ไม่มีน้ำละหมาด จับอัลกุรอ่าน อ่านอัลกุรอ่านได้หรือไม่


17,719 ผู้ชม

คำถาม: ไม่มีน้ำละหมาด จับอัลกุรอ่าน อ่านอัลกุรอ่านได้หรือไม่


ไม่มีน้ำละหมาด จับอัลกุรอ่าน อ่านอัลกุรอ่านได้หรือไม่

คำถาม: ไม่มีน้ำละหมาด จับอัลกุรอ่าน อ่านอัลกุรอ่านได้หรือไม่

ตอบโดย:  อ.อาลี เสือสมิง

เรื่องที่ถามมาแยกประเด็นดังนี้

1. คนที่มีหะดัษเล็ก (ไม่มีน้ำละหมาด) อนุญาตให้อ่านอัล-กุรอ่านได้โดยอิจญมาอฺ (มติเอกฉันท์) แต่ถือว่าผู้ที่อ่านอัล-กุรอ่านโดยไม่มีน้ำละหมาดละทิ้งสิ่งที่ดีที่สุด (อัฟฎ้อล)  ซึ่งไม่ถึงขั้นมักรูฮฺ  กรณีนี้คือการอ่านอัล-กุรอ่านจากความจำ (ปากเปล่า) 

2. คนที่มีหะดัษใหญ่ (มีญุนุบ-หัยฎ์) ตามมัซฮับอัช-ชาฟิอียฺถือว่าต้องห้ามในการอ่านอัล-กุรอ่าน  แม้เพียงส่วนหนึ่งจากอายะฮฺก็ตาม  แต่อนุญาตให้อ่านในใจโดยไม่เปล่งถ้อยคำออกมา ส่วนทัศนะที่ถูกต้องที่สุดในมัซฮับหะนะฟียะฮฺถือว่าไม่เป็นอะไรในการเรียนอัล-กุรอ่านของผู้มีหะดัษใหญ่  ถ้าหากว่าอ่านทีละคำๆ  ส่วนฝ่าย อัล-มาลิกียะฮฺ อนุญาตให้อ่านอัล-กุรอ่านได้ตลอดจนการจับอัล-กุรอ่านเพื่อการอ่านเนื่องจากมีความจำเป็นในการเรียนและเกรงว่าจะหลงลืม

3. การจับอัล-กุรอ่านสำหรับผู้ที่มีหะดัษทั้งเล็กและใหญ่ นักวิชาการมีความเห็นต่างกัน  ฝ่ายหนึ่งถือว่าต้องห้าม ยกเว้นในกรณีจำเป็น เช่น เกรงว่าอัล-กุรอ่านจะตกไปในที่สกปรกหรือจะถูกไฟใหม้ เป็นต้น  อีกฝ่ายหนึ่งถือว่าไม่มีข้อห้ามแต่อย่างใด

4. ประเด็นในข้อที่ 3 ซึ่งนักวิชาการมีความเห็นต่างกันเกิดจากการรับหลักฐานที่ระบุห้าม  ฝ่ายที่ถือว่าห้ามจับในกรณีของผู้มีหะดัษนั้นเพราะรับหลักฐานที่ระบุห้ามมาและตีความนัยของอัล-กุรอ่านที่ระบุเอาไว้ในเรื่องนี้ว่าบ่งถึงการห้ามจับอัล-กุรอ่าน เช่น อายะฮฺที่ว่า

لا يَمَسُّهُ إِلَّا المُطَهَّرونَ 

"จะไม่สัมผัสอัล-กุรอ่านนอกจากบรรดาผู้ชำระกายให้สะอาดจากหะดัษ"
โดยถือว่าอายะฮฺนี้ (อัลวากิอะฮฺ/79) เป็นประโยคบอกเล่าตามรูปคำแต่มีความหมายในเชิงห้าม (اَلْجُمْلَةُ خَبَرٌ بِمَعْنَى النَّهْى)

ส่วนฝ่ายที่อนุญาตให้จับอัล-กุรอ่านได้สำหรับผู้ที่มีหะดัษนั้นถือว่าตัวบทที่ระบุห้ามมีปัญหาเกี่ยวกับระดับความถูกต้องของสายรายงานจึงไม่รับหลักฐานที่ระบุห้ามและตีความอายะฮฺในสูเราะฮฺ อัล-วากิอะฮฺ ข้างต้นว่าเป็นการบอกเล่าถึงอัล-กุรอ่านที่อยู่ในเลาหิล-หะหฺฟู๊ซฺ  ซึ่งผู้ที่สัมผัสนั้นคือบรรดามะลาอิกะฮฺผู้บริสุทธิ์

ไม่มีน้ำละหมาด จับอัลกุรอ่าน อ่านอัลกุรอ่านได้หรือไม่

สิ่งที่สรุปได้ก็คือ  ประเด็นของเรื่องที่ถามมานักวิชาการมีความเห็นต่างกัน  ซึ่งมีเหตุมาจากการรับหรือไม่รับหลักฐานและมุมมองในการตีความนัยของอายะฮฺอัล-กุรอ่าน  สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ นักวิชาการที่นำเสนอเรื่องดังกล่าวไม่นำเสนอข้อมูลทั้งหมดของนักวิชาการผู้สันทัดกรณีในแต่ละทัศนะ  หากแต่มุ่งยึดเอาทัศนะหนึ่งที่นักวิชาการฝ่ายหนึ่งมีความเห็นเอาไว้แล้วก็ฟันธงจนดูเหมือนว่าทัศนะของอีกฝ่ายเป็นทัศนะที่ไม่มีหลักฐานมาสนับสนุน  

ซึ่งนี่เป็นความบกพร่องของนักวิชาการที่นำเสนอข้อมูลไม่ครบถ้วนและไม่เผื่อเอาไว้หรือไม่พูดถึงสิ่งที่ดีที่สุดซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องนั่นคือ  การอ่านอัล-กุรอ่านหรือจับสัมผัสอัล-กุรอ่าน ในสภาพที่มีความสะอาดจากหะดัษทุกประเภท  ทั้งนี้เพราะอัล-กุรอ่านคือพระดำรัสของพระองค์อัลลอฮฺ เป็นสิ่งที่มีเกียรติสูงส่ง  ดังนั้นเมื่อจะอ่านอัล-กุรอ่านหรือถือคัมภีร์อัล-กุรอ่านก็ควรอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดซึ่งนั่นแหล่ะคือการให้เกียรติพระดำรัสของอัลลอฮฺ

 

ที่มา: alisuasaming.com

อัพเดทล่าสุด