
เมื่อรอมฎอนสิ้นสุดลง เราอาจจะกลับไปทำพฤติกรรมเก่าๆ ได้ง่าย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ต้องจำไว้ว่าสัญญาณของรอมฎอนที่มีประสิทธิผลก็คือ เราจะเป็นคนที่ดีขึ้นในช่วงหลายเดือนหลังรอมฎอน มากกว่าช่วงหลายเดือนก่อนรอมฎอน
3 วิธีง่ายๆ เพื่อรับริสกีอย่างต่อเนื่อง แม้รอมฎอนจะผ่านไปแล้ว
เมื่อรอมฎอนสิ้นสุดลง เราอาจจะกลับไปทำพฤติกรรมเก่าๆ ได้ง่าย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ต้องจำไว้ว่าสัญญาณของรอมฎอนที่มีประสิทธิผลก็คือ เราจะเป็นคนที่ดีขึ้นในช่วงหลายเดือนหลังรอมฎอน มากกว่าช่วงหลายเดือนก่อนรอมฎอน
ด้วยเหตุนี้ การค้นหาวิธีง่ายๆ ในการสานต่อนิสัยดีๆ ที่เราเริ่มต้นหรือเสริมสร้างในช่วงรอมฎอนจึงมีความสำคัญ ต่อไปนี้คือ 3 วิธีง่ายๆ ที่ทำได้เพื่อช่วยให้เราได้รับริสกีในชีวิตแม้รอมฎอนสิ้นสุดลงแล้ว :
สร้างความสัมพันธ์กับอัลกุรอานต่อไป
ดังที่ได้กล่าวไว้ในซูเราะห์อัลบะเกาะเราะห์ :
"เดือนรอมฎอน เป็นเดือนที่อัลกุรอานได้ถูกประทานลงมาเพื่อเป็นทางนำสำหรับมนุษย์ และเป็นหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับทางนำและเกณฑ์ตัดสิน" (2:185)
เดือนรอมฎอนมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นเดือนที่อัลกุรอานถูกประทานลงมา ดังนั้นชาวมุสลิมจำนวนมากจึงพยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์กับอัลกุรอานในช่วงเดือนนี้ด้วยการอ่านและศึกษาความหมายของมัน
แม้ว่ารอมฎอนจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่เราไม่ควรละทิ้งความสัมพันธ์ของเรากับอัลกุรอาน ท้ายที่สุดแล้ว วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์กับอัลลอฮ์คือ การสร้างความสัมพันธ์กับพระวจนะของพระองค์ การอ่านคัมภีร์ไม่จำเป็นต้องเป็นภาระผูกพันประจำวันที่สำคัญ เพียงแค่อ่านวันละ 3 โองการ หรืออ่านตัฟซีรเพียงไม่กี่หน้าต่อวันก็ได้
เมื่อถึงเวลาอ่านอัลกุรอาน บางคนอาจลังเลที่จะอ่านเพราะอาจอ่านช้าหรืออ่านภาษาอาหรับไม่คล่องนัก จำไว้ว่าอัลลอฮ์ทรงรักความพยายามมากกว่าความสมบูรณ์แบบ ในหะดีษที่แท้จริง ศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า :
รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ ศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “บุคคลใดที่ท่องจำอัลกุรอานจนชำนาญ เขาจะอยู่ในสวรรค์ร่วมกับบรรดาผู้คัดลอกที่ซื่อสัตย์และสูงส่ง และบุคคลใดที่พยายามท่องจำอัลกุรอานจนชำนาญ เขาจะได้รับรางวัลสองเท่า” ( บันทึกโดยอัลบุคอรี )
ส่งเสริมผู้คน สักคนหรือสองคนต่อวัน
ความเมตตากรุณา เป็นรูปแบบหนึ่งของการกุศลในศาสนาอิสลาม ความเมตตากรุณา สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เช่น รอยยิ้ม ศาสดามูฮัมหมัด (ศ็อล.) กล่าวไว้ในหะดีษที่มีชื่อเสียงบทหนึ่งว่า:
“การทำความดีทุกประการคือการกุศล แท้จริงแล้ว การพบปะพี่น้องด้วยใบหน้าที่ร่าเริง และเทสิ่งที่เหลือจากถังลงในภาชนะของพี่น้องเป็นความดี” ( บันทึกโดยติรมีซี )
วิธีที่เราปฏิบัติต่อผู้อื่นมีความสำคัญพอๆ กับการบูชาแบบดั้งเดิม (เช่น การสวดมนต์ การอดอาหาร เป็นต้น) ด้วยเหตุนี้ เราควรพยายามมีน้ำใจต่อผู้อื่นอย่างมีสติ เพราะความใจดีจะส่งผลดีมากมาย นิสัยอย่างหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์กับเราในระยะยาวได้จริงก็คือ การให้กำลังใจหรือช่วยเหลือผู้อื่น วันละสองคน อาจเป็นการส่งข้อความหรือโทรศัพท์ให้กำลังใจ ส่งข้อความให้กำลังใจเพื่อนร่วมงาน หรือคนแปลกหน้าที่เราพบในร้านขายของชำ หรือส่งยิ้มเป็นมิตร เมื่อเราเดินผ่านใครก็ตาม
รอยยิ้มอาจดูเล็กน้อย แต่ลองนึกดูว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร หากมีคนแปลกหน้ายิ้มให้คุณอย่างจริงใจเมื่อเขาเดินผ่านไป โอกาสที่คุณจะรู้สึกดีก็มีสูง และนั่นคือสิ่งที่เราสามารถทำเพื่อผู้อื่น ผ่านการกระทำอันแสนดีเล็กๆ น้อยๆ ได้
จำไว้ว่า คุณไม่มีทางรู้เลยว่า ความดีใดที่จะทำให้เราเข้าสู่สวรรค์ได้ และแม้แต่ความดีเพียงเล็กน้อย ก็สามารถได้รับผลตอบแทนมหาศาล หากทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ การให้กำลังใจผู้อื่น ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่สามารถมอบทุกสิ่งให้กับเราได้
สัญญาว่าจะทำบุญด้วยเงินเล็กๆ น้อยๆ เป็นประจำทุกสัปดาห์ หรือทุกวัน
รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮ์ ระบุว่า นบีมุฮัมหมัด (ซ.ล.) กล่าวว่า “จงทำความดี เท่าที่เจ้าสามารถทำได้ เพราะความดีที่ดีที่สุด คือ การทำความดีอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าจะน้อยก็ตาม” ( อิบนุ มาญะห์ )
การกระทำที่อัลลอฮ์ทรงรักที่สุดคือ การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำเป็นประจำ การให้เงินวันละ 20 บาทหรือ 10 บาท จะไม่กระทบกับเงินในบัญชีธนาคารของเรามากนัก อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนเล็กน้อยนั้น อาจช่วยเปลี่ยนชีวิตของคน คนหนึ่ง และทำให้เราได้รับรางวัลตอบแทนมหาศาลได้ หากเราทำด้วยความตั้งใจที่ถูกต้อง
เมื่อรอมฎอนสิ้นสุดลง นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการสร้างนิสัยที่ดีเช่นนี้ วิธีที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่ง ในการทำความดีเช่นนี้คือ การอุปการะเด็กกำพร้าหรือครอบครัว เมื่อพูดถึงเด็กกำพร้า การดูแลเด็กกำพร้าและแม่หม้ายถือเป็นการบริจาคเงินรูปแบบที่ดีที่สุด และมีหะดีษมากมาย ที่ระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้ โชคดีที่มีองค์กรการกุศลอิสลามหลายแห่ง ที่ได้จัดตั้งระบบขึ้นเพื่อให้การอุปการะเด็กกำพร้า ให้เป็นกิจกรรมที่สะดวกมากสำหรับเรา
บทความที่น่าสนใจ