ในวัยเด็ก มูซา ได้ใช้ชีวิตอยู่ในอ้อมอกของบิดามารดาของตน และ อยู่ร่วมกับฮารูนพี่ชายและพี่สาวของตนอย่างอบอุ่นจน เมื่อถึงวัยหย่านมมูซา....
ประวัติ นบีมูซา อะลัยฮิสลาม : ชีวิตวัยเด็กของนบีมูซากับฟิรเอาน์
โดย: อาจารย์อรุณ บุญชม
ในวัยเด็ก มูซา ได้ใช้ชีวิตอยู่ในอ้อมอกของบิดามารดาของตน และ อยู่ร่วมกับฮารูนพี่ชายและพี่สาวของตนอย่างอบอุ่นจน เมื่อถึงวัยหย่านมมูซา
จึงต้องกลับไปอยู่ในราชวังของฟิรเอาน์อีกครั้งหนึ่ง เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ในราชวัง - เหมือนกับเป็นคนในวังคนหนึ่ง ชื่อที่พวกนั้นเรียกเขาคือ “มูซาบุตรฟิรเอาน์”
นักประวัติศาสตร์เล่าว่า เมื่อฟิรเอาน์เห็นมูซากลับไปยังราชวังอีกและได้วิ่งเล่นอยู่ในราชวังตามประสาเด็ก เขาก็อยากจะหยอกล้อกับมูซา แต่มูซาได้จับเคราของเขาแล้วกระชากโดยแรงทําให้เคราหลุดออกมาหลายเส้น ฟิรเอาน์ รู้สึกเจ็บและโกรธมาก ถึงกับออกคําสั่งว่า :
"จงไปนําตัวเพชฌฆาตมาประหารเด็กน้อยคนนี้เสีย ฉันรู้สึกว่าเขานี่แหละคือคนที่จะมาทําลายอํานาจของฉัน"
ช่างน่าประหลาดกับความคิดของฟิรเอาน์ เพราะถ้าหากอํานาจของเขา จะต้องถูกทําลายด้วยน้ํามือของเด็กคนนี้จริงๆ อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ก็จะต้องปกปักษ์ รักษาเขาไม่ให้ผู้ใดทําอันตรายเขาได้ และถ้าหากเขาไม่ใช่เด็กคนนั้น ก็จะมี ประโยชน์อะไรที่จะสังหารเด็กน้อยคนนี้
และสัญลักษณ์ของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ตาอาลาก็เกิดขึ้นอีกประการหนึ่ง ในการแสดงท่าที่นี้ ของฟิรเอาน์ นั่นคือมเหสีของเขาได้กล่าวขึ้นว่า : มูซา เป็นเด็กที่ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรสมควร อะไรไม่สมควร ให้เราทารก ทดสอบเขาดูก่อนว่าเขามีความสามารถในการแยกแยะได้มากน้อยเพียงใด แล้วจึงค่อยทําการตัดสินเขาในภายหลังตามความสามารถนั้น
มเหสีของฟิรเอาน์ได้นําเอาภาชนะมาสองใบ นางได้ใส่ไข่มุกสองเม็ด ไว้ในภาชนะใบแรก ส่วนภาชนะใบที่สองนั้นนางได้วางถ่านไฟไว้สองก้อน และนําภาชนะทั้งสองนั้นมาวางลงข้างหน้ามูซา โดยมีฟิรเอาน์คอยจับตาดูอยู่อย่าง ใกล้ชิดอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ตาอาลา ได้ส่งญิบรีล (อ.ล.) ลงมาเพื่อนําถ่านไฟทั้งสอง ก้อนนั้นใส่ลงในมือของมูซา
ซึ่งเด็กน้อยมูซาก็ได้คว้าถ่านไฟสองก้อนนั้นเข้าปาก จนลิ้นไหม้พอง เมื่อประจักษ์ต่อสายตาของตนอย่างนี้ ฟิรเอาน์จึงเชื่อว่ามูซา ไม่สามารถแยกแยะสิ่งที่ได้กระทําลงไปได้ เขาจึงไว้ชีวิตมูซาให้เป็นแก้วตาของ มเหสีของตนต่อไป และมูซาก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ในราชวังจนเติบโตเป็นหนุ่ม
ภาพไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา