการิม

อัพเดทล่าสุด