การลงโทษในหลุมฝังศพ


38,885 ผู้ชม

มนุษย์จะถูกลงโทษเนื่องจากการละเลยของพวกเขาต่อการรู้จักอัลลอฮฺ ตะอาลา การละทิ้งไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระองค์ และฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของพระองค์ และอัลลอฮฺ ตะอาลา นั้นจะไม่ลงโทษดวงวิญญาณที่รู้จักพระองค์ มีความรักในพระองค์ ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ และละเว้นไม่ปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม


การลงโทษในหลุมฝังศพ

การลงโทษในหลุมฝังศพ

จงระลึกถึงชีวิตหลังความตายในหลุมฝังศพ   มนุษย์จะถูกลงโทษเนื่องจากการละเลยของพวกเขาต่อการรู้จักอัลลอฮฺ ตะอาลา  การละทิ้งไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระองค์  และฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของพระองค์  และอัลลอฮฺ ตะอาลา  นั้นจะไม่ลงโทษดวงวิญญาณที่รู้จักพระองค์  มีความรักในพระองค์  ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์  และละเว้นไม่ปฏิบัติในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม 

            แท้จริง การลงโทษในหลุมฝังศพ  และการลงโทษในอาคีเราะห์ต่างเป็นผลสืบเนื่องมาจากความโกรธกริ้ว  และความพิโรธของอัลลอฮฺที่มีต่อบ่าวของพระองค์  ผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงโกรธกริ้วเขาในโลกนี้ และเขามิได้ขออภัยโทษแล้วได้ถึงแก่กรรมลง  เขาจะถูกลงโทษในบัรซัค(โลกของคนตาย)  หนักเบาก็สุดแล้วแต่ปริมาณแห่งความผิด  และความโกรธกริ้วของพระองค์

สภาพของการลงโทษ 

            ท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม  ได้บอกเล่าถึงชาย 2 คน ที่ท่านมองเห็นว่าเขาทั้งสองถูกลงโทษในหลุมฝังศพ  คนหนึ่งสัญจรไปเพื่อสร้างความแตกแยกในระหว่างผู้คน  และอีกคนหนึ่งไม่ชำระล้างปัสสาวะให้สะอาด  

            คนแรกเขาได้ละทิ้งการทำความสะอาดที่เป็นวาญิบ  ส่วนอีกคนทำบาปด้วยการสร้างความเป็นศัตรูกันในระหว่างมนุษย์ด้วยลิ้นของเขา  ถึงแม้ว่าเขาจะพูดในสิ่งที่เป็นความจริงก็ตาม  ดังนั้นเท่ากับว่าหะดีษนี้ได้เตือนถึงการสร้างความเป็นอริกันระหว่างมนุษย์ด้วยการโกหก   การโป้ปด  การใส่ร้าย  ซึ่งถือว่าเป็นความผิดที่จะต้องถูกลงโทษอย่างหนักกว่า  

           ในทำนองเดียวกันหากการไม่เอาใจใส่ในการชำระล้างปัสสาวะให้สะอาดนั้นเป็นสาเหตุให้ถูกลงโทษในกุบูร ก็เท่ากับเป็นการเตือนว่าการทิ้งละหมาด (ซึ่งการชำระล้างปัสสาวะให้สะอาดนั้นเป็นเงื่อนไขหนึ่ง(ชุรูต)ของความใช้ได้ของการละหมาด) ย่อมจะถูกลงโทษรุนแรงกว่า โดยในรายงานหนึ่งจากอัลหะดีษมีว่า “หนึ่งในสองนั้นถูกลงโทษเนื่องจากเขาเคยกินเนื้อมนุษย์”  คือการนินทา นั่นก็หมายถึงเขาเป็นผู้ก่อให้เกิดความแตกแยกนั่นเอง

           และมีรายงานจากท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม  ว่า : “ แท้จริงชายคนหนึ่งถูกตีด้วยแส้ในหลุมฝังศพ มันทำให้ไฟลุกโชนเต็มหลุมฝังศพของเขา” เพียงเพราะว่าเขาละหมาดครั้งหนึ่งโดยไม่มีความสะอาด  และเขาเดินไปพบเห็นผู้ที่ถูกอธรรมโดยไม่ให้ความช่วยเหลือ  (รายงานโดย الطحاوي ด้วยสายรายงานที่หะซัน)

           และยังได้มีรายงานจากหะดีษของท่าน สะมุเราะฮฺ อิบนุ ญุนดุบ ซึ่งรายงานโดย อิมามอัลบุคอรียฺ ถึงการลงโทษผู้ที่เผยแพร่เรื่องโกหกจนมันกระจายไปทั่วสารทิศ  และการลงโทษผู้ที่อ่านอัลกุรอาน แล้วเขาเข้านอน(โดยละเลยต่ออัลกุรอาน)ในตอนกลางคืน และเขาไม่ได้ปฏิบัติตามอัลกุรอานในตอนกลางวัน

           และหะดีษนี้ยังได้กล่าวถึงการลงโทษผู้กินดอกเบี้ย  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม  ได้เล่าถึงสภาพของพวกเขาตามที่ท่านได้เห็นภาพจากบัรซัคโลกของคนตาย

          ในหะดีษอื่นรายงานว่า  ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม  ได้พบชนกลุ่มหนึ่งซึ่งถูกทุบตีศีรษะด้วยก้อนหิน เนื่องจากพวกเขารู้สึกหนักมากในการโงศีรษะของตนเพื่อลุกขึ้นทำการละหมาด 

           และบรรดาผู้ที่กินต้นไม้หนามالضريع   และต้นไม้ขม الزقوم   (ต้นไม้ทั้งสองมีอยู่ในนรก) เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ไม่จ่ายซะกาต  และพบกลุ่มชนหนึ่งที่แย่งกันกินเนื้อที่เหม็นเน่า  พวกเขาคือบรรดาผู้ที่ทำซินา  

          และท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม  ก็ได้พบกับชนกลุ่มหนึ่งที่ริมฝีปากของพวกเขาถูกตัดด้วยกรรไกรเหล็ก พวกเขาคือผู้ที่ยุยงให้เกิดความยุ่งเหยิง ด้วยคำพูดและการบรรยายต่างๆ

          มีหะดีษจากท่านอบูสะอีดรายงานจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม  ว่า ท่านได้เล่าถึงบทลงโทษว่า บางคนมีท้องใหญ่โตดังบ้าน บุคคลเหล่านี้คือ “ ผู้ที่กินดอกเบี้ย” และบางคนปากของพวกเขาถูกอ้าให้เปิดออก แล้วพวกเขาต้องกลืนเอาก้อนถ่านไฟแดงๆ จนถ่านไฟนั้นหลุดออกจากตัวของพวกเขาไปทางทวารหนัก  บุคคลเหล่านี้คือผู้ที่กินทรัพย์สินของเด็กกำพร้าโดยอธรรม

         และบางคนเป็นหญิงที่นมของนางถูกเกี่ยวแขวนไว้  พวกหล่อนคือหญิงที่ทำซินา ( ผิดประเวณี ) และบางพวกที่เนื้อตรงสีข้างของพวกเขาถูกตัดและพวกเขาต้องกัดกินมัน พวกเขาคือ คนที่ชอบนินทา บางพวกเล็บของเขาเป็นทองเหลือง พวกเขาใช้ขีดข่วนใบหน้าของตัวเอง  พวกเขาเหล่านี้ ผู้ที่ทำลายเกียรติยศของคนอื่น 

เหตุแห่งการลงโทษ 

         ฉะนั้น การลงโทษในหลุมฝังศพเกิดจากการฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮฺ ตะอาลา ด้วยหัวใจ  ตา หู ปาก  ลิ้น  กระเพาะ  อวัยวะเพศ  มือ  เท้า  และทุกส่วนของร่างกาย  อาทิเช่น ...

         การยุแหย่ให้เกิดการแตกแยก , การโกหก , การนินทา , การเป็นพยานเท็จ , การกล่าวหาหญิงบริสุทธิ์ว่าทำชั่ว , การยุยงให้เกิดความยุ่งเหยิง  , การแนะนำให้ประกอบสิ่งที่เป็นการอุตริกรรม( บิดอะฮฺ ) ,  การกล่าวเกี่ยวกับอัลลอฮฺ  และเราะซูลโดยที่เขาไม่มีความรู้  , การพูดพล่อยไม่รู้จักคิด  ,  การกินดอกเบี้ย   ,  การกินทรัพย์ของเด็กกำพร้า  , การกินสินบน   ...

         การฉ้อโกงทรัพย์ของพี่น้องของเขา , การเสพสิ่งมึนเมา ,  การผิดประเวณี  , การร่วมประเวณีทางทวารหนัก  , การลักขโมย , การทรยศ,  การหลอกลวง , การบิดพริ้วสัญญา  ... 

        การเกี่ยวข้องกับดอกเบี้ย ได้แก่ผู้กินดอกเบี้ย ผู้ให้ดอกเบี้ย ผู้บันทึกสัญญาที่มีดอกเบี้ย  และผู้เป็นพยาน...

        การใช้เล่ห์เหลี่ยมในการลบล้างบทบัญญัติของอัลลอฮฺ และในการละเมิดสิ่งที่ต้องห้ามต่างๆ ,  การทำร้ายต่อเหล่ามุสลิม และ การสอดแนมในสิ่งที่พวกเขาปกปิด , การตัดสินด้วยบทบัญญัติอื่นที่ไม่ใช่บทบัญญัติของอัลลอฮฺ  การชี้ขาดปัญหาโดยขัดกับบทบัญญัติของอัลลอฮฺ... 

        การให้ความช่วยเหลือต่อการทำบาปและการก่อให้เกิดการเป็นศัตรูกัน , การสังหารชีวิตบุคคลที่อัลลอฮฺทรงพิทักษ์ไว้, ผู้ที่ออกนอกบทบัญญัติของอัลลอฮฺ ...

        ผู้ที่ปฏิเสธคุณลักษณะของอัลลอฮฺ ,  ผู้ที่ปฏิบัติตามความคิด อารมณ์ของตนเองโดยผิดไปจากคำสอนของท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม

  

        ผู้หญิงที่ร้องไห้รำพึงรำพันในงานศพ และผู้ที่นั่งฟัง , ผู้ขับร้องเพลงที่ไม่อนุมัติและผู้รับฟังบทเพลงของพวกเขา ,  ผู้ที่สร้างมัสยิดบนหลุมฝังศพ โดยที่พวกเขาจุดตะเกียง  และเทียนไขบนหลุมฝังศพ , ผู้ที่ทำให้พร่องในการชั่งตวง ,  ผู้ที่มีความยโส ลำพองตน  โอ้อวด , ผู้ชอบกล่าวตำหนิ ชอบกล่าวให้ร้าย ...

        ผู้ที่ไปหานักทำนายโชคชะตา โหร ผู้ที่อ้างว่ารู้อนาคต เพื่อถามบางสิ่งจากพวกเขาและเชื่อในสิ่งที่พวกนั้นพูด ,  ผู้ที่เมื่อท่านเตือนและสำทับเขาให้เกรงกลัวและรำลึกถึงอัลลอฮฺ เขากลับไม่หยุดยั้งในการทำความชั่ว แต่หากท่านขู่เขาด้วยสิ่งถูกสร้างอื่นๆเหมือนตัวเขา เขากลับกลัวและหยุดตัวเองจากความชั่วนั้นได้  , ผู้ที่ได้รับการนำทางด้วยถ้อยของอัลลอฮฺ และรอซูล  แต่เขาไม่เดินตามทางนั้น...  

        ผู้ที่อ่านอัลกุรอ่าน แต่การอ่านนั้นไม่มีผลต่อเขา  แต่เมื่อเขาฟังคัมภีร์ของชัยฏอนหรือเวทมนตร์ของการซินาหรือวัตถุดิบของการนิฟากเขากลับมีความสุข และเกิดความเบิกบานในหัวใจ และในใจไม่อยากให้นักร้องคนนั้นหยุดร้องเพลง... 

        ผู้ที่ได้สาบานต่ออัลลอฮฺไว้   แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสาบานนั้น  แต่เมื่อเขาได้ให้คำสัญญาต่อวะลีย์ หรือต่อ ผู้อาวุโส  หรือต่อคนที่เขาเคารพให้เกียรติ ซึ่งเป็นสิ่งถูกสร้างเช่นเดียวกับเขา   เขากลับให้ความสำคัญ และไม่ผิดคำสัญญานั้น แม้ว่าเขาจะถูกข่มขู่หรือถูกทำร้าย…

       ผู้ที่มีความภาคภูมิใจในการทำบาป  และคุยอวดกับเพื่อนของเขาว่าจะทำให้มากขึ้น เขาคือผู้ชอบเปิดเผยในการทำบาป , ผู้ที่ไม่มีใครไว้ใจเขาในเรื่องทรัพย์สินและเกียรติยศ ,  ผู้มีลิ้นที่ชั่วซึ่งใครๆก็หลีกห่างเขาด้วยเกรงในความกักขฬะของเขา…

       ผู้ที่ล่าช้าในการละหมาดจนเวลาใกล้จะหมดและไม่รำลึกถึงอัลลอฮฺ เว้นแต่เล็กน้อยเท่านั้น ,  ผู้ที่ไม่จ่ายซะกาต  และไม่ไปทำฮัจย์ทั้งๆ  ที่เขามีความสามารถ  และเขาไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ในเรื่องสิทธิต่างๆที่ศาสนามีเหนือเขาทั้งๆที่มีความสามารถ...

       ผู้ที่ไม่มีความสำรวมตนต่ออัลลอฮฺ  แม้ในเสี้ยวหนึ่งของการมอง  หรือในการพูดจา   การกิน  การย่างเท้าของเขา  และไม่สนใจต่อทรัพย์สินเงินทองที่ได้มาว่าฮะลาล  หรือฮะรอม…

       ผู้ที่ไม่ติดต่อสัมพันธ์กับเครือญาติ  ไม่รู้จักเมตตาสงสารต่อคนยากจน  หญิงหม้าย  ลูกกำพร้า และต่อสัตว์โลกอื่นๆ  อีกทั้งยังผลักไสเด็กกำพร้า  ไม่สนับสนุนการให้อาหารแก่ผู้ที่ขัดสน... 

       ผู้ที่ชอบให้โลกได้ประจักษ์ในความดีของตน  ไม่เอื้อเฟื้อในเครื่องใช้เล็กๆน้อยๆในบ้าน  สาละวนอยู่กับการกล่าวถึงข้อบกพร่องของคนอื่นโดยมองไม่เห็นข้อบกพร่องของตัวเอง  และง่วนอยู่กับการวิจารณ์บาปของคนอื่นโดยมองข้ามบาปของตัวเอง 

       บุคคลเหล่านี้จะถูกลงโทษในหลุมฝังศพเพราะความผิดของพวกเขา แล้วแต่ว่าระดับของความผิดนั้นจะมาก หรือน้อย จะเล็กหรือใหญ่  ตราบที่อัลลอฮฺ ตะอาลา  ยังไม่ทรงอภัยโทษให้แก่พวกเขา และไม่ทรงยกเว้นโทษหรือประทานความเมตตาแก่พวกเขา 

ส่วนหนึ่งจากหนังสือ กิตาบุล รูหฺ ของอิมาม อิบนุล กอยยิม อัล-เญาซียะฮฺแปลและเรียบเรียงโดย หะบีบะฮฺ  บินติ อลียฺ

อัพเดทล่าสุด