บทบาทของแมงมุมในการปกป้องท่านศาสดามุฮัมหมัดและท่านอาบูบักร์...
ความอัศจรรย์แมงมุมในอัลกรุอาน
บทบาทของแมงมุมในการปกป้องท่านศาสดามุฮัมหมัดและท่านอาบูบักร์
กล่าวถึงฮิจเราะห์ ในการกำหนดรอบปีของอิสลาม มีที่มาที่น่าสนใจ ที่เราจะต้องรู้ โดยเฉพาะความเด็ดเดี่ยวของท่านศาสดาและซอฮาบะห์คนใกล้ชิดที่มีนามว่า อาบูบักร์ ในการฮิจเราะห์สู่เมืองยัษริบ (นามเดิมของมาดีนะห์)
ฉากสำคัญที่จะกล่าวถึง ณ ที่นี้ก็คือ บทบาทของแมงมุมในการปกป้องท่านทั้งสอง. เมื่อทั้งสองท่านไปถึงภูเขาซูรก็ได้เข้าไปภายในถ้ำ เมื่อท่านเข้าไป แมงมุมก็ได้สร้างยักไย่ ที่ปากถ้ำ และเมื่อพวกกุเรซ ซึ่งกำลังตามล่าหมายสังหารท่านศาสดา ไปถึงถ้ำแห่งนั้น ก็คิดว่าศาสดา อาจจะหลบซ่อนตัวอยู่ข้างใน แต่เมื่อได้เห็นแมงมุมและยักไย่เต็มไปหมดที่หน้าปากถ้ำ ก็คิดว่า ไม่มีใครเข้าไปข้างในแน่นอน เพราะหากเข้าไปยักใย่เหล่านั้นก็จะขาดไปหมด
จากเหตุการณ์นี้ เราเข้าใจว่าแมงมุมมีบทบาทสำคัญ ถือเป็นแมลงที่มีคุณค่า เพราะได้ช่วยปกป้องชีวิตศาสดา และอาบูบักร ในบางประเทศ เมื่อมีกิจกรรมต้อนรับฮิจเราะห์ ก็จะใช้แมงมุมเป็นสัญลักษณ์
ท่านรู้หรือไม่ว่า ในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อท่านศาสดา ล้วนเป็นเรื่องราวหรือกรณีศึกษาที่สามารถ นำมาใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ยิ่งเทคโนโลยี่ก้าวหน้ามากเพียงใด เรายิ่งสามารถใช้ทุกเรื่องเหล่านั้นเป็นประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าเสียดาย ก็คือสิ่งที่เรารู้ เราก็จบแค่เพียงให้ได้รู้ หรือนำไปพูดต่อ ถกเถียงกันตามความถนัด โดยไม่ได้คิดถึงการนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นประโยชน์และสร้างคุณค่าอันจะเป็นผลดีต่อสังคมอิสลามโดยรวม
ท่านเชื่อหรือไม่ว่า จากบทบาทของแมงมุมในการปกป้องชีวิตศาสดา วันนี้ ได้มีนักวิทยาศาสตร์ตะวันตก ได้คิดค้นและสร้างระบบต้านทานโดยใช้จากน้ำลายของแมงมุม ซึ่งจะมีความคงทนยิ่งไปกว่าเหล็กกล้าเสียอีก
จากการทดลองทำเสื้อเกราะที่ทำจากน้ำลายของแมงมุมชนิดหนึ่ง นอกจากน้ำหนักจะเบากว่ามากแล้ว ปรากฏว่ามีแรงต้านทานมากยิ่งไปกว่าเหล็กกล้า
และจากผลสำเร็จของการคิดค้นครั้งนี้ ก็ได้เกิดโครงการขนาดใหญ่ (เมกาโปรเจคต์) ในประเทศตะวันตก โดยเป็นการเพาะเลี้ยงแมงมุมอย่างจริงจัง เพื่อเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ และเราเชื่อว่าจะมีงานวิจัยอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับแมงมุมและการใช้ประโยชน์สำหรับชีวิตมนุษย์
อะไรเป็นข้อแตกต่างระหว่าง คนในแถบตะวันตกซึ่งส่วนใหญ่ไม่ไช่มุสลิม กับมุสลิมเองโดยเฉพาะผู้ที่ได้เรียนรู้และศึกษาศาสนา ศึกษาประวัติของท่านศาสดา เราได้ใช้ประโยชน์จากการศึกษานั้นมากน้อยแค่ไหน ?
เราได้สร้างผลผลิตจากการศึกษาในเรื่องนั้น ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในทางศาสนาและสังคมอย่างไร ? เมื่อเทียบกับผู้อื่นในภูมิภาคอื่น ซึ่งเขาไม่ได้มีความศรัทธาในอิสลามเหมือนกับเรา
นักวิทยาศาสตร์จากตะวันตกได้ศึกษาจากแหล่งข้อมูลของอิสลาม และได้สร้างนัวตกรรมใหม่ๆ ที่มีคุณค่าต่อชีวิตมนุษย์ แต่เราศึกษาอิสลาม เราได้สร้างอะไรให้เกิดขึ้นจากการศึกษานั้นหรือไม่ ? และระหว่างเรากับเขา ใครที่สามารถเข้าถึงการศึกษาอิสลามได้อย่างแท้จริง ?
#แมงมุมแม่หม้ายดำและความอัศจรรย์แห่งอัลกุรอาน
หากมีคนบอกท่านผู้อ่านว่า มีหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมีอายุกว่า 1,400 ปี ได้บอกคุณลักษณะของวงจรชีวิตของแมงมุมว่า รังของแมงมุมคือรังที่บอบบางที่สุด และครอบครัวของแมงมุมคือต้นแบบครอบครัวที่มีความแตกแยกที่สุด เพราะต้องศิโรราบภายใต้อำนาจของตัวเมียอย่างเบ็ดเสร็จ ท่านผู้อ่านจะคิดเช่นไร
ลองไตร่ตรองพจนารถของพระผู้ทรงสร้าง ในซูเราะฮฺ อัลอันกะบูต อายะฮฺที่ 41 พระองค์ตรัสว่า
ความว่า อุปมาบรรดาผู้ที่ยึดเอาอื่นจากอัลลอฮฺเป็นผู้คุ้มครอง อุปไมยดั่งแมงมุมที่ชักใยทำรัง และแท้จริงรังที่บอบบางที่สุดคือรังของแมงมุม หากพวกเขารู้
อัลลอฮฺได้อุปมาบรรดาผู้ที่ยึดเอารูปปั้น เจว็ดหรือสิ่งอื่นเป็นที่เคารพบูชาที่นอกจากอัลลอฮฺ โดยมีความเชื่อมั่นและความหวังว่าสิ่งบูชาเหล่านั้น จะให้คุณและให้โทษแก่พวกเขา อุปไมยดั่งแมงมุมที่ชักใยทำรัง โดยที่รังนั้นไม่สามารถให้ความคุ้มกันจากความร้อนและความหนาวและจากฝน ตลอดจนภยันตรายใด ๆ แก่มันเลย
ความเหมือนกันของการอุปมานี้คือ
1) ทั้ง ๆ ที่แมงมุม สามารถสร้างรังที่แข็งแรงที่สุดจากใยของมัน แต่กลับสร้างรังจากเส้นใยที่บอบบางที่สุด ซึ่งเปรียบเสมือนคนที่ยึดเอาสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺเป็นสิ่งบูชา ทั้ง ๆ ที่เขาสามารถยึดมั่นต่ออัลลอฮฺผู้ทรงเดชานุภาพ โดยที่ใยแมงมุมและสิ่งบูชานอกจากอัลลอฮฺนั้นไม่สามารถป้องกันจากภยันตรายแม้แต่น้อย
และ 2) ความสัมพันธ์อันแตกร้าวในบ้านของแมงมุมมีความรุนแรงฉันใด ความสัมพันธ์ในครอบครัวของผู้ตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺก็จะรุนแรงอำมหิตฉันนั้น เป็นความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยการหลอกลวง ไม่มีความจริงใจ ช่วงชิงผลประโยชน์ และขาดความรักอันบริสุทธิ์ เมื่อทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจปรารถนา ความอาฆาตพยาบาทก็จะมาแทนที่ และมักจะลงเอยด้วยฆาตกรรม แม้สมาชิกในครอบครัวเดียวกันก็ไม่ละเว้น ดังที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ แทบทุกวัน
แต่ความอัศจรรย์ของโองการอัลกุรอานบทนี้ ไม่ใช่มีเพียงเท่านี้
ผู้ที่เรียนภาษาอาหรับเบื้องต้น จะทราบทันทีว่า แมงมุม ที่ปรากฏในอัลกุรอานนี้ เป็นตัวเมีย เพราะคำว่า ????? ซึ่งเป็นกริยามีเครื่องหมายที่ยืนยันว่าประธานต้องเป็นเพศหญิงเท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบันเพิ่งค้นพบว่าแมงมุมตัวเมียเท่านั้นที่สามารถผลิตใยได้ และถือว่าเป็นการค้นพบสิ่งลึกลับที่น่าทึ่งที่สุด ทั้ง ๆ ที่อัลกุรอานได้เปิดเผยสัจธรรมนี้มาเป็นเวลานานกว่า 14 ศตวรรษแล้ว และเป็นที่รับรู้โดยทั่วกัน แม้กระทั่งผู้เรียนภาษาอาหรับเบื้องต้นก็ตาม
ทั้ง ๆ ที่ นบีมูฮัมมัด ไม่ใช่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแมงมุม และวิทยาการสมัยนั้นหรือก่อนหน้านั้นไม่น่าจะก้าวหน้าจนสามารถวิจัยเรื่องแมงมุมหรือมีการบันทึกในรายงานวิจัยเกี่ยวกับศาสตร์อันลี้ลับนี้เลย
ไม่ปรากฏในคัมภีร์ศาสนาเล่มใดก่อนหน้านี้ที่พูดถึงเรื่องแมงมุม หรือถ้ามี นบีมูฮัมมัดก็ไม่สามารถสืบค้นจากคัมภีร์ดังกล่าวได้ เพราะเป็นที่ทราบดีว่า นบีมูฮัมมัดเป็นคนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
เป็นไปได้หรือที่อัลกุรอาน เป็นหนังสือที่คิดค้นโดยนบีมูฮัมมัด หรือเป็นคำพูดอันเพ้อเจ้อของ นบีมูฮัมมัด ตามคำใส่ไคล้ของบรรดาผู้ไม่หวังดี
มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮฺ ผู้ทรงสร้างแมงมุม และทรงเปิดเผยความอัศจรรย์ของแมงมุมในคัมภีร์ของพระองค์
แมงมุมคือสัญญาณของอัลลอฮฺที่เป็นอลายลักษณ์ ในขณะที่อัลกุรอานคือสัญญาณของอัลลอฮฺที่เป็นลายลักษณ์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง
แมงมุมคือสัญญาณของอัลลอฮฺที่เป็นปรากฏการณ์ ในขณะที่ อัลกุรอานเป็นสัญญาณของอัลลอฮฺที่เป็นหลักการ ซึ่งทั้งสองสัญญาณนี้จะไม่มีวันขัดแย้งกัน เพราะทั้งสองมาจากแหล่งเดียวกันคือ อัลลอฮฺ ผู้ทรงปรีชาญาณ
ที่สำคัญ การอุปมาครั้งนี้ น่าจะเป็นบทเรียนอันล้ำค่าแก่มนุษย์ และเป็นสิ่งย้ำเตือนสำหรับผู้ที่ตั้งภาคีกับอัลลอฮฺ ที่ยึดเอาสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺมาเป็นสิ่งเคารพบูชา เขาจะไม่มีวันพบกับความสุขที่แท้จริง และความโกลาหลวุ่นวายจะเกิดขึ้นในครอบครัวของเขาเป็นแน่แท้ หากเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตเยี่ยงแมงมุม จงไตร่ตรองเถิด โอ้ บรรดาผู้เรืองปัญญาทั้งหลาย