กัญชาฮาลาลเมื่อไร สิ้นโลกเมื่อนั้น


5,087 ผู้ชม

หะดีษข้างต้นถูกหยิบยกมาอ้างอิงแล้วก่อนหน้านี้ ครานี้ได้หยิบยกมาอีกครั้งหนึ่งโดยนำเสนอสำนวนอันครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการนำเสนอเนื้อหาซึ่งแยกประเด็นที่ต้องการนำเสนออย่างชัดเจน ...


กัญชาฮาลาลเมื่อไร สิ้นโลกเมื่อนั้น

บทคสามโดย: อ.มุรีด ทิมะเสน

ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า

سَيَكُونُ فِي آخِرِ الزَّمَانِ خَسْفٌ وَقَذْفٌ وَمَسْخٌ» قِيلَ وَمَتَى ذَلِكَ يَا رَسُولَ اللهِ؟ قَالَ «إِذَا ظَهَرَتِ الْمَعَازِفُ وَالْقَيْنَاتُ، وَاسْتُحِلَّتِ الْخَمْرُ

“ช่วงยุคสุดท้าย (ของโลกดุนยา) จะปรากฏ (มนุษย์) ถูกเปลี่ยนสภาพ (เป็นสัตว์เดรัจฉาน) [1], แผ่นดินไหว (แผ่นดินแยก) และการขว้าง (หินลงมาจากฟากฟ้า) มีผู้เอ่ยถามขึ้นว่า เหตุการณ์ข้างต้นเกิดขึ้นเมื่อไรรึครับ? ท่านรสูลตอบว่า เมื่อเครื่องดนตรี และนักร้องผู้หญิงได้รับความนิยม และสิ่งมึนเมาจะถูกทำให้หะลาล (เป็นที่อนุมัติ)” [2]

สิ่งที่ได้รับจากหะดีษ

หะดีษข้างต้นถูกหยิบยกมาอ้างอิงแล้วก่อนหน้านี้ ครานี้ได้หยิบยกมาอีกครั้งหนึ่งโดยนำเสนอสำนวนอันครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการนำเสนอเนื้อหาซึ่งแยกประเด็นที่ต้องการนำเสนออย่างชัดเจน และเพื่อให้ง่ายต่อการชี้แจงความเป็นไปทางสังคมให้เห็นเป็นภาพพจน์อีกคำรบหนึ่ง

ท่านนบีวัจนะถึงบั้นปลายสุดท้ายก่อนโลกจะสูญสลายว่า เราจะพบเห็นสิ่งฮะรอม (ต้องห้ามตามบทบัญญัติ) ได้รับความนิยม และมุสลิมในยุคนั้นกลับกลายทำให้สิ่งต้องห้าม (ฮะรอม) กลายเป็นสิ่งอนุมัติ (ฮาลาล) ไปเสียแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่า ยุคปลายของโลกจะสูญสลาย บรรยากาศในยุคนั้นเต็มไปด้วยสิ่งกักขฬะอันสวนทางกับบัญญัติศาสนาอย่างมากมายเหลือคณานับ กล่าวได้ว่า

หากผู้ศรัทธาคนใดมีโอกาสอยู่ร่วมสังฆกรรมในยุคดังกล่าว ย่อมอยู่ยากและต้องอาศัยความศรัทธาอันมั่นคงเอามากๆ เลยทีเดียว เฉกเช่นท่านนบีระบุไว้ว่า

กัญชาฮาลาลเมื่อไร สิ้นโลกเมื่อนั้น

ช่วงยุคสุดท้ายของโลกนั้น มุสลิมอย่างเราๆ นั่นหละจะทำให้สิ่งมึนเมาทั้งหลายเป็นที่อนุมัติ นั่นหมายรวมว่าดื่มได้ เสพได้อย่างหน้าตาเฉย เพราะเป็นสิ่งอนุมัติไปแล้ว อันที่จริงหากศาสนาระบุว่าต้องห้าม ก็คือต้องห้ามตราบวันสิ้นโลกนั่นหละ ไม่ว่าใครหน้าไหนจะทำให้หะลาลได้เสียหน่อย ทีนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า คำว่า “ค็อมรุน” มิได้แปลว่าสุราเพียงถ่ายเดียว แต่หมายถึงสิ่งใดทำให้มึนเมา นั่นหละเรียกว่า “ค็อมรุน” ทั้งสิ้น ฉะนั้นบุหรี่ ก็ใช่ค็อมรุน กัญชา ก็ใช่ค็อมรุน สี่คูณร้อย ใบกระท่อมก็ใช่ค็อมรุนทั้งสิ้น เพราะสิ่งใดทำให้มึนเมาเรียกว่า “ค็อมรุน” และทุกๆ “ค็อมรุน” ถือว่า หะรอมนั่นเอง [3]

ในประเทศไทยเรา อนุมัติให้ทั้งใบกระท่อม ใบกัญชาถูกปลดล็อคไม่เป็นสิ่งต้องห้าม (ผิดกฎหมาย) อีกต่อไปแล้ว คล้ายกับหวยลอตเตอรี่นั่นหละ ที่รัฐบาลอ้างว่า เป็นการการพนัน ทว่าเป็นการพนันที่รัฐบาลอนุญาตให้เล่นให้ซื้อได้นั่นแล แต่หลักการศาสนาระบุไว้อย่างชัดเจนว่า สิ่งใดทำให้มึนเมาถือว่าต้องห้ามทั้งสิ้น ไม่ว่าบุคคลหน้าไหนจะอนุญาตให้กระทำได้ก็ตาม, เฉกเช่น กัญชา ซึ่งนักวิชาการลงมติเอกฉันท์ว่าเป็นยาเสพติดทำให้มึนเมาอยู่ความหมายของคำว่า “ค็อมรุน” ซึ่งถือว่าต้องห้ามชัดเจน แม้ปัจจุบันจะถูกปลดล็อคว่าไม่ต้องห้ามก็ตาม ทว่าอิสลามยังคงห้ามอยู่ดี

ด้วยเหตุนี้ มุสลิมคนใดปลูกต้นกัญชา นำใบกัญชามาผสมกับเครื่องดื่มเพื่อดื่มเอง หรือจำหน่ายก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งฮะรอมเช่นกัน สิ่งนี้ชัดเจนเอามากๆ หามีข้อเลี่ยงอันใดไม่, อนึ่ง กรณีนำใบกัญชามาเป็นยารักษา นั่นเฉพาะบุคคลที่ไม่มีทางรักษาด้วยตัวยาอื่น เช่นนี้เกิดความจำเป็นสามารถนำยาซึ่งมีส่วนสกัดของใบกัญชาได้ นี่คือข้อยกเว้นเฉพาะบุคคลเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับคนปกติจะสามารถนำกัญชามาปลูกมาเสพเองตามอำเภอใจ

นี่คือความงดงามของอิสลาม มุสลิมสูงส่งได้ก็เพราะนำแก่นธรรมอิสลามมาปฏิบัติอย่างศิโรราบ ไม่มีข้ออ้างข้อแม้อันใดทั้งสิ้นหากสิ่งนั้นคือ “อิสลาม” และที่สำคัญเราจะได้รับสวรรค์ของอัลลอฮฺเป็นการตอบแทนก็ด้วยเพราะเหตุผลดังกล่าว....นั่นแล

[1] ความหมายคือเปลี่ยนสภาพกลายเป็นสัตว์จริงๆ หรือร่างกายเป็นมนุษย์แต่มีจิตใจเป็นสัตว์เดรัจฉาน (วัลลอฮุอะอฺลัม)

[2] หะดีษเศาะหี้หฺ, บันทึกโดยเฏาะบะรอนีย์ หะดีษ 5810

[3] หะดีษเศาะหี้หฺ, บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 2003

https://islamhouse.muslimthaipost.com/article/23611

อัพเดทล่าสุด