มีภรรยา 4 คน สิ่งที่ต่างศาสนาสนใจ เมื่อพูดถึงชายมุสลิม


38,338 ผู้ชม


การมีภรรยาได้ 4 คน
การอนุญาตให้ชายมีภรรยาได้ 4 คนในศาสนาอิสลามดูจะเป็นเรื่องใหญ่ หรือเป็นที่สนใจของคนต่างศาสนามากเพราะเมื่อพูดถึงมุสลิม ภาพพจน์ที่มักเกิดตามมาคือ การมีภรรยาได้ 4 คน ซึ่งที่จริงแล้วเรื่องนี้มิใช่หลักสำคัญของอิสลาม เป็นเพียงข้อยกเว้นหนึ่งของอิสลามที่แสดงให้เห็นถึงการเผชิญกับความจริง หรือการยอมรับความจริงในความเป็นผู้ชายของมนุษย์ ความจริงในสภาพร่างกายของสตรี และเพื่อป้องกันหรือยกฐานะของสตรีอันเป็นเพศแม่มิให้ต้องตกอยู่ในฐานะเมียน้อย เมียเก็บ นางบำเรอ หญิงบริการ ฯลฯ ตลอดจนป้องกันไม่ให้เกิดปมด้อยอันจะนำไปสู่ปัญหาสังคม เพราะลูกทุกคนและภรรยาทุกคนมีฐานะสิทธิและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันหมด ไม่มีความว่าลูกนอกกฎหมาย ลูกเมียน้อยลูกเมียหลวง เพราะไม่มีเมียหลวง เมียน้อย เมียเก็บ นางบำเรอ ฯลฯ ในอิสลาม

ทั้งนี้และทั้งนั้น มิใช่ว่าชายมุสลิมจะสามารถมีภรรยาได้ 4 คนตามอำเภอใจ เนื่องจากพระองค์อัลลอฮฺ (ซุบห์ฯ ) ประทานโองการไว้ว่า

"จงสมรสกับหญิงที่สูเจ้าพอใจ สอง สาม หรือ สี่ และถ้าหากว่าสูเจ้าเกรงจะให้ความยุติธรรมไม่ได้ดังนั้น (จงสมรสกับหญิง) เพียงคนเดียว" (4:3)

ชายมุสลิมที่รู้ศาสนาดี และรู้จักตัวเองดีพอจึงมีภรรยาคนเดียว และส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้น เพราะไม่ใช่สิ่งง่ายนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะเศรษฐกิจเช่นปัจจุบัน แต่สำหรับคนที่มีความสามารถพอ ตามประสบการณ์ที่ได้เห็น ๆ มาชายที่มีภรรยาจำนวน 2 3 หรือ 4 ก็สามารถอยู่รวมกันอย่างมีความสุข ที่เป็นเช่นนี้ แสดงว่าทุกคนต่างมีความศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า

เหตุผลในโองการนี้ น่าจะเป็นเพราะ

1. ชายเป็นเพศที่มีความต้องการทางเพศสูง และมีระยะยาวนานกว่าหญิง รวมตลอดถึงระยะเวลาของการมีลูกในขณะที่หญิงหมดความต้องการ แต่ชายมักจะไม่

2. ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันชายจำนวนไม่น้อย มีหญิงมากกว่า 4 แต่จะเป็นที่ยอมรับของกฎหมายและสังคมเพียง 1 หญิงนอกจากนั้นจะอยู่ในอีกฐานะหนึ่งอันเป็นผลกระทบไปถึงลูกของนาง

"ตามกฎหมายไทยระบุว่าการจดทะเบียนสมรสจะถูกต้องเพียงคนเดียวเท่านั้นคือเป็นครอบครัวแบบสามีหนึ่งภรรยาหนึ่ง ในทางปฏิบัติครอบครัวไทยจำนวนหนึ่งเป็นครอบครัวแบบสามีหนึ่ง ภรรยาหลายคน ซึ่งทำให้เกิดมีลูกนอกสมรสมากมาย สามีต้องทำหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูภรรยาและลูก ๆ ทั้งหมด การมีภรรยามานี้อาจจะเป็นการแสดงถึงฐานะ การต้องการมีบริวารหรือการชอบของใหม่ ๆ ก็ได้"

3. อัตราการเกิดของชายแม้จะสูงกว่าหญิงอยู่เสมอมา (ตามสถิติประชากรของโลก) แต่อัตราการตายของชายในวัยต่าง ๆ จะสูงกว่าหญิง อันเป็นเหตุให้หญิงมีจำนวนมากกว่าชาย ซึ่งหากชายมีสิทธิมีภรรยาได้เพียง 1 หญิงส่วนเกินนั้นซึ่งนางเป็นคนที่ยังมีความเป็นคน เป็นมนุษย์ปุถุชนอยู่ ความเป็นของนางจะสมบูรณ์ได้อย่างไร นางอาจจะต้องอยู่ในสภาพเช่นไรเมื่อไม่มีคนอุปถัมภ์หรือมีสามีอย่างเป็นกิจลักษณะ

ด้วยความเป็นจริงที่ผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนี้เอง อิสลามจึงไม่มีหลักการให้ชายอยู่ในภาวะของสมณเพศ และห้ามมิให้บำบัดอารมณ์ในหนทางที่ผิดศาสนบัญญัติ แต่สนับสนุนให้ทุกคนแต่งงาน ให้ทุกคนอยู่ในฐานะที่ผู้ผลิตและผู้บริโภค

4. ในกรณีที่แต่งงานแล้ว ภรรยาอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถมีบุตรได้ ทั้งที่สามีมีความต้องการ สามีจึงสามารถแสวงหาหญิงอื่นมาเป็นภรรยาได้โดยไม่ต้องหย่าร้างจากภรรยาคนแรก

5. ในภาวะสงครามเช่นที่เกิดขึ้นอยู่ทั่วโลกทุกวันนี้อัตราการตายของชายยิ่งเพิ่มขึ้น หญิงที่เหลืออยู่จึงมีทั้งสภาพสาวบริสุทธิ์และแม่หม้าย ซึ่งผู้ที่น่าสงสารที่สุดคือแม่หม้ายใครจะเป็นผู้อุปการะเธอและลูก

ดังนั้น ถึงแม้ท่านศาสดามุฮำมัด (ศ็อลฯ) จะมีภรรยาหลายคนซึ่งแต่ละคนล้วนแต่เป็นแม่หม้ายสามีตายในสงคราม (ยกเวันพระนางอาอีชะหฺคนเดียวที่เป็นสาวบริสุทธิ์) และแท้จริงท่านได้อยู่กับภรรยาคนแรก (นางคอดียะหฺซึ่งแก่กว่าท่าน 15 ปี อย่างมีความสุขเป็นเวลา 25 ปี โดยไม่ได้มีคนอื่นเลยจนนางได้จากไป และต่อมาเกิดภาวะสงคราม ท่านจึงได้มีภรรยาใหม่หลายคน

เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านศาสดามุฮำมัด (ศ็อลฯ) เป็นผู้มักมากในกามารมณ์ดังกล่าวหา หรือ เป็นการช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคม

จากเหตุผลเพียงบางประการดังได้กล่าวมานี้จึงเป็นการน่าเกลียด หรือเป็นการป้องกันแก้ไขปัญหาสังในในการที่อิสลามให้โอกาสชายที่มีความสามารถพอมีภรรยาได้ภายในจำนวน 4 คน

"อย่างไรก็ตาม การมีภรรยาเพียงคนเดียว เป็นสิ่งที่ควรยึดถือเป็นบรรทัดฐาน ส่วนกรณีของการมีมากกว่าหนึ่งให้ยึดไว้ในฐานะเป็นข้ออนุมัติที่พึงกระทำได้เท่านั้น"

ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก :  sunnahstudent.com

อัพเดทล่าสุด