ตามหลักการแล้วไม่อนุญาตให้เชื่อเอี๊ยะติก็อตว่าท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เจาะจงกระทำแบบอย่างดังกล่าวเอาไว้นะครับ แต่ที่ปฏิบัติเช่นนั้นเพราะมีหลักการจากอัลกุรอาน
การอ่านยาซีนแล้วขอดุอาในคืนนิสฟูชะอฺบาน
คำถาม: คือแถวบ้านผมมีการเลี้ยงอาหารในคืนนิสฟูด้วย และมีการอ่านยาซีน3จบ แบบนี้มีแบบอย่างหรือไม่ครับอย่างไร ทำได้หรอครับ มีฮาดิษเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่าครับ
ตามหลักการแล้วไม่อนุญาตให้เชื่อเอี๊ยะติก็อตว่าท่านนบี ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เจาะจงกระทำแบบอย่างดังกล่าวเอาไว้นะครับ แต่ที่ปฏิบัติเช่นนั้นเพราะมีหลักการจากอัลกุรอาน , อัลหะดิษ , การกระทำสะลัฟ , มารับรองตามนัยยะโดยรวมและการขอดุอาอ์หลังจากการอ่านอัลกุรอานถือว่าเป็นซุนนะฮ์
อนึ่ง การอ่านอัลกุรอาน เช่น ซูเราะฮ์ยาซีน แล้วทำการขอดุอานั้น ถือเป็นการตะวัซซูล(ตะวัซซูล)ด้วยบรรดาอะมัล กล่าวคือบรรดามุสลิมได้นำอะมัลที่ดีไปเป็นสื่อในการขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา ดังนั้นอะมัลด้วยการอ่านอัลกุรอานแล้วนำมาเป็นสื่อที่ดีเยี่ยมในการขอดุอา ถือเป็นตะวัซซุลประเภทนี้นักปราชญ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ได้ลงมติ (อิจญฺมาอฺ)เป็นเอกฉันท์ว่าเป็นอนุญาตได้กระทำได้ แม้แต่มัซฮับอัลวะฮาบียะฮ์ก็ยังให้การยอมรับการตะวัซซูลประเภทนี้ด้วยเช่น กัน
ท่านอิบนุอุมัร ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุมา ได้กล่าวว่า "ฉันได้ยินท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า : มีชายสามคนจากผู้ที่อยู่ในยุคก่อนจากพวกท่านได้เดินทางจนกระทั่งพักค้างคืน ที่ถ้ำแห่งหนึ่ง พวกเขาจึงเข้าไปในถ้ำ แล้วหินจากภูเขาก็ถล่มลงมา มันจึงปิดปากถ้ำเอาไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงกล่าวว่า จะไม่ทำให้พวกเขารอดพ้นจากหินนี้ได้หรอกนอกจากพวกท่านจะขอดุอาต่ออัลเลาะ ฮ์ด้วย(สื่อตะวัซซูล)ด้วยบรรดาอะมัลของพวกท่าน..." รายงานโดยบุคอรีย์ (2271) และมุสลิม (2743)
ดังนั้นการอ่านยาซีน แล้วทำการขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ ก็คือ การนำอะมัลที่ดีงาม(เช่นการอ่านอัลกุรอ่านซูเราะฮ์ยาซีน)แล้วนำมาเป็นสื่อตะวัซซูลไปยังการขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลานั่นเอง
รายงานจาก ท่านอิมรอน บิน หุซัยน์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ความว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "พวกท่านจงอ่านอัลกุรอานและพวกท่านจงทำการขอต่ออัลเลาะฮ์ด้วย(การอ่าน)อัลกุ รอานั้น ก่อนที่จะมีกลุ่มหนึ่งทำการอ่านอัลกุรอานและได้ทำการขอกับมนุษย์ด้วยกับ(การ อ่าน)อัลกุรอาน" รายงานโดยท่านอิมามอะห์มัด ดู มุสนัด 4/473
รายงาน จากอบูฮะรอยเราะฮ์ ความว่า "ผู้ใดอ่านยาซีนในค่ำคืนหนึ่ง ในยามเช้าเขาจะถูกอภัยโทษให้...." ท่านอิมามอัสสะยูฏีย์กล่าวว่า หะดิษนี้อยู่บนเงื่อนไขที่ซอฮิห์ ดู หนังสือ อันนุกัต อัลบะดีอาต หน้า 58-59
ซึ่งค่ำคืนหนึ่งนั้น ร่วมถึงคืนนิสฟูชะอฺบานและอื่นจากคืนนินฟูชะอฺบาน โดยไม่มีหลักฐานใดมาเจาะจงในการห้ามให้อ่านยาซีนในคืนนิสฟูชะอฺบานหรืออื่นจากคืนนิสฟูชะอฺบาน ดังนั้น หลักฐานที่มีความหมายนัยยะแบบกว้าง ๆ นี้ก็ยังคงดำเนินอยู่ตามวิถีของมัน
รายงานจากท่านอะลี บิน อบีฏอลิบ ท่านกล่าวว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) "เมื่อถึงคืนนิสฟูชะอฺบาน พวกท่านจงละหมาด(ทำอิบาดะฮ์)ในช่วงกลางคืนและทำการถือศีลอดในช่วงกลางวัน เพราะหลังจากดวงอาทิตย์ลับ อัลเลาะฮ์ทรงลง(ความจำเริญ) มาสู่ฟากฟ้าชั้นล่างสุด และพระองค์กล่าวว่า ไม่มีผู้ขออภัยโทษกับข้าฯดอกหรือ เพื่อข้าฯจะอภัยให้แก่เขา ไม่มีผู้วอนขอริสกีดอกหรือ เพื่อข้าฯจะประทานริสกีให้แก่เขา ไม่มีผู้ได้รับบาลออฺการทดสอบดอกหรือ เพื่อข้าฯจะให้เขาหาย ไม่มีผู้เป็นเช่นนั้น เช่นนี้ดอกหรือ จนกระทั่งแสงอรุณขึ้น" รายงานโดย อิบนุมาญะฮ์ ไว้ในสุนันของท่าน 1/444 , ท่านอัลบัยฮะกีย์ ในหนังสือ ชะอฺบุลอีมาน 3/379 , และท่าน อับดุรร๊อซซาก ไว้ในหนังสือ อัลมุซ๊อนนัฟ หะดิษที่ 7923 ท่านอัลอิรอกีย์ กล่าวไว้ในหนังสือ ตักรีจญฺ อะหาดิษ อัลอิหฺยาอฺ 1/203 ว่า "สายรายงานหะดิษนี้ฏออีฟ" วัลลอฮุอะลัม
แม้หะดิษที่อัลเลาะฮ์จะ 1. ทรงอภัยให้ , 2. จะทรงประทานริสกี , 3. และให้พ้นจากบาลาอฺนั้น แม้จะเป็นหะดิษฏออีฟ แต่สามารถนำมาปฏิบัติในด้านคุณงามความดีได้ ตามทัศนะเห็นพร้องหรือส่วนมากของปวงปราชญ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอดุอาอ์ ซึ่งมีรากฐานตามหลักของศาสนาอย่างมั่นคงที่ให้เราทำการขอดุอาอ์ต่ออัลเลาะฮ์ ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นบิดอะฮ์
ท่านอิมามชาฟีอีย์ (ร.ฏ.) ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลอุม ว่า "ได้รับทราบถึงเราว่า แท้จริงดุอาอ์จะถูกตอบรับ(เป็นพิเศษ) ในห้าคืน คือ คืนวันศุกร์ คืนอีดอัฏฮา คืนอีดฟิตร์ คืนแรกของเดือนระญับ และคืนนิสฟูชะอฺบาน" ดู หน้าที่ 2 /264
ท่านอิมาม อันนะวาวีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ เราเฏาะฮ์ อัตตอลิบีน ว่า "ได้รับทราบถึงเราว่า แท้จริงดุอาอ์จะถูกตอบรับ(เป็นพิเศษ) ในห้าคืน คือ คืนวันศุกร์ คืออีดอัฏฮา คืนอีดฟิตร์ คืนแรกของเดือนรอญับ และคืนนิสฟูชะอฺบาน และและอิมามชาฟิอีย์(ร.ฏ.) กล่าวว่า "ข้าพเจ้ารัก(ที่จะให้กระทำ)กับทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าได้รายงานเกี่ยวกับบรรดา คืนเหล่านี้ โดยที่ไม่ใช่เป็นฟัรดู" ดู หน้าที่ 2/75
ส่วนการมีเลี้ยงอาหาร ขนมนมเนยเล็ก ๆ น้อยนั้น เป็นสิ่งที่อนุญาตให้กระทำได้และไม่มีข้อห้ามใด ๆ ยิ่งกว่านั้นการให้อาหารซึ่งกันและกันยังได้รับผลบุญอีกด้วยตามที่หะดิษหลายบทได้ระบุไว้
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ
- ซุนนะฮฺในเดือนชะอฺบาน
- คืนนิสฟูชะอ์บานมีซุนนะห์ให้ทำอะไร?
- เดือนชะอฺบาน มีซุนนะห์ให้ทำอะไรบ้าง?
- การถือศีลอดสุนัต วันที่ห้ามถือศีลอด
- ทำไมท่านนบี ถือศีลอดเดือนชะอฺบาน มากกว่าเดือนอื่นๆ
- ดุอาอฺให้มีชีวิตอยู่ถึงรอมฎอน
ที่มา: www.sunnahstudent.com