หลักปฏิบัติอันดีงาม 30 ประการที่มีต่อบิดามารดาของมุสลิม


2,910 ผู้ชม

ส่วนหนึ่งจากอิบาดะฮ์อันประเสริฐยิ่งที่บ่าวคนหนึ่งได้สนองคำบัญชาใช้ของอัลเลาะฮ์ตาอาลาก็คือ...


ส่วนหนึ่งจากอิบาดะฮ์อันประเสริฐยิ่งที่บ่าวคนหนึ่งได้สนองคำบัญชาใช้ของอัลเลาะฮ์ตาอาลาก็คือ  การปฏิบัติดีต่อบิดามารดาและสิ่งที่ชี้ถึงความสำคัญและความยิ่งใหญ่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ  


คำตรัสของอัลเลาะฮ์ ตาอาลา  ความว่า : 
 وَقَضَى رَبُّكَ أَلَّا تَعْبُدُوا إِلَّا إِيَّاهُ وَبِالْوَالِدَيْنِ إِحْسَاناً 
"องค์อภิบาลของเจ้าได้บัญชาไว้ว่า  พวกเจ้าทั้งหลายอย่านมัสการสิ่งใด  นอกจากพระองค์เท่านั้น  และจงทำดีกับผู้ให้กำเหนิดทั้งสอง" อัลอิสรออ์ 23
และวจนะของท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ความว่า "ช่างต่ำต้อยเหลือเกิน  สำหรับคนหนึ่งที่ได้อยู่ร่วมกับบิดามารดาของเขาหรือคนใดจากทั้งสองหรือทุก ๆ จากทั้งสอง  โดยที่ทั้งสองไม่ทำให้เขาเข้าสวรรค์"  รายงานโดยมุสลิม

ดังนั้น หากท่านต้องการความสำเร็จในทั้งโลกนี้และโลกหน้า  ท่านก็จงปฏิบัติตามสิ่งต่อไปนี้

1. พูดจากับบิดามารดาด้วยมีมารยาท  จงอย่ากล่าวด้วยถ้อยคำที่เบื่อหน่าย  และจงกล่าวพูดจากับทั้งสองอย่างอ่อนโยน

2. ตออัตพ่อแม่ของท่านอย่าสม่ำเสมอในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืน  ดังนั้น  ไม่มีการตออัตต่อมัคโลกที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนพระเจ้าผู้ทรงสร้าง

3. มีความอ่อนโยนต่อท่านทั้งสอง  อย่าทำหน้าบึ้งใส่  และอย่าเหลือบมองทั้งสองด้วยหางตา

4. จงรักษาชื่อเสียง , เกียรติ , และทรัพย์สินของท่านทั้งสอง  ท่านอย่าเอาสิ่งหนึ่งสิ่งใดนอกจากได้รับการอนุญาตจากทั้งสองเสียก่อน

5. ท่านจงปฏิบัติสิ่งที่ให้ความสะดวกแก่ท่าน  หากแม้นว่าทั้งสองจะไม่ได้สั่งใช้ก็ตาม  เช่นการรับใช้บริการ  ซื้อของที่จำเป็น ๆ ให้ และขยันศึกษาเล่าเรียน

6. จงขานรับการเรียกของท่านทั้งสองด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม  โดยกล่าวว่า  ครับพ่อ , ค่ะแม่ ,  ขอรับพ่อ , จ๊ะแม่ , เป็นต้น

7. จงให้เกียรติเพื่อน ๆ และเครือญาติของท่านทั้งสอง  ไม่ว่าในยามที่ท่านทั้งสองมีชีวิตอยู่หรือว่าเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม

8. อย่าโต้เถียงและกล่าวหาว่าผิดกับท่านทั้งสอง  แต่จงพยายามชี้แจงสิ่งที่ถูกต้องด้วยมารยาทที่ดีงาม

9. อย่าดื้อดึงและพูดจาอันเสียงดังต่อหน้าท่านทั้งสอง  และจงนิ่งสดับฟังคำพูดของท่านทั้งสอง  ท่านจงปฏิบัติด้วยจรรยามารยาทที่ดีงามด้วยกับทั้งสอง  และอย่าแกล้งพี่น้องของท่านเพื่อให้เกียรติแด่ท่านทั้งสอง

10. ท่านจงยืนให้เกียรติเมื่อท่านทั้งสองเข้ามาหา และจงจูบที่หน้าผากและเท้าของทั้งสอง

11. จงช่วยเหลือมารดาเกี่ยวกับงานบ้านและจงอย่ารีรอจากการช่วยบิดาทำงาน

12. เธออย่าเดินทาง เมื่อทั้งสองไม่ได้อนุญาต  หากแม้นว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญก็ตาม

13. อย่าเข้าไปหากท่านทั้งสองโดยไม่ได้รับอนุญาต  โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ทั้งสองกำลังนอนและทำการพักผ่อน

14. อย่ารับประทานอาหารก่อนท่านทั้งสอง  และจงให้เกียรติท่านทั้งสองในการรับประทานอาหารและดื่ม

15. ท่านอย่ากล่าวหาโกหกและอย่าทำการตำหนิ  เมื่อท่านทั้งสองได้กระทำสิ่งหนึ่งที่ไม่ทำให้ท่านประทับใจ

16. ท่านอย่าคิดว่าภรรยาและบุตรของท่านดีกว่าท่านทั้งสอง  ท่านจงสร้างความพึงพอใจแก่ท่านทั้งสองก่อนอื่นใด  ดังนั้นการพึงพอใจของอัลเลาะฮ์  ย่อมอยู่ในการพอใจของบิดามารดา และความโกรธกริ้วของพระองค์  ย่อมอยู่ในความโกรธของทั้งสอง

17. ท่านอย่านั่งในสถานที่หนึ่งที่สูงกว่าท่านทั้งสอง  และท่านอย่ายืนเท้าในขณะที่อยู่ต่อหน้าท่านทั้งสอง

18. ท่านโอ้อวดในการแอบอ้างไปยังบิดาของท่าน  หากแม้นว่าท่านจะมีตำแหน่งที่สูงก็ตาม  และจงระวังการปฏิเสธความหวังดีของทั้งสองและอย่าทำให้ทั้งสองเดือดร้อน  ถึงแม้นว่าจะด้วยถ้อยคำพูดเดียวสักทีก็ตาม

19. อย่าตระหนี่ในการเลี้ยงดูต่อท่านทั้งสอง  จนทำให้ทั้งสองเป็นทุกข์  เพราะมันเป็นความน่าอับอายสำหรับท่าน  ซึ่งต่อไปท่านจะได้เห็นว่าสิ่งดังกล่าวนั้น  บรรดาลูกๆ ของท่านก็จะทำอย่างนั้นกับท่านเช่นกัน

20. จงเยี่ยมเยือนท่านทั้งสองให้มาก ๆ และจงนำของฝากมาให้ท่านทั้งสองอย่างสม่ำเสมอ  ท่านจงกตัญญูรู้คุณต่อการเลี้ยงดูและความเหนื่อยยากของทั้งสองที่มีต่อท่าน  และท่านจงพิจารณาดูบรรดาบุตรของท่านเถิด  ซึ่งพวกเขาก็จะกระทำเหมือนกับที่ท่านได้ปฏิบัติต่อบิดามารดาของท่าน

21. มนุษย์ที่มีสิทธิ์ในการให้เกียรติยิ่งคือ มารดา หลังจากนั้น  บิดา  และท่านจงรู้เถิดว่า  สวรรค์นั้นอยู่ใต้ฝ่าเท้าของมารดา

22.  จงระวังการทรพีและสร้างความไม่พอใจต่อท่านทั้งสอง  จนเป็นเหตุให้ท่านต้องเป็นคนเลวทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และต่อไปบรรดาลูก ๆ ของท่านก็จะปฏิบัติต่อท่านเฉกเช่นที่ท่านได้ปฏิบัติต่อบิดามารดาของท่าน

23. เมื่อท่านต้องการสิ่งใดจากท่านทั้งสอง  ก็จงอ่อนโยนและขอบคุณหากทั้งสองได้มอบให้  และท่านจงผ่อนปรนเมื่อทั้งสองงดให้แก่ท่าน  และท่านก็จงอย่าขอสิ่งใดให้มากนักเพื่อท่านจะได้ไม่รบกวนท่านทั้งสอง

24. เมื่อท่านกลายเป็นผู้สามารถประกอบอาชีพได้แล้ว  ดังนั้น  ท่านก็จงทำงานและช่วยเหลือท่านทั้งสอง

25. ท่านย่อมมีสิทธิหน้าที่ที่มีต่อบิดามารดาของท่าน  และมีต่อภรรยาของท่าน  ดังนั้นท่านจงให้ตามสิทธิ์ที่ชอบธรรม  และพยายามให้ทั้งสองมีความเข้าใจซึ่งกันและกันเกี่ยวกับกรณีที่มีการพิพาษเกิดขึ้น  และจงมอบของกำนัลให้แก่ทั้งสองฝ่ายแบบลับ ๆ 

26. เมื่อบิดามารดาของท่านโต้แย้งกับภรรยาของท่าน  ดังนั้น  ท่านก็จงเป็นผู้มีความชาญฉลาด  และจงทำให้ภรรยาเข้าใจว่าท่านอยู่พร้อมกับนางหากว่าความถูกต้องอยู่ที่ฝ่ายนาง  และท่านจำเป็นต้องวอนให้บิดามารดาอภัยและมีความพอใจต่อท่าน

27. เมื่อท่านขัดแย้งกับบิดามารดาเกี่ยวกับเรื่องการต่างงานและการหย่า  ดังนั้น  พวกท่านก็จงให้หลักตัดสินของศาสนา  ซึ่งเป็นสิ่งที่ดียิ่งที่จะมาช่วยเหลือสำหัรบพวกท่าน

28. การดุอาอ์ของบิดามารดาย่อมถูกตอบรับ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ก็ตาม   ดังนั้น  ท่านจงระวังการขอดุอาของท่านทั้งสองที่เกี่ยวกับสิ่งไม่ดีที่ต้องการให้ประสบแก่ตัวท่าน

29. มีการปฏิบัติดีต่อเพื่นมนุษย์  ดังนั้น ผู้ใดทำการด่าทอเพื่อนมนุษย์  แล้วพวกเขาก็ด่าทอท่าน  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ กล่าวว่า "ส่วนหนึ่งจากบาปใหญ่นั้นคือ  ชายคนหนึ่งได้ด่าทอบิดามารดาของเขา  แล้วเขาก็ด่าทอบิดาของชายคนนั้น  จนเป็นเหตุให้มีการด่าบิดามารดาของกันและกัน"

30. จงเยี่ยมเยือนบิดามารดาของท่านทั้งสอง  ไม่ว่าในขณะที่มีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว  และท่านจงบริจาคท่านและขอดุอาอ์ให้กับท่านทั้งสองให้มาก ๆ ว่า "โอ้ผู้อภิบาลของฉัน  พระองค์โปรดทรงอภัยโทษให้แก่ฉันและบิดามารดาของฉันทั้งสอง  โอ้ผู้อภิบาลของฉัน  พระองค์ทรงโปรดเมตตาเอ็นดูต่อท่านทั้งสองเหมือนกับที่ทั้งสองได้เลี้ยงดูฉันแต่ตั้งเยาว์วัย"

ที่มา sunnahstudent.com

อัพเดทล่าสุด