อัลลอฮฺทรงตรัสไว้ใน คัมภีร์อัลกุรอาน ถึงพระนางมัรยัม(มารีย์)และท่านนบีอีซา(พระเยซู) ในโอายะฮ์ ที่ 16 ถึง 35 จากซูเราะฮ์มัรยัม กล่าวว่า :
อัลลอฮฺทรงตรัสไว้ใน คัมภีร์อัลกุรอาน ถึงพระนางมัรยัม(มารีย์)และท่านนบีอีซา(พระเยซู) ในโอายะฮ์ ที่ 16 ถึง 35 จากซูเราะฮ์มัรยัม กล่าวว่า :
16. และจงกล่าวถึง (เรื่องของ) มัรยัมที่อยู่ในคัมภีร์ เมื่อนางได้ปลีกตัวออกจากหมู่ญาติของนาง ไปยังมุมหนึ่งทางตะวันออก (ของบัยตุลมักดิส)
17. แล้วนางได้ใช้ม่านกั้นให้ห่างพ้นจากพวกเขา แล้วเราได้ส่งวิญญาณของเรา (ญิบรีล) ไปยังนาง แล้วเขาได้จำแลงตนแก่นางให้เป็นชายอย่างสมบูรณ์
18. นางกล่าวว่า “แท้จริงฉันขอความคุ้มครองต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานีให้พ้นจากท่านหากท่านเป็นผู้ยำเกรง”
19. เขา (ญิบรีล) กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นเพียงทูตแห่งพระเจ้าของเธอ เพื่อฉันจะให้ลูกชายผู้บริสุทธิ์แก่เธอ”
20. นางกล่าวว่า “ฉันจะมีลูกได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ไม่มีชายใดมาแตะต้องฉันเลย และฉันก็มิได้เป็นหญิงชั่ว”
21. เขา (ญิบรีล) กล่าวว่า “กระนั้นก็เถิด พระเจ้าของเธอตรัสว่า มันง่ายสำหรับข้า และเพื่อเราจะทำให้เขาเป็นสัญญาณหนึ่งสำหรับมนุษย์และเป็นความเมตตาจากเรา และนั่นเป็นกิจการที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
22. แล้วนางได้ตั้งครรภ์ และนางได้ปลีกตัวออกไปพร้อมกับบุตรในครรภ์ ยังสถานที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง
23. ความเจ็บปวดใกล้คลอดทำให้นางหลับไปที่ใต้ต้นอินทผลัม นางได้กล่าวว่า “โอ้! หากฉันได้ตายไปเสียก่อนหน้านี้ และฉันเป็นคนไร้ค่าถูกลืมเสียก็จะดี”
ทั้งๆ ที่นางไม่รู้เลยว่า เด็กที่อยู่ในท้องของนางนั้นเป็นบุรุษที่ประเสริฐ (ท่านนบีอีซา อะลัยฮิสสะลาม) ความเจ็บปวดที่คนเราได้แบกรับมาในแต่ละคนนั้น จะมีความดีงามที่เต็มไปด้วยความหอมหวานแห่งความประเสริฐ ที่ต้องมีให้เห็นในวันหน้า ดังนั้น จงอดทนในการแบกรับกับความทุกข์ยากในวันนี้ เพราะเรากำลังแบกรับกับสิ่งที่ดีงามอยู่ที่จะต้องรับรู้ถึงคุณค่าของมันในสักวัน
24. ดังนั้น เขา (มะลัก) ได้เรียกนางทางเบื้องล่างต้นอินทผลัมว่า “อย่าได้เศร้าเสียใจ แน่นอน พระเจ้าของเธอทรงจัดลำธารไว้เบื้องล่างเธอแล้ว
25. “และจงเขย่าต้นอินทผลัม ให้มันเอนมาทางตัวเธอ มันจะหล่นลงมาที่ตัวเธอ เป็นอินทผลัมที่สุกน่ากิน”
26. “ฉะนั้น จงกิน จงดื่ม และจงทำจิตใจให้เบิกบานเถิด หากเธอเห็นมนุษย์คนใดก็จงกล่าวว่า ฉันได้บนการสงบนิ่งไว้ต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานีฉันจะไม่พูดกับผู้ใดเลยวันนี้”
27. (หลังจากที่นางได้ให้กำเนิดบุตร) แล้ว นางได้พาเขามายังหมู่ญาติของนางโดยอุ้มเขามา พวกเขากล่าวว่า “โอ้ มัรยัมเอ๋ย! แท้จริงเธอได้นำเรื่องประหลาดมาแล้ว”
28. “โอ้ น้องหญิงของฮารูน พ่อของเธอมิได้เป็นชายชั่ว และแม่ของเธอก็มิได้เป็นหญิงไม่บริสุทธิ์”
29. นางชี้ไปทางเขา พวกเขากล่าวว่า “เราจะพูดกับผู้ที่อยู่ในเปลที่เป็นเด็กได้อย่างไร?”
ภาพไมาเกี่ยวข้องกับเนื้อหา
30. เขา (อีซา) กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นบ่าวของอัลลอฮ์ พระองค์ทรงประทานคัมภีร์แก่ฉันและทรงให้ฉันเป็นนบี (ศาสดา)”
31. “และพระองค์ทรงให้ฉันได้รับความจำเริญ ไม่ว่าฉันจะอยู่ ณ ที่ใด และทรงสั่งเสียให้ฉันทำการนมาซและจ่ายซะกาต ตราบที่ฉันมีชีวิตอยู่”
32. “และทรงให้ฉันทำดีต่อมารดาของฉัน และจะไม่ทรงทำให้ฉันเป็นผู้หยิ่งยโส ผู้เลวทรามต่ำช้า”
33. “และความศานติจงมีแด่ฉัน วันที่ฉันถือกำเนิดและวันที่ฉันตาย และวันที่ฉันถูกฟื้นขึ้นให้มีชีวิตใหม่”
34. นั่นคืออีซาบุตรของมัรยัม มันเป็นคำบอกเล่าที่เป็นจริง ซึ่งพวกเขายังมีความสงสัยกันอยู่
35. ไม่เป็นการบังควรสำหรับอัลลอฮ์ ที่พระองค์จะทรงตั้งผู้ใดเป็นพระบุตร มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงกำหนดกิจการใด พระองค์จะตรัสแก่มันว่า “จงเป็น” แล้วมันก็จะเป็นขึ้นมา