มุสลิมบ้างท่านภาคภูมิใจเหลือเกิน ที่เห็นมุสลิมบางคนนำสิ่งของ หรือ เงินธนบัตรมอบหรือใส่ในบาตรที่พระในพุทธศาสนาเดินมาบิณฑบาตร โดยเข้าใจว่า เป็นการบริจาค หรือทำทานเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เมื่อมุสลิมใส่บาตร
มุสลิมบ้างท่านภาคภูมิใจเหลือเกิน ที่เห็นมุสลิมบางคนนำสิ่งของ หรือ เงินธนบัตรมอบหรือใส่ในบาตรที่พระในพุทธศาสนาเดินมาบิณฑบาตร โดยเข้าใจว่า เป็นการบริจาค หรือทำทานเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
แต่ความจริง การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่การบริจาค หรือทำศอดะเกาะฮฺตามหลักบทบัญญัติอิสลาม แต่เป็นการร่วมกันสนับสนุนพิธีกรรมตามความเชื่อของพุทธศาสนาเขา ซึ่งพระสงฆ์ หรือสามเณรถือเป็นตัวแทนของพุทธศาสนา ไม่ใช่ชาวพุทธศาสนาทั่วๆไป ที่เราสามารถช่วยเหลือได้ตามปกติทั่วไป
การบิณฑบาตร เป็นกิจวัตรของพระภิกษุสงฆ์และสามเณรในพระพุทธศาสนา ในการออกเดินถือบาตรรับการถวายภัตตาหารหรือสิ่งของจากชาวบ้านในเวลาเช้า โดยมีความเชื่อว่า การทำบุญตักบาตรนี้ มีมาแต่ครั้งพุทธกาล เมื่อพระพุทธองค์ทรงผนวชใหม่ๆ ยังไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ทรงประทับที่สวนมะม่วง พระองค์เสด็จบิณฑบาตผ่านกรุงราชคฤห์ เมืองหลวงของแคว้นมคธ ชาวเมืองเห็นพระมาบิณฑบาต ก็ชวนกันนำอาหารมาตักบาตรเป็นครั้งแรก นับแต่นั้นมา การตักบาตรจึงถือเป็นประเพณีมาจนบัดนี้ และเมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้ใหม่ๆ ประทับอยู่ที่ควงไม้เกด มีพ่อค้า 2 คน นำข้าวสัตตุก้อน สัตตุผง ซึ่งเป็นเสบียงสำหรับเดินทางเข้าไปถวาย พระพุทธองค์ทรงรับไว้ด้วยบาตร นี่ก็เป็นที่มาของการตักบาตรทางพระพุทธศาสนาด้วยประการหนึ่ง
และชาวพุทธศาสนายังมีความเชื่อว่า การตักบาตรนั้น เป็นการทำบุญประจำวันของชาวพุทธ และชาวพุทธไทยเชื่อว่า การออกบิณฑบาตของพระสงฆ์เป็นการช่วยโปรดสัตว์ที่อยู่ในอบายภูมิ เช่น เปรตวิสัย ให้ได้รับส่วนบุญ ด้วยเหตุผลทางจิรยธรรม ในการทำบุญตักบาตรนั้น
่
1.เป็นการสั่งสมบุญในแต่ละวัน เพราะการสั่งสมเป็นเหตุนำความสุขมาให้
2.เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการทำบุญทำให้จิตใจแจ่มใส เพื่อให้มีกำลังใจที่เข้มแข็ง เพราะผู้ที่ไม่มีบุญเกื้อหนุนอยู่ในใจ ย่อมพ่ายแพ้ต่อบาปได้ง่าย
3.เป็นการทำที่พึ่งคือบุญให้แก่ตนเองในอนาคต
4.เป็นการช่วยรักษาพุทธประเพณี เพราะพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต และที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต ด้วนแต่ดำรงพระชนม์ชีพด้วยอาหารบิณฑบาต
5.เป็นการช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา เพราะพระสงฆ์เป็นผู้ศึกษา ปฏิบัติพระธรรมวินัย แล้วนำมาสั่งสอนให้ประชาชน ได้รับรสแห่งพระธรรมด้วย อีกทั้งยังดำรงตนเป็นตัวอย่างด้านความประพฤติดีงามของสังคม ฉะนั้น ชาวพุทธควรทำบุญตักบาตรเป็นประจำทุกวัน เพื่อเป็นการสั่งสมบุญให้แก่ตนเองที่จะต้องนำไป ดุจเสบียงเดินทาง ในการท่องเที่ยวเวียนเกิดและเวียนตายอยู่ในวัฏฏสงสาร อันไม่ปรากฏ
เบื้องต้นและที่สุด และบุญที่สั่งสมไว้นี้ จะช่วยเกื้อกูลให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้
มื่อการบิณฑบาตรของพระภิกษุสงฆ์และสามเณรในพระพุทธศาสนา และการตักบาตรของชาวพุทธศาสนาเป็นพิธีกรรม ความเชื่อ จึงเป็นเรื่องศาสนา อิสลามกับศาสนาอื่นได้แบ่งแยกกันโดยชัดเจนแล้วว่า ศาสนาใครศาสนามันไม่เกี่ยวข้องกัน ไม่ร่วมสนับสนุนและต่างไม่กล่าวหาใส่กัน อิสลามเป็นศาสนาของเรา ส่วนศาสนาของเขาเราไม่ข้องเกี่ยว อิสลามจึงห้ามเกี่ยวข้องพิธีกรรมของศาสนาอื่นโดยเด็ดขาด แต่สำหรับทางโลกเกี่ยวการช่วยเหลือกันทางสังคมนั้น อิสลามอนุมัติอยู่แล้ว
พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
" لَكُمْ دِينُكُمْ وَلِيَ دِين "
ความว่า "สำหรับพวกท่าน คือศาสนาของพวกท่าน และสำหรับฉัน คือ ศาสนา (ของฉัน)" (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัลกาฟิรูน อายะฮฺที่ 6 )
พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
وَمَن يَبْتَغِ غَيْرَ الإِسْلاَمِ دِيناً فَلَن يُقْبَلَ مِنْهُ
“ผู้ใดแสวงหาอื่นจากอิสลามมาเป็นศาสนา (ของตน) แน่นอนเขาจะไม่ถูกตอบรับ” (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอาลิอิมรอน : 85)
أُمِرْنَا أَنْ نَتْرُكَهُمْ وَمَا يَدِيْنُوْنَ
"เราได้ถูกใช้ให้ทำการปล่อย (ให้เป็นอิสระกับ) พวกเขาและสิ่งที่พวกเขานับถือ"
ดังนั้น การใส่บาตรเป็นพิธกรรมความเชื่อของชาวพุทธสาสนา อิสลามจึงห้ามไปเกี่ยวข้อง หากมุสลิมคนใดได้กระทำไปโดยไม่ทราบว่าขัดกับบทบัญญํติศาสนา ก็หยุดกระทำการดังกล่าวเสีย และหยุดภาคภูมิใจกับการกระทำนั้นเถิด....!!!!!
والله أعلم بالصواب
ที่มา: the-truth-of-islamic.blogspot.com