ประวัติ นบียูซุฟ สั้นๆ กับบ่อน้ำนที่นบียูซุฟโดนนำมาทิ้ง อัลลอฮไม่ทรงปล่อยให้การตอบแทนคนดีมีคุณธรรมและยำเกรงต่อพระองค์ต้องสูญเหล่า นบียูซุฟกล่าวว่าเอาละวันนี้ไม่มีการลงโทษพวกเจ้า...
ประวัติ นบียูซุฟ สั้นๆ กับบ่อน้ำนที่นบียูซุฟโดนนำมาทิ้ง
ยะกู๊บ เป็นลูกของนบีสฮากและนบีคนหนึ่ง ท่านมีฉายานามว่า อิสรออีล (หรืออิสราเอก) ซึ่งมีความหมายว่า บ่าวของอัลลอฮ นบียะกู๊บมีลูกชาย 12 คน และจากลูกชาย 12 คนคนนี้ได้ก่อให้เกิดลูกหลานอีกมากมาย ลูกหลานของนบียะกู๊บจึงถูกเรียกว่า นบีอิสรออีล (แปลว่า ลูกหลานของอิสรออีล) ยูซุฟเป็นลูกชายคนหนึ่งของนบียะกู๊บและมีน้องชายร่วมแม่เดียวกันคนหนึ่งชื่อบินยามีน ในตอนเป็นเด็ก ยุซุฟเป็นดีและน่ารัก
ด้วยเหตุนี้เอง พี่ๆของยูซุฟจึงรู้สึกอิจฉาที่พ่อของพวกตนรักยูซุฟมาก วันนี้ยูซุฟได้มาหาพ่อแม่ของเขาและกล่าวว่า พ่อครับ เมื่อคืนนี้ผมฝันเห็นดาวสิบเอ็ดดวง เมือฟ้งสิ่งที่ยูซุฟเล่า นบียะกู๊บก็รู้ว่า ดวงอาทิตย์ในความฝันของยูซุฟก็คือตัวท่านนั่นเอง ส่วนดวงจันทร์ก็คือภรรยาของท่าน และดวงดาวอีกสิบเอ็ดดวงนั้นคือพี่น้องของยูซุฟนบียะกู๊บรู้ว่าวันหนึ่งข้างหน้า อัลลอฮจะเหลือยูซุฟให้เป็นนบีและจะประทานสติปัญญาแก่ยูซุฟเพือทำหน้าที่ที่เผยแผ่อิสลามเหมือนกับท่านและพ่อกับปู่ของท่านคือนบีอิสฮากและนบีอิบรอฮีม
ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
วันหนึ่ง ขณะที่พวกพี่ๆของยูซุฟพูดคุยกัน พี่คนหนึ่งได้กล่าวว่า ฉันรู้สึกว่าพ่อของเราจะรักยูซุฟและน้องชายของเขามากกว่าพวกรานะ อีกคนหนึ่งจึงกล่าวว่า ใช่ ถ้ายูซุฟมีชีวิตอยู๋พ่อก็คงจะไม่สนใจพวกเรา เมือไม่มียูซุฟพ่อก็คงจะหันมาสนใจพวกเราบ้าง แต่มีพี่คนหนึ่งว่า อย่าถึงกับเต้องฆ่าลย เอาแค่จับตัวเขาไปโยนลงในบ่อน้ำที่ใหนสักแห่งก็พอ วันรุ่งขึ้น......พวกพี่ๆของยูซุฟจึงได้ไปหาพ่อของตนและกล่าวว่า พ่อครับพรุ่งนี้พวกเราขออนุญาตพ่อพายูซุฟออกไปเที่ยวเล่นกับพวกเรานะครับ เราจะได้สนุกสนานกัน พ่อของพวกเขาจึงกล่าวว่า อย่าเลยลูก ยูซุฟยังเด็กอยู่ พวกเขาจึงกล่าวว่า ทำไมพ่อไม่ไว้ใจพวกเราเสียที นบียะกู๊บทนพี่ๆ ของยูซุฟรบเร้าไม่ได้ จึงอนุญาตให้ยูซุฟไปกับพี่ๆ ของเขา
หลังจาก พายูซุฟออกมาจากบ้านได้ไม่นาน พวกพี่ๆของยูซุฟก็พาเขามายังบ่อน้ำแห่งหนึ่ง และทุกคนก็ได้ร่วมกันจับยูซุฟโยนลงไปในบ่อน้ำ ขณะที่ยูซุฟอยู่ในบ่อน้ำ อัลลอฮได้บอกแก่ยูซุฟว่า วันหนึ่งข้างหน้า เจ้าจะได้มีโอกาศเตือนพวกเขาให้ถึงการกระทำดังกล่าวอย่างแน่นอน ตอนนี้ พวกไม่รู้หรอกว่าการกระทำของพวกเขาจะมีอะไรติดตามมา ตกค่ำ พี่ๆของยูซุฟก็กลับมาบ้านและแกล้งทำเป็นร้องให้บอกพ่อของพวกเขาว่า พ่อครับ ตอนที่พวกเราวิ่งเล่นกันอยู่หมาป่าได้มาลากยูซุฟไปกิน ฉันไม่เชื่อพวกเจ้าหรอกพวกเจ้าต่างหากที่ทำเรื่องนี้ขึ้นมาแบบง่ายๆ
ขณะที่ยูซุฟอยู่ในน่อน้ำ ได้มีกองคาราวนขบวนหนึ่งผ่านมาและแวะพักใก้ลบ่อน้ำเพื่อตัดน้ำขึ้นมาดื่มและนำไปเป็นเสบียง ผู้คนในกองคารวานจึงช่วยกันนำตัวยูซุฟขึ้นมาจากบ่อและนำตัวเขาไปขายให้กษัตริย์ในอียิปต์ในราคาไม่มากนัก เพราะยูซุฟยังเป็นเด็กอยู่ เนื่องจากยูซุฟเป็นเด็กน่ารัก กษัตริย์ผู้ซื้อตัวยูซุฟไปจึงบอกแก่ภรรยาของเขาว่า เธอจึงเลี้ยงเขาให้ดี ด้วยความชาวยเหลือของอัลลอฮ ยูซุฟจึงรอดชีวิตมาได้และยังมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี
ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
หลังจากที่เวลาผ่านไปได้หลายปี ยูซุฟก็เติบโตเป็นชายฟนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตางดงานจนเป็นที่หลงใหลของนางสุไลคอภรรยาของกษัตริย์ที่นเขามาเลี้ยงนางจึงหาทางยั่ยวนชวนให้ยูซุฟมีความสัมพันธ์กับนาง ยูซุฟจึงได้กล่าวว่า ขออัลลอฮทรงคุ้มครองฉันจากสิ่งนี้ด้วยเถิด โอ้พระอภิบาลขิงฉันพระองค์ได้ทรงให้ที่พำนักที่ดีแก่ฉันแล้ว ถ้าหากฉันทำผิดในเรื่องนี้ แน่นอนฉันคงไม่มีวันเจริญแน่ บังเอิญขณะสามีของนางได้เดินผ่านมาพอดีและเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวตรงหน้าประตู นางสุไลคอจึงรีบปกปิดความผิดของนางโดยเสแสร้งร้องออกมาว่า ท่านควรจะลงโทษอย่างไรถึงจะสาสมกับความผิดของคนที่คิดชั่วร้ายต่อภรรยาของท่าน
เรื่องราวดังกล่าวได้กลายเป็นที่ร่ำลือกันในหมู่คนชั้นสูงของอียิปต์ โดยเฉพาะพวกผู้หญิงได้วิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานาว่านางสุไลคอทำผิด เมื่อได้ยินคำพูดนินทามากเข้า นางจึงได้เชิญผู้หญิงเหล่านั้น มางานเลี้ยงที่บ้านของนางเพื่อจะให้คนเหล่าวนั้นได้รู้ว่าจะรู้อย่างไรเมือเห็นยูซุฟ ในงานเลี้ยง นางได้นำเอาหมอนมาวางเรียงไว้ให้แก่แขกได้พิงหรือ เอนหลังพร้อมกับจัดผลไม้นานาชนิดและมีดปอกไว้ให้ตามธรรมเนียมของการต้องรับ ขณะที่แขกผู้หญิงที่นางเชิญมากำลังเพลินอยู่กับการปอกผลไม้อยู่นั้น
นางสุไลคอจึงได้เรียกยูซุฟ ออกมาแขกผู้หญิงของฉันหน่อยซิ เมือยูซุฟออกมาปรากฏตัว พวงผู้หญิงที่นางเชิญมาเห็นยูซุฟเข้าก็ตะลึงในรูปร่างหน้าของท่านจนบองคนทำมีดบาดมือตัวเองและอีกหลายคนถึงกับอุทานออกมาว่า โอ้พระเจ้า ช่างงานเสียเหลือเกิน จะต้องเป็นทูตสรรค์อย่างแน่นอน เป็นไงละ นี่แหละคนที่พวกเธอนินทาถึงฉัน ฉันยั่วยวนเขาแต่เขาหลบหนี พวกเธอคอยดูก็แล้วกัน คราวหน้าถ้าหากเขาไม่ตอบสนองคำสั่งของฉันละก็ ฉันจะเอาเขาจำคุกให้เข็ดขยาด ฉันก็อาจหลงติดกับแผนการยั่วยวนของนางอีก และฉันก็จะกลายเป็นคนโง่เขลา เมือเห็นว่ายูซุฟไม่ยอมตอบสนองความต้องการ นางสุไลคอก็ได้สั่งให้นำตัวยูซุฟไปขังคุก เพือรักษาหน้าของนางไว้
ขณะที่อยู่ในคุก นบียูซุฟอายุได้ประมาณ 20 ปีและที่นั่นเองนบียูซุฟก็ได้รู้จักผู้ถูกจักขังคุกอีกสองคน วันหนึ่งขณะที่นบียูซุฟพูดคุยกับทั้รสอง คนหนึ่งได้กล่าวกับนบียูซุฟว่า ฉันฝันเห็นว่าฉันกำลังคั้นเหล้าองุ่นอยู่ อีกคนหนึ่งก็กล่าวว่า ฉันก็ฝันเห็นตัวเองกำลังแบกขนมปังอยู่บนหัวและมีนกมาจิกกิน ช่ายนำนายฝันให้เราหน่อยเถอะยูซุฟฟ เพราะเราเห็นท่านเป็นคนดี นบียูซุฟได้ตอบว่า เอาเถอะฉันจะทำยนายฝันให้ทั้งสองก่อนที่จะอาหาร เราไม่เคารพสักกระสิ่งใดเป็นพระเจ้าร่วมกับอัลลอฮนี่คือ ความโปรปรานของอัลลอฮที่ทรงมีต่อเราและมนุษยชาติ
ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
แต่ว่ามนษย์ส่วนใหญ่ไม่รู้คุณ พระองค์ได้ทรงบัญชาพวกท่านว่าจงอย่าเคารพสักการะสิ่งใดนอกจากพระองค์ นี่คือ แนวทางที่ถูกต้องและเที่ยงตรงที่สุด อัลลอฮได้ทรงกำหนดเอาไว้แล้ว
หลังจากนั้น นบียูซุฟได้กล่าวว่า กับคนที่จะถูกปล่อยตัวว่า หากมีโอกาสขอท่านได้เอ่ยถึงฉันให้เจ้านายอขท่านได้รู้ด้วยบ้างก็แล้วกัน คืนหนึ่งกษัตริย์อียิปต์ได้ฝันเห็นวัวอ้วนเจ็ดตัวกำลังถูกวัวผอมเจ็ดตัวกินขณะนั้น ข้ารับใช้ที่เคยถูกขังคุกร่วมกับนบียูซุฟก็อยู่ในที่นั้นด้วยเขาจึงนึกถึกนบียูซุฟขึ้นมาทักที่ นบียูซุฟจึงกล่าวว่า นับแต่นี้ไป พวกท่านจะไถหว่านแผ่นดินต่อเนี่องกันไปได้เจ็ดปี ดังนั้น จงเก็บเกี่วยข้าวและนวดเอาเมล็ดมาแค่จำนวนที่พอกิน ส่วนที่เหลือนั้รปล่อยไว้ให้มันติดอยู่กับรวงและเก็บสำรองไว้ อย่าได้นำมากิน เพราะหลังจากนั้นแผ่นดินจะแห้งแล้วต่อเนื่องกับเป็นเวลาเจ็ดปี หลังจากนั้นก็จะมีปีหนึ่งซึ่งฝนตกชุกเพราะคำวิงวอนของผู้คน และพวกเขาก็จะได้น้ำผลไม้ไว้คื่มกิน
กษัตริย์จึงได้สั่งให้เรียกบรรดาแขกผู้หญิงที่นางสุไลคอเชิญมาในวันนั้นมาไต่สวนตอหน้าข้าราชพารออย่างเปิดเผย เมือพวกผู้หญิงยืนยันเช่นนั้น นางสุไลคอจึงได้ออกมาสารภาพว่า เอาละ ฉันเองที่เป็นฝ่ายพยายามยั่วยวนปล้ำเขา แต่เขาไม่ยอมทำผิด หลังจากไต่สวนเสร็จแล้ว กษัตริย์จึงได้มีบัญชาว่า จงนำตัวยูซุฟมาพบฉันเพื่อที่ฉันจะได้แต่งตั้งเขาให้เป็นคนสนิดของฉัน
เมื่อนบียูซุฟถูกนำตัวมาเข้าเฝ้า กษัตริย์ก็ได้บอกนบียูซุฟว่านับแต่นี้เป็นตันไป เจ้ารับแต่งตั้งให้คนสนิทของเรา และเราจะมอบความไว้วางใจให้เจ้าดูแลแผ่นดินของเราอย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้เองที่อัลลอฮได้ทรงทำให้นบียูซุฟมีอำนาจในแผ่นดินท่านมีสิทธิ์ทุกอย่างเต็มที่ที่จะเป็นเจ้าของสิ่งใดก็ได้ที่ท่านต้องการในแผ่นดินอียิปต์ เมื่อปีแห่งความแห้งแล้งเกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลาถึง7ปีนอกจากแผ่นดินอียิปต์แล้ว พี่ๆอของนบียูซุฟจึงได้มายังอียิปต์เพื่อของซ้อเมล็ดข้าวนั้นจะต้องได้รับอนุญาตจากท่านก่อน เมือนบียูซุฟสั่งให้คนงานเตรียมเมล็ดข้าวให้พวกพี่ชายเสร็จแล้วท่านก็ได้บอกแก่พี่ๆของพวกว่า
คราวหน้า ถ้าพวกเจ้ามาหาซื้อเมล็ดข้าวอีกละก็จงพาน้องชายของพวกเจ้ามาด้วย พี่ๆของนบียูซุฟจึงบอกว่า เราจะพยายามอย่างที่สุดที่ขอพ่อของเราให้นำน้องชายมาด้วยตามที่ท่านต้องการ พ่อครับ ดูนี่สิ นี่ไงเมล็ดข้าวที่เราต้องการ แล้วนี่ สิ่งของที่เรานำไปแลกได้ถูกคืนกลับมาในกระสอบ เราจะกลับไปใหม่เพื่อนำอาหารมาให้ครอบครัวเราอีก พ่อให้น้องไปกับพวกเราเถิดนะ พวกเราสัญญาด้วยนามของอัลลอฮครับพ่อ พวกเขากล่าวสัญญาพร้อมกัน หลังจากที่ครอบครัวของยะก๊ฮบริโภคข้าวจนเหลือน้อยแล้วลกูๆของเขาก็เดินทางไปอียิปต์อีกครั้งหนึ่งเพือนำสิ่งของไปแลกเมล็ดข้าวและแน่นอน พวกเขาต้องไปหานบียูซุฟอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่คนงานกำลังตวงข้าวอยู่ นบียูซุฟก็แอบเอาถ้วยตวงข้าวของท่านใส่ลงไปในถุงกระสอบของบินยามีนโดยไมมีใครรู้
แต่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็โกนขึ้งมาว่า เฮ้ย พวกคนขี่อูฐ พวกแกหัวขโมยหรือนี่ พวกเราขอสานต่ออัลลอฮ พวกท่านก็รู้ดีว่าเราไม่ได้มาที่นี่เพือก่อความวุ่นวายขึ้นในแผ่นดินและเราก็ไม่ได้เป็นพวกโมย พี่ๆของนบียูซุฟยืนยัน เอาละ โทษของขโมยเป็นอย่างไร ถ้าหากพบว่าพวกท่านเป็นคนโกหก เจ้าหน้าที่ถามกลับไปทักที่เมื่อพบถ้วยตวงดังกล่าวในถุงกระสอบข้าวของบิบยามีน
พวกพี่ๆของเขาก็พากันกล่าวขึ้นมาว่า นบียูซุฟเก็บความรู้สึกของท่านไว้อย่างสงบเมือได้ยินพวกพี่ชายใส่ร้ายท่าน และท่านก็ยังไม่เปิดเผยความจริงออกมา เพียงแต่รำพึงกับตัวเองว่า พวกแกนี่ช่างเลวเสียจริง พวกแกกล่าวหาฉันซึ่งๆหน้าในสิ่งที่อัลลอฮทรงรู้ดีที่สุด อัลลอฮทรงห้ามเรากักตัวใครนอกจากคนนั้นจะถูกพบว่ามีของของเราอยู่กับเขา ถ้าเราทำเช่นนั้นก็เท่ากับเราก็เป็นคนที่ไร้ความเป็นธรรม นบียูซุฟกล่าวโดยหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่าขโมยกับน้องชายของท่าน ท่านอาจจะสอบถามจากผู้คนและขบวนอูฐที่เราเดินทางร่วมมาด้วย
บางที่ท่านอาจจะรู้ว่าพวกเราพูดความจริง เมื่อนบียะก๊ะบได้รู้เรื่องราวจากลูกๆที่กลับมาท่านก็เกิดความเศร้าใจและได้กล่าวว่า จิตใจของพวกเจ้าต่างหากที่คิดทำเรืองไม่ดีขึ้นมา แล้วก็หาข้อแก้ตัวง่ายๆมาอ้าง เอาเถอะฉันจะอดทนต่อเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ บางที่อัลลอฮอาจจะทรงนำพวกเขาทั้งหมดมาหาฉัน เพราะอัลลอฮทรงรู้ดีและพระองค์ทรงปรีชาสามารถยิ่งเหนือสิ่งใดพอได้ยินเช่นนั้น พวกพี่ๆจึงแปลกใจและร้องออกมาว่า ท่านคือยูซุฟจริงๆหรือนี่ ใช่ฉันคือ ยูซุฟ และนี่คือน้องชายของฉัน อัลลอฮทรงปรานีเรา
อัลลอฮไม่ทรงปล่อยให้การตอบแทนคนดีมีคุณธรรมและยำเกรงต่อพระองค์ต้องสูญเหล่า นบียูซุฟกล่าวว่าเอาละวันนี้ไม่มีการลงโทษพวกเจ้า และฉันจะวิงวอนขออัลลอฮให้ทรงโปรดอภัยพวกเจ้า พระองค์เป็นผู้ทรงเมตตาที่สุดของสรรพสิ่ง พวกเจ้าจงเอาเสื้อตัวนี้ของฉันไปวางต่อหน้าพ่อของฉันเขาจะจำได้ทักที่เมือใด้เห็น หลังจากนั้น พวกเจ้าจงนำครอบครัวของพวกเจ้าทั้งหมดมาหาฉัน หลายวันผ่านไปเมือลูกๆของนบียะก๊ะบกลับจากอียิปต์มาถึงบ้านลูกชายคนหนึ่งก็ตรงมาหาท่านและเอาเสื้อของนบียูฟมาวางไว้ที่หน้าของท่าน ตาที่พร่ามัวของนบียะก๊ะบก็กลับมองเห็นได้ขึ้นมาทักที่
นบียะก๊ะบกล่าวออกมาด้วยความดีใจว่า ฉันบอกพวกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่าฉันรู้จากอัลลอฮในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้ พ่อโปรดอภัยให้แก่ความผิดบาปของพวกเราด้วยเถิด เพราะเราเป็นผู้ทำบาปจริงๆ พวกลูกๆกล่าวสารภาพ หลังจากนั้นครอบครัวของนบียะก๊ะบทั้งหมดก็ออกเดินทางจากดินแดนคะนาอันสู่อียิปต์เพือไปพบอยูซฟ เมื่อเข้ามาในวัง นบียูซุฟได้เชิญพ่อแม่ของท่านขึ้นนั่งบนบัลลังก์เคียงข้างท่าน แล้วทุกคนที่อยู่ในท้องพระโรง รวมทั้งพี่ๆของท่านก็คำนับท่าน
หลังจากนั้น นบียูซุฟก็หันมาทางนบียะก๊ะบ พ่อครับ ฝันของฉันที่เคยเล่าให้พ่อฟ้งก่อนหน้านี้ อัลลอฮได้ทรงทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาแล้วพระองค์ได้ทรงให้ฉันออกจากคุกและทรงนำพวกท่านจากทะเลทรายมาหาฉันถึงแม้มารร้ายจะทำให้ครอบคัรวเราต้องแยกจากกัน
แต่อัลลอฮทรงมีแผนการที่แนบเนียนกว่า เพราะพระองค์เป็นผุ้ทรงรอบรู้ ทั้งนี้เพือที่จะทดสอบดูว่านบีมุฮัมมัดจะเล่าเรื่องราวได้ละเอียดถึรขนาดนี้แล้วพวกยิวในสมัยของท่านก็ยังไม่เชื่อว่าท่านเป็นนบีและปฏิเสธคำตักเตือนของท่าน
ภาพจากอินเทอร์เน็ต