การสร้างรัศมีของนบีมูฮำหมัด (ซ.ล.)


24,025 ผู้ชม

นบีมูฮัมมัด หรือ มูหัมมัด อาหรับ: محمد‎ แปลว่า ผู้ได้รับการสรรเสริญ เป็นนบีคนสุดท้ายของศาสนาอิสลาม ที่อัลลอฮ์ทรงแต่งตั้ง


 นบีมูฮัมมัด หรือ มูหัมมัด อาหรับ: محمد‎ แปลว่า ผู้ได้รับการสรรเสริญ เป็นนบีคนสุดท้ายของศาสนาอิสลาม ที่อัลลอฮ์ทรงแต่งตั้ง นบีมูฮัมมัดเกิดที่นครมักกะฮ์ ตรงกับวันจันทร์ที่ 12 เดือนรอบีอุลเอาวัล ในปีช้าง ตรงกับ ค.ศ. 570 ในตอนแรกเกิดกายของมุฮัมมัด (ซ.ล.) มีรัศมีสว่างไสวและมีกลิ่นหอม เป็นศุภนิมิตบ่งถึงความพิเศษของทารก

การสร้างรัศมีของนบีมูฮำหมัด (ซ.ล.)

การสร้างรัศมีของนบีมูฮำหมัด (ซ.ล.)

แท้จริงแล้วอัลเลาะห์ได้สร้างต้นไม้ขึ้นมาหนึ่งต้นมีสี่กิ่ง ต่อมาอัลเลาะห์ ได้สร้างรัศมีของนบีมูฮำหมัด ในม่านกั้นที่ทำมาจากไข่มุกที่มีสีขาวมีรูปเหมือนนกยูง และได้ถูกนำไปวางไว้บนต้นไม้ต้นนั้น หลังจากนั้นมันได้กล่าวตัสเบียะห์ต่ออัลเลาะห์ถึงเจ็ดหมื่นปี หลังจากนั้น อัลเลาะห์ก็ได้นำกระจกมาวางไว้ข้างหน้ามัน เมื่อนกยูงได้มองไปที่กระจกก็เห็นรูปร่างของตนเองที่งดงามและเกิดอาการละอาย ต่ออัลเลาะห์จนกระทั่งเหงื่อได้ไหลออกมาหกหยด หยดแรกได้นำมาสร้างอบูบักร(ร.ด.) หยดที่สองนำมาสร้างอุมัร (ร.ด.) หยดที่สามนำมาสร้างอุสมาน(ร.ด.) หยดที่สี่นำมาสร้างอาลี(ร.ด.) หยดที่ห้านำมาสร้างน้ำหอม หยดที่หกนำมาสร้างรวงข้าว

ต่อมานกยูงก็ได้สุหยูดต่ออัลเลาะห์ห้าครั้ง จึงบังเกิดสิ่งที่เป็นฟัรดูสำหรับอุมมะห์ของท่านนั่นก็คือการละหมาดห้าเวลา และอัลเลาะห์ก็ได้มองไปที่นกยูงอีก เหงื่อก็ไหลออกมาที่บริเวณจมูกเนื่องจากความละอาย และได้ถูกนำมาสร้างเป็นบรรดามะลาอิกะห์ และเหงื่อจากใบหน้าได้ถูกนำมาสร้างเป็นอะรัช(บัลลังค์),กุรซี,ปากกาจดบันทึก,พระอาทิตย์,พระจันทร์,ดวงดาว,สิ่งที่อยู่ในฟากฟ้า และเหงื่อจากหน้าอกได้ถูกนำมาสร้างเป็นบรรดานบี,บรรดาร่อซู้ล,บรรดานักปราชญ์,บรรดานักชะฮีด,บรรดาคนซอและห์

และเหงื่อจากหลังได้ถูกนำมาสร้างเป็นบัยตุ้ลมะอมูร,บัยตุลเลาะห์,บัยตุ้ลมักดิส,มัสยิดที่อยู่ในโลกดุนยา และเหงื่อจากคิ้วทั้งสองข้างได้ถูกนำมาสร้างเป็นบรรดาคนมุอ์มิน และเหงื่อจากหูทั้งสองข้างได้ถูกนำมาสร้างเป็นวิญญาณของพวกยะฮูดี,นัสรอนี,มะยูซี(บูชาไฟ)พวกมันมีความกลับกลอก,บิดพริ้ว,หลอกลวง และเหงื่อจากเท้าทั้งสองข้างได้ถูกนำมาสร้างเป็นแผ่นดิน,สิ่งที่มีอยู่ในแผ่นดิน

แท้จริงแล้วอัลเลาะห์ได้สั่งใช้ให้มนุษย์ซึ่งเป็นมัคลูก(สิ่งถูกสร้าง)ให้ละหมาดตามรูปแบบของคำว่าอะหมัด เมื่อยืนก็เหมือนตัว อลีฟ เมื่อรูกัวะก็เหมือนตัว ฮา เมื่อสุหยูดก็เหมือนตัว มีม เมื่อนั่งระหว่างสองสุหยูดก็เหมือนตัว ดาล *และมนุษยก็ถูกออกแบบมาในรูปแบบของคำว่า มูฮำหมัด* ถึงแม้ว่าจะตายไปแล้วก็ยังคงรูปแบบเดิม ยกเว้นพวกกาเฟร ถ้าหากว่าพวกเขาตายแล้วนำไปเผา อัลเลาะห์จะเปลี่ยนให้เป็นรูปของหมู”

ภายหลังจากที่อัลเลาะห์ได้สร้างบรรดามัคลูก (สิ่งถูกสร้าง) เรียบร้อยแล้ว บรรดาดวงวิญญาณทั้งสี่ท่าน(อบูบักร,อุมัร,อุสมาน,อาลี) ก็ได้กล่าวตัสเบียะห์ต่ออัลเลาะห์อีกเจ็ดหมื่นปี ต่อมาอัลเลาะห์ก็ได้สร้างบรรดาดวงวิญญาณอุมมะห์ของบรรดานบีแต่ละท่านด้วยกับเหงื่อ (หมายถึงอัลเลาะห์ได้สร้างดวงวิญญาณมาจากเหงื่อของนบีท่านใดเขาก็จะเป็นอุมมะห์ของนบีท่านนั้น) หลังจากนั้นบรรดาดวงวิญญาณก็ได้กล่าวปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลเลาะห์ และมูฮำหมัดเป็นศาสนทูตของอัลเลาะห์ ต่อมาอัลเลาะห์ ก็ได้สั่งใช้ให้บรรดาดวงวิญญาณเวียนรอบนบีมูฮำหมัดพร้อมกับกล่าวสรรเสริญต่อนบีมูฮำหมัดอีกหนึ่งแสนปี

หลังจากนั้นอัลเลาะห์ก็ได้สั่งให้บรรดาดวงวิญญาณมองไปยังนบีมูฮำหมัด บรรดาพวกที่มองไปยังศีรษะของนบีมูฮำหมัด พวกเขาก็จะเกิดมาเป็นคอลีฟะห์ พวกที่มองไปยังหน้าผากก็จะเกิดมาเป็นผู้นำที่ยุติธรรม พวกที่มองไปยังดวงตาทั้งสองข้างก็จะเกิดมาเป็นนักท่องจำกุรอาน พวกที่มองไปยังคิ้วทั้งสองข้างก็จะเกิดมาเป็นช่าง เช่น ช่างศิลป์ ช่างแกะสลัก เป็นต้น พวกที่มองไปยังใบหูทั้งสองข้างก็จะเกิดมาเป็นผู้ฟังที่ดี พวกที่มองไปยังแก้มทั้งสองข้างก็เกิดมาเป็นคนดีที่มีไหวพริบ พวกที่มองไปยังสองริมฝีปากก็จะเกิดมาเป็นรัฐมนตรี

พวกที่มองไปยังจมูกก็จะเกิดมาเป็นนักปราชญ์,หรือเป็นหมอ,คนปรุงน้ำหอม พวกที่มองไปยังปากก็จะเกิดมาเป็นนักถือศีลอด พวกที่มองไปยังฟันก็จะเกิดมาเป็นคนหล่อ,คนสวย พวกที่มองไปยังลิ้นก็จะเกิดมาเป็นทูตของเจ้าเมือง พวกที่มองไปยังกระเดือกก็จะเกิดมาเป็นครู,อาจารย์,มุอัซซิน(คนอะซาน) พวกที่มองไปยังเคราก็จะเกิดมาเป็นผู้ที่เสียสละในหนทางของอัลเลาะห์

พวกที่มองไปยังต้นคอก็จะเกิดมาเป็นพ่อค้า พวกที่มองไปยังแขนทั้งสองข้างก็จะเกิดมาเป็นนักขี่ม้า(อัศวิน,ทหารม้า) นักรบ,เพชฌฆาต พวกที่มองไปยังแขนข้างขวาก็จะเกิดมาเป็นนักกรอกเลือด พวกที่มองไปยังแขนข้างซ้ายก็จะเกิดมาเป็นคนโง่(ไม่รับฟังผู้อื่น) พวกที่มองไปยังมือข้างขวาก็จะเกิดมาเป็นเสมียน

พวกที่มองไปยังฝ่ามือซ้ายก็จะเกิดมาเป็นชาวนาชาวสวน พวกที่มองไปยังทั้งสองมือก็จะเกิดมาเป็นคนใจบุญ พวกที่มองไปยังหลังมือซ้ายก็จะเกิดมาเป็นคนตระหนี่ พวกที่มองไปยังหลังมือขวาก็จะเกิดมาเป็นช่างแกง,พ่อครัว พวกที่มองไปยังปลายนิ้วข้างซ้ายก็จะเกิดมาเป็นนักเขียน พวกที่มองไปยังนิ้วข้างขวาก็จะเกิดมาเป็นช่างเย็บผ้า,ช่างตัดชุด

พวกที่มองไปยังนิ้วข้างซ้ายก็จะเกิดมาเป็นช่างตีดาบ พวกที่มองไปยังหน้าอกก็จะเกิดมาเป็นคนที่มีความรู้,มุจตะฮิจ,คนที่มีเกียรติ พวกที่มองไปยังหลังก็จะเกิดมาเป็นผู้ที่นอบน้อมอยู่ในกรอบของศาสนา พวกที่มองไปยังสองสีข้างก็จะเกิดมาเป็นทหาร,ตำรวจ พวกที่มองไปยังท้องก็จะเกิดมาเป็นคนที่สละโลก,สันโดด พวกที่มองไปยังหัวเข่าทั้งสองข้างก็จะเกิดมาเป็นผู้ที่ชอบละหมาด(สุนัต) พวกที่มองไปยังเท้าทั้งสองข้างก็จะเกิดมาเป็นนักล่าสัตว์ พวกที่มองไปยังฝ่าเท้าก็จะเกิดมาเป็นนักเดินทาง

พวกที่มองไปยังเงาก็จะเกิดมาเป็นนักร้อง,นักดนตรี(ชอบเพ้อฝัน-ชอบจินตนาการ) ส่วนพวกที่มองไม่เห็นอะไรเลยจึงเกิดมาเป็นพวกยะฮูดี,นัสรอนี,มะยูซี,บูชาเจว็ดหรือบูชาไฟ (พวกตั้งภาคี) ส่วนผู้ที่ไม่เห็นอะไรเลยสักนิดแถมยังอ้างตนเองเป็นพระเจ้านั่นก็คือ ฟิรอูน

หนังสืออ้างอิงدقائق الاخبار

Cr.Team of Secrets

บทความที่น่าสนใจ

อัพเดทล่าสุด