นี่คือโทษของผู้ที่ไม่ถือศีลอด


18,902 ผู้ชม

ผู้ที่ละทิ้งการถือศิลอดในเดือนรอมาฎอน ซึ่งเป็นฟัรฎูสำหรับเขาแล้ว โดยที่เขาไม่มีอุปสรรค หรือได้รับอนุโลมข้อผ่อนผันแต่อย่างใด ถือว่าเป็นบาปใหญ่


นี่คือโทษของผู้ที่ผู้ที่ไม่ถือศีลอด

ผู้ที่ละทิ้งการถือศิลอดในเดือนรอมาฎอน ซึ่งเป็นฟัรฎูสำหรับเขาแล้ว โดยที่เขาไม่มีอุปสรรค หรือได้รับอนุโลมข้อผ่อนผันแต่อย่างใด ถือว่าเป็นบาปใหญ่ ถึงขันการบวชชดทั้งปีก็ไม่สามารถชดใช้ให้แก่เขาผู้นั้นได้

รายงานจากท่านอิบนุอับบาส (ร.ด.) เล่าว่า ท่านรสุลุลลอฮฺ (ซ.ล.) กล่าวว่า :

"ที่ยึดขิงศาสนาอิสลาม และหลักการศาสนา มี 3 ประการ ซึ่งบนสามประการนี้ ศาสนาได้ก่อตั้งขึ้น ผู้ใดละทิ้งอันหนึ่งอันใดจากสามประการ ถือว่า เขาเป็นกาฟิรฺ(ผู้ปฏิเสธ) เลือดเป็นที่อนุมติก็คือ

(1) การปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ

(2) การละหมาด 5 เวลา

(3)การถือศิลอดในเดือนรอมฎอน"

(บันทึกหะดิษโดยอบูยะอฺยา อัดดัยลามี โดยอัษษะหะบี ได้ถือว่าเป็นหะดิษเศาะเฮียะฮฺ)

นี่คือโทษของผู้ที่ไม่ถือศีลอด

รายงานจากท่านอบีฮุร็อยเราะฮฺ ร่อฎียัลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านรสุลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

"ผู้ใดละศิลอดวันหนึ่ในเดือนรอมฎอน โดยไม่มีมีข้อผ่อนผันที่อัลอฮฺได้ผ่อนผันให้แก่เขา การถือศิลอดตลอดทั้งปีก็ไม่สามารถจะชดใช้ให้แก่เขาได้ หากเขาถือศิลอด" (บันทึกหะดิษโดยอบูดาวูดอิบนุมาญะฮฺ และอัตติรมีซย์)

อัษษะหะบี กล่าวว่า:  "บรรดามุมินก็ยอมรับที่ว่าผู้ใดทิ้งการถือศิลอดในเดือนรอมฎอน โดยไม่ป่วย ที่จริงแล้วเขาเลวยิ่งกว่าคนทำซินา คนติดเหล้า และทำให้เกิดความสงสัยในการเป็นอิสลามของเขา พวกเขาอาจจะคิดว่าเขาเป็นคนปฏิเสธ และออกนอกลู่นอกทาง"

รายงานจากอบีอุมามะฮฺ อัลบาฮิลีย์ กล่าวว่า :

ฉันได้ยินท่านรอซูล (ซ.ล.)ได้กว่าว่า ในระหว่างที่ฉันนอนหลับอยู่นั้นก็มีชายสองคนมาจับแขนฉัน และพาฉันไปที่ภูเขาแห่งหนึ่ง เป็นทางวิบาก และทั้งสองได้พูดกับฉัน ว่าจงขึ้นไป ครั้งเมื่อฉันขึ้นไปถึงกลางภูเขานั้น ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงดังมาก ฉันจึงถามว่า "เสียงเหล่านี้เป็นเสียงอะไำร"? เขาตอบว่า "นี่เป็นเสียงร้องของชาวนรก..."

แล้วต่อมาเขาก็ได้พาฉันไปอีก ทันใดนั้น ฉันก็ได้เห็นคนพวกหนึ่งที่ถูกแขวนด้วยการเกี่ยวที่ข้อเท้าของพวกเขาเอาไว้ แก้มทั้งสองข้างของพวกเขามีแผลแยกออก มีเลือดไหล ฉันจึงถามว่า "พวกนี้เป็นใคร"? มีเสียงตอบว่า "พวกนี้เป็นพวกที่ละศีลอดก่อนถึงเวลา..."  (อิบนุคุซัยมะฮฺ บอกว่า เป็นฮาดิษซอเหี๊ยะห์)

บทความที่น่าสนใจ

อัพเดทล่าสุด