ซัมซัม คือ บ่อน้ำในกรุงมักกะฮฺ ที่มุสลิมเราทุกๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเวลามีผู้ไปทำฮัจญ์กลับมา มักจะนำน้ำซัมซัมมาให้เราดื่มกันเสมอ นัยว่าเพื่อเป็นสิริมงคล
มหัศจรรย์ บ่อน้ำซัมซัม จากสวรรค์ที่คุณจะอึ้ง!
ซัมซัม คือ บ่อน้ำในกรุงมักกะฮฺ ที่มุสลิมเราทุกๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเวลามีผู้ไปทำฮัจญ์กลับมา มักจะนำน้ำซัมซัมมาให้เราดื่มกันเสมอ นัยว่าเพื่อเป็นสิริมงคล
ส่วนมากมักจะทราบกันดีแล้วว่า น้ำซัมซัม คือน้ำจากตาน้ำใต้ดิน เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยท่านศาสดาอิบรอฮีม เมื่อพระนางฮะญัรฺ ซึ่งอยู่ในทะเลทรายเพียงลำพังกับท่านศาสดาอิสมาอีล และกำลังอยู่ในภาวะขาดน้ำเป็นอย่างยิ่ง จนต้องวิ่งไปมาระหว่างภูเขาซอฟา กับมัรวะฮฺเพื่อหาน้ำถึงเจ็ดเที่ยว กว่าพระผู้เป็นเจ้าจะประทานน้ำจากตาน้ำให้ผุดขึ้นมาบริเวณปลายเท้าของท่านศาสดาอิสมาอีลที่กำลังเป็นทารกอยู่ และนั่นคือกำเนิดของน้ำซัมซัม เมื่อประมาณสองพันปีก่อนคริสต์ศักราช
นั่นคือ ความมหัศจรรย์สิ่งแรกของน้ำซัมซัมนี้ แต่ที่น่าประหลาดมหัศจรรย์ตามมานั่นก็คือหลังจากนั้นแล้ว น้ำจากตาน้ำแห่งนี้ก็ไม่เคยเหือดแห้งอีกเลย ทั้งๆ ที่มันถูกใช้ในการอุปโภค บริโภค โดยคนมักกะฮฺล้านหกแสนคนทุกวัน ร่วมกับผู้แสวงบุญ ประมาณสี่ล้านคนต่อปีในช่วงเทศกาลฮัจญ์ แต่บ่อน้ำเล็กๆ นี้ก็ยังสามารถให้น้ำแก่คนเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน ไม่เคยขาดตกบกพร่องไปแต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องรู้ก่อนว่า แคลเซียมในปริมาณมากๆ นั้นอาจจะตกตะกอนทำให้เกิดเป็นนิ่วได้ ดังนั้น ก็ควรดื่มแต่พอสมควร อย่าดื่มมากจนเกินไปคือไม่ควรเกินสองลิตรต่อวัน ถ้าอากาศไม่แห้งมาก และถ้าน้ำนั้นมีกลิ่นรุนแรงจากสารธาตุต่างๆ มากเกินไป ก็อย่าเพิ่งดื่ม ควรจะรอให้กลิ่นต่างๆ เหล่านั้นระเหยไปให้หมดก่อน น่าจะเป็นการดีกว่า
ภาพเก่าบ่อน้ำซัมซัม
เมื่อปี ค.ศ. 1971 ได้มีแพทย์ชาวอียิปต์ท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นมุสลิมหรือเปล่า ได้เขียนบทความเผยแพร่ว่า น้ำซัมซัมนั้น มีความเสี่ยงที่จะเป็นบ่อเกิดแห่งเชื้อโรคต่างๆ โดยอ้างว่า เพราะบ่อน้ำนี้มีแหล่งกำเนิดที่บริเวณกะอฺบะฮฺ ซึ่งเป็นที่ลุ่มภายในหุบเขาที่ลุ่มเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของเมือง อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล และยังอยู่ใจกลางของเมืองมักกะฮฺด้วย ดังนั้น จึงน่าจะเป็นแหล่งที่น้ำเสียต่างๆ วิ่งไปรวมกัน ก่อให้เกิดเป็นแหล่งน้ำซัมซัมขึ้นมา
เรื่องนี้เมื่อทราบถึงกษัตริย์มักกะฮฺในสมัยนั้นคือ กษัตริย์ฟัยซอล พระองค์ทรงพิโรธ ผู้เขียนบทความนี้เป็นอย่างยิ่งมาก และได้สั่งให้มีการสำรวจบ่อน้ำซัมซัม และให้มีการตรวจทางวิทยาศาสตร์ยืนยันทันทีว่ามีส่วนผสมที่อันตรายต่อร่างกายอยู่หรือไม่และสามารถใช้ในการอุปโภคบริโภคได้อย่างปลอดภัยจริงหรือไม่ โดยส่งน้ำไปตรวจยังประเทศยุโรปเพื่อเป็นการยืนยัน และให้กระทรวงทรัพยากรน้ำเป็นผู้สำรวจ
คณะสำรวจได้ทำการสำรวจบ่อซัมซัมทั้งหมด โดยลงไปถึงก้นบ่อที่มีความลึก 30 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-3 เมตร มีระดับน้ำในบ่ออยู่ประมาณ 3 เมตรจากผิวบ่อ ได้มีการค้นจนทั่วบ่อ แต่ไม่พบท่อใดๆ ที่ต่อเข้ามาในบ่อ เป็นเครื่องชี้ว่า ไม่มีการนำน้ำอื่นๆ เข้ามาในบ่อได้อย่างเด็ดขาด แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่พบรอยแตกรั่วของพื้นก้นบ่อ ที่จะแสดงว่า น้ำไหลออกมาจากที่ใด และเมื่อมีการสูบน้ำด้วยเครื่องสูบอย่างแรง กลับพบว่า มีน้ำซึมปุดๆ ออกมาจากพื้นก้นบ่อในทุกๆ ที่อย่างเท่าเทียมกัน เมื่อสูบน้ำเป็นปริมาณ 8,000 ลิตรต่อวินาที เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเต็ม ปรากฏว่า ระดับน้ำได้บ่อ ลดลงจาก 3 เมตร เป็น 13 เมตร หลังจากน้ำระดับน้ำก็ไม่ลดลงอีก และเมื่อหยุดสูบ น้ำก็กลับเพิ่มเต็มขึ้นจนถึงระดับเดิมคือ 3 เมตรจากผิวบ่อ ภายในเวลา 11 นาที และพบว่า น้ำนี้เป็นบ่อใหญ่มาจากชั้นหินอุ้มน้ำของน้ำชั้นน้ำใต้ดิน ที่อยู่ใต้เมืองมักกะฮฺ เรียกว่า วาดี อิบรอฮีม
ผลการตรวจสภาพน้ำพบว่า มีสภาพสะอาด มีส่วนประกอบของแคลเซียม และแมกนีเซียม มากกว่าน้ำปกติ แต่ที่สำคัญคือ มีฟลูออไรด์ในปริมาณมากพอ จนมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคได้ ดังนั้น น้ำซัมซัมจึงมีความสะอาด สามารถที่จะบริโภคได้อย่างปลอดภัย การตรวจสอบครั้งนี้ จึงสามารถลบข้อกล่าวหาเรื่องน้ำไม่สะอาดได้อย่างหมดจดที่สุด
ความประเสริฐของน้ำซัมซัม
มีฮาดิษรายงานว่า
ماء زمزم لما شرب به رواه عن جابر ابن أبي شيبة وأحمد وابن ماجه والبيهقي في السنن الكبرى وعن ابن عمرو البيهقي في الشعب
ความว่า น้ำซัมซัมดื่มเพื่อสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้น
خير ماء على وجه الأرض ماء زمزم : فيه طعام من الطعم، وشفاء من السقم رواه الطبراني قال الهيثمي : رجاله ثقات وصححه ابن حبان
ความว่า น้ำที่ดีที่สุดบนผืนแผ่นดินคือ น้ำซัมซัม เพราะมีสารอาหารและยารักษาโรค
ฮูกุ่มการใช้น้ำซัมซัม
เพื่ออาบน้ำละหมาดหรืออาบน้ำ เป็นที่อนุญาต ไม่มักรุฮ แต่ถ้านำไปล้างนาญิสถือว่าคีลาฟุลเอาลา ไม่ถึงกับมักรุฮ เพราะมีรายงานในฮาดิษมุสลิมว่า อบูซัรเคยใช้น้ำซัมซัมล้างแผลที่ชาวกูเร็ชตบตีเขา เช่นกันอัสมาเคยใช้น้ำซัมซัมอาบน้ำมายัตบุตรของนาง อับดุลเลาะห์ อิบนุ ซูเบ็ร ต่อหน้าบรรดาศอฮาบัต โดยที่ไม่มีใครคัดค้าน
ระเบียบการดื่มน้ำซัมซัม ( จากหนังสือ حاشية الجمل على المنهج)
หนึ่ง : หันหน้ากิบลัต
สอง : นั่งเสมือนกับดื่มน้ำทั่วไป
ส่วนที่มีรายงานว่านบีดื่มน้ำซัมซัมขณะยืนอยู่นั้น เช่นรีวายัต ที่มีว่า
عَنْ ابْنِ عَبَّاسٍ قَالَ شَرِبَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَائِمًا مِنْ زَمْزَمَ رواه البخاري وَعَنْ اِبْن عَبَّاس : سَقَيْت رَسُول اللَّه صَلَّى اللَّه عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مِنْ زَمْزَم فَشَرِبَ وَهُوَ قَائِم رواه مسلم
เป็นเพียงแค่จะสื่อว่าดื่มพลางยืนนั้นไม่ถึงขนาดฮาราม ไม่ใช่จะสื่อว่าการยืนนั้นเป็นสูนัต ตามการอธิบายของอีหม่ามนาวาวีและอิบนีฮาญัร ( ชาร็อฮมุสลิม / ฟัตฮุลบารี )
สาม : เนียตสิ่งที่เราต้องการเพื่อตัวเองหรือคนอื่น ดุอาอฺของอิบนูอับบาสเมื่อจะดื่มน้ำซัมซัม คือ
اللهم إني أسألك علما نافعا ورزقا واسعا وشفاء من كل داء
ความว่า : โอ้ อัลเลาะห์ ข้าขอจากพระองค์จงประทานวิทยปัญญาที่ให้ประโยชน์ ปัจจัยยังชีพอันกว้างขวาง และยาบำบัดทุกๆโรค
สี่ : อ่านบิสมิลละห์ เบาๆ
ห้า : พักหายใจ 3 ครั้ง
หก : ดื่มให้อิ่มแปล้
آية ما بيننا وبين المنافقين أنهم لا يتضلعون من ماء زمزم رواه ابن ماجه وقال ابن حجر حديث حسن
ความว่า : ข้อแตกต่างระหว่างเรากับกลุ่มมูนาฟิก คือ พวกเขาจะไม่ดื่มน้ำซัมซัมให้อิ่มแปล้
เจ็ด : ไม่หายใจรดน้ำซัมซัม
แปด : นำกลับไปภูมิลำเนาด้วย
ข้อมูลอันน่าอัศจรรย์ บ่อน้ำซัมซัม
ระดับ น้ำซัมซัมอยู่ที่ประมาณ 10.6 ฟุตลงไปข้างล่างจากผิวดิน มันคือปาฏิหาริย์แห่งอัลลอฮฺซึ่งเมื่อน้ำซัมซัมถูกสูบอย่างต่อเนื่องมา นานกว่า 24 ชั่วโมง ด้วยอัตราการสูบ 8,000 ลิตรต่อวินาทีระดับน้ำยุบลงไปเกือบ 44 ฟุตใต้พื้นดิน
แต่เมื่อหยุดสูบระดับน้ำจะสูงขึ้นทันที 13 ฟุตอีกครั้งหลังจากเวลา 11 นาที
8,000 ลิตร ต่อ วินาที แสดงว่า
8,000 x 60 = 480,000 ลิตรต่อนาที
480,000 ลิตรต่อนาทีหมายความว่า
480,000 x 60 = 28.8 ล้านลิตรต่อชั่วโมง
28.8 ล้านลิตรต่อชั่วโมงก็หมายความว่า
28,800,000 x 24 = 691.2 ล้านลิตรต่อวัน
ดังนั้นพวกเขาจึงสูบน้ำซัมซัม 690 ล้านลิตรใน 24 ชั่วโมง แต่มันกลับเพิ่มขึ้นมาใหม่ภายใน เวลา11 นาทีเท่านั้น
มี 2 สิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์ตรงนี้ คือ สิ่งแรกนั้นคือน้ำซัมซัมถูกเติมให้เต็มทันทีและสิ่งที่สองก็คืออัลลอฮฺทรง ควบคุมชั้นหินอุ้มน้ำอันทรงประสิทธิภาพพิเศษนี้ไว้เพื่อไม่ให้น้ำซัมซัมอัน พิเศษนี้พุ่งล้นออกมาจากบ่อ มิฉะนั้นโลกจะจม
มันคือคำแปลของคำว่า ซัมซัม ซึ่งหมายถึง หยุด!!!! หยุด!!!! ซึ่งถูกกล่าวโดยพระนางฮาญัร อลัยฮัสสลาม
ซี มาม เป็นคำภาษาอาหรับ มันคือเชือก / สายบังเหียนที่ติดกับบังเหียนหรือที่รัดปาก(เช่น ม้า) และมันถูกใช้ / ดึงให้หยุดสัตว์ที่กำลังวิ่ง
น้ำซัมซัมไม่มีสีหรือกลิ่น แต่มันก็มีรสชาติเฉพาะตัว... !
ดังนั้น น้ำซัมซัมจึงเป็นน้ำที่มีความบารอกะฮฺ(มีศิริมงคล) และเป็นตัวอย่างของน้ำสะอาด ไร้สิ่งปนเปื้อนที่มาจากน้ำมือของมนุษย์ ในขณะเดียวกัน จะเป็นการเตือนให้เราตระหนักเสมอว่า เราต้องช่วยรักษาแหล่งน้ำสะอาดที่อัลลอฮฺทรงประทานมาให้แก่เรา