ผู้ใดที่ท่องจำ 10 อายะฮฺแรกของซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟิเขาจะถูกคุ้มครองให้ปลอดภัยจากฟิตนะฮฺของดัจญาล
ผู้ใดที่ท่องจำ 10 อายะฮฺแรกของซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟิ เขาจะถูกคุ้มครองให้ปลอดภัยจากฟิตนะฮฺของดัจญาล
โดยกล่าวว่า :
اَللَّهُمَّ إِ نِّيْ أَعُوْذُبِكَ مِنْ عَذَابِ جَهَنَّمَ وَمِنَ عَذَابِ الْقَبْرِوَمِنْ فِتْنَةِالْمَحْيَاوَالْمَمَاتِ وَمِنْ فِتْنَةِ
الْمَسِيْحِ الدَّجَالِ
คำอ่าน : อัลลอฮุมม่าอินนี อะอูซุบีก้า มินอะซาบิญะฮันนัม วามินอะซาบิลก็อบริ ว่ามินฟิตนะติล มะฮฺยาวัลม่ามาต ว่ามินฟิตนะติล มะซีฮิดดัจญาล
คำแปล : โอ้ อัลลอฮฺ ฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์ ให้พ้นจากการลงโทษในนรก การลงโทษในหลุมฝังศพ ความวุ่นวายของการมีชีวิต และความตาย และให้พ้นจากความวุ่นวาย (ชั่วร้าย) ของมะซีฮฺอัดดัจญาล
บันทึกโดย มุสลิม
และนอกจากนี้ดุอาอฺบทนี้ ท่านอบี ฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า :
ท่านร่อซุล ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า : เมื่อคนหนึ่งในพวกเจ้า เสร็จจากการตะชะฮฺฮุดครั้งหลังแล้ว ให้เขาขอความ คุ้มครองจากอัลลอฮฺ ให้พ้นจากสี่อย่าง ซึ่งบรรดาซอฮาบะห์เน้นย้ำและสนับสนุนให้ลูกๆของเขาทุกคนได้อ่านก่อนให้สล่ามในละหมาด เพราะขอให้รอดพ้นจาก คือ
1.การถูกลงโทษในนรก ญะฮันนัม
2.การลงโทษในกุโบร์ (ออเดิร์ฟก่อนโดนจริงในกิยามะฮฺ)
3.ความวุ่นวายจากการฟิตนะห์(นินทาว่าร้าย)ทั้งตอนมีชีวิตและเสียชีวิตไปแล้ว (ตายไปแล้วคนยังว่าลับหลัง)
4.ให้รอดพ้นจาก ดัจญาล ที่น่ากลัว
10 อายะฮฺแรกของซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟิ
الْحَمْدُ لِلَّهِ الَّذِي أَنزَلَ عَلَىٰ عَبْدِهِ الْكِتَابَ وَلَمْ يَجْعَل لَّهُ عِوَجًا
1. บรรดาการสรรเสริญเป็นของอัลลอฮผู้ทรงประทานคัมภีร์แก่บ่าวของพระองค์ และพระองค์มิได้ทรงทำให้มันมีการบิดเบือนแต่อย่างใด
قَيِّمًا لِّيُنذِرَ بَأْسًا شَدِيدًا مِّن لَّدُنْهُ وَيُبَشِّرَ الْمُؤْمِنِينَ الَّذِينَ يَعْمَلُونَ الصَّالِحَاتِ أَنَّ لَهُمْ أَجْرًا حَسَنًا
2. เป็นคัมภีร์ที่เที่ยงธรรม เพื่อเตือนสำทับถึงการลงโทษอย่างสาหัสจากพระองค์ และเพื่อแจ้งข่าวดีแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่กระทำความดีทั้งหลายว่า สำหรับพวกเขานั้นจะได้รับรางวัลอันดีงาม (คือสวนสวรรค์)
مَّاكِثِينَ فِيهِ أَبَدًا
3. เป็นผู้พำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล
وَيُنذِرَ الَّذِينَ قَالُوا اتَّخَذَ اللَّهُ وَلَدًا
4. และเพื่อเตือนสำทับบรรดาผู้ที่กล่าวว่า “อัลลอฮทรงตั้งพระบุตรขึ้น
مَّا لَهُم بِهِ مِنْ عِلْمٍ وَلَا لِآبَائِهِمْ كَبُرَتْ كَلِمَةً تَخْرُجُ مِنْ أَفْوَاهِهِمْ إِن يَقُولُونَ إِلَّا كَذِبًا
5. พวกเขาไม่มีความรู้ใดๆ ในเรื่องนี้ และบรรพบุรุษของพวกเขาก็เช่นกัน เป็นคำกล่าวที่น่าเกลียดยิ่งที่ออกจากปากของพวกเขา โดยที่พวกเขามิได้กล่าวอันใดนอกจากความเท็จ
فَلَعَلَّكَ بَاخِعٌ نَّفْسَكَ عَلَىٰ آثَارِهِمْ إِن لَّمْ يُؤْمِنُوا بِهَٰذَا الْحَدِيثِ أَسَفًا
6. ดังนั้น บางทีเจ้าอาจเป็นผู้ทำลายชีวิตของเจ้าด้วยความเสียใจ เนื่องจากการผินหลังของพวกเขา หากพวกเขาไม่ศรัทธาต่ออัลกุรอานนี้
إِنَّا جَعَلْنَا مَا عَلَى الْأَرْضِ زِينَةً لَّهَا لِنَبْلُوَهُمْ أَيُّهُمْ أَحْسَنُ عَمَلًا
7. แท้จริง เราได้ทำให้สิ่งที่อยู่บนแผ่นดินเป็นที่ประดับสำหรับมัน เพื่อเราจะทดสอบพวกเขาว่า ผู้ใดในหมู่พวกเขามีผลงานที่ดีเยี่ยม
وَإِنَّا لَجَاعِلُونَ مَا عَلَيْهَا صَعِيدًا جُرُزًا
8. และแท้จริง แน่นอนเราเป็นผู้ทำให้สิ่งที่อยู่บนพื้นดินเป็นผุยผงแห้งแล้ง
أَمْ حَسِبْتَ أَنَّ أَصْحَابَ الْكَهْفِ وَالرَّقِيمِ كَانُوا مِنْ آيَاتِنَا عَجَبًا
9. เจ้าคิดหรือว่า ชาวถ้ำและแผ่นจารึก เป็นส่วนหนึ่งจากสัญญาณมหัศจรรย์ของเรากระนั้นหรือ ?
إِذْ أَوَى الْفِتْيَةُ إِلَى الْكَهْفِ فَقَالُوا رَبَّنَا آتِنَا مِن لَّدُنكَ رَحْمَةً وَهَيِّئْ لَنَا مِنْ أَمْرِنَا رَشَدًا
10. จงรำลึกขณะที่พวกชายหนุ่มหลบเข้าไปในถ้ำแล้วพวกเขากล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าของเรา ขอพระองค์ทรงโปรดประทานความเมตตาจากพระองค์แก่เรา และทรงทำให้การงานของเราอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง”