ซะกาตุลฟิฏร์ หรือที่คนบ้านเราเรียก ซะกาตฟิฏเราะฮ์ ข้าวสารฟิฏเราะฮ์ หรือการตวงข้าว
สรุปความ ซะกาตุลฟิฏร์ ผ่านหะดีษ 2 บท
ซะกาตุลฟิฏร์ หรือที่คนบ้านเราเรียก ซะกาตฟิฏเราะฮ์ ข้าวสารฟิฏเราะฮ์ หรือการตวงข้าว
การจ่ายซะกาต เป็นบทบัญญัติทางกฏหมายอิสลาม ที่กำหนดให้บุคคลและนิติบุคคลมุสลิม ทีมีทรัพย์สินถึงพิกัดอัตราที่ศาสนากำหนดไว้ (นิศอบ) ในวันครบรอบปีจันทรคติจะต้องจ่ายทรัพย์สินนี้ออกไปจำนวนหนึ่งในอัตราที่ศาสนากำหนดไว้ ในทางศาสนา การจ่ายซะกาตเป็นวินัย บัญญัติสำคัญหนึ่งใน 5 ประการ สำหรับมุสลิมจะต้องปฏิบัติ การหลีกเลี่ยงถือเป็นบาปใหญ่ และเป็นการเนรคุณต่อพระเจ้า
1. ในการบันทึกของอิมามอบูดาวูด รายงานจากอับดุลลอฮ์ อิบนุ อับบาส กล่าวว่า
فَرَضَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ زَكَاةَ الْفِطْرِ طُهْرَةً لِلصَّائِمِ مِنْ اللَّغْوِ وَالرَّفَثِ وَطُعْمَةً لِلْمَسَاكِينِ
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กำหนดซะกาตุลฟิฏร์เป็นฟัรฎู เป็นการขัดเกลาผู้ถือศีลอดให้สะอาดจากคำพูดที่ไม่ดีไร้สาระและหยาบคายและเป็นการให้อาหารแก่คนยากจน”
หะดีษบทนี้ สอนเราว่า
- ซะกาตุลฟิฏร์นั้นเป็นฟัรฎู (ภาคบังคับ) เหนือมุสลิมทุกคน
- เราจ่ายซะกาตุลฟิฏร์เพื่อชำระมลทิน (บาป) ที่เกิดจากคำพูดไร้สาระและหยาบคายซึ่งอาจเกิดขึ้นขณะเราถือศีลอด เพราะให้ศีลอดของเรานั้นสะอาดบริสุทธิ์ก่อนที่มันจะถูกนำเสนอต่ออัลลอฮ์
- คนยากจนคือคนกลุ่มเดียวที่มีสิทธิ์รับซะกาตประเภทนี้ ต่างจากซะกาตชนิดอื่นๆ ที่มีผู้มีสิทธิ์รับ 8 กลุ่ม
2.ในการบันทึกของอิมามบุคอรีและมุสลิม รายงานจากอับดุลลอฮ์ อิบนุ อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า
فَرَضَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ زَكَاةَ الْفِطْرِ صَاعًا مِنْ تَمْرٍ، أَوْ صَاعًا مِنْ شَعِيرٍ، عَلَى الْعَبْدِ، وَالْحُرِّ، وَالذَّكَرِ، وَالْأُنْثَى، وَالصَّغِيرِ، وَالْكَبِيرِ، مِنْ الْمُسْلِمِينَ، وَأَمَرَ بِهَا أَنْ تُؤَدَّى قَبْلَ خُرُوجِ النَّاسِ إِلَى الصَّلَاةِ
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กำหนดซะกาตุลฟิฏร์ให้เป็นฟัรฎูเหนือมุสลิมทุกคนทั้งที่เป็นทาส เป็นไท ผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก และผู้ใหญ่ โดยจ่ายเป็นอินทผลัมหนึ่งศออ์ หรือข้าวบาร์เล่ย์หนึ่งศออ์ และท่านได้สั่งใช้ให้จ่ายมันก่อนที่ผู้คนจะออกไปละหมาดวันอีด”
หะดีษบทนี้ สอนเราว่า
- ซะกาตุลฟิฏร์นั้นเป็นฟัรฎู
- สิ่งที่นำมาจ่ายเป็นซะกาตุลฟิฏร์คืออินทผลัมหรือข้าวบาร์เลย์ (นักนิติศาสตร์ถือว่าสองชนิดนี้คือตัวอย่างของอาหารหลักในบริบทของท่านนบีและเศาะหาบะฮ์ ฉะนั้นมุสลิมในพื้นที่อื่นของโลกก็ให้จ่ายเป็นอาหารหลักในพื้นที่นั้นๆ)
- ปริมาณของมันคือหนึ่งศออ์ หรือน้ำหนักประมาณ 2.4 – 2.7 กิโลกรัม (ให้มากกว่านี้ได้เป็นการเผื่อเอาไว้หรือเจตนาบริจาคเพิ่มเติมในส่วนที่เกินจากปริมาณวาญิบ)
- ความเป็นฟัรฎูของซะกาตุลฟิฏร์นี้ตกเหนือมุสลิมทุกคนทั้งผู้เป็นทาส เป็นไท ผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก ผู้ใหญ่
- ต้องจ่ายมันก่อนการละหมาดอีด (ในหะดีษอีกบทระบุว่า ผู้ใดที่จ่ายมันก่อนละหมาดอีดถือว่าเป็นซะกาตที่ถูกตอบรับ (ผู้ที่กระทำตามนี้ถือว่าได้ทำฟัรฎูในเวลาของมัน) ส่วนใครจ่ายมันหลังจากละหมาดอีดก็ถือว่าเป็นเศาะดะเกาะฮ์หนึ่งจากบรรดาเศาะดะเกาะฮ์เท่านั้น)
บทความที่น่าสนใจ
