วันศุกร์...วันพิเศษสำหรับมุสลิม


5,077 ผู้ชม

มนุษย์แต่ละคนจะมีวันสำคัญหรือวันพิเศษของตัวเอง เช่น วันหยุดงาน วันครบรอบวันเกิด วันครบรอบการแต่งงาน เป็นต้น


วันศุกร์...วันพิเศษสำหรับมุสลิม

มนุษย์แต่ละคนจะมีวันสำคัญหรือวันพิเศษของตัวเอง เช่น วันหยุดงาน วันครบรอบวันเกิด วันครบรอบการแต่งงาน เป็นต้น 

ชาติแต่ละชาติก็มีวันสำคัญสำหรับ  คนในชาติเหมือนกัน เช่น วันประกาศเอกราช วันรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เพื่อให้คนในชาติได้รำลึกถึงความสำคัญของเหตุการณ์ในวันนั้นเมื่อครั้งอดีตหรือเห็นความสำคัญของสถาบันประจำชาติ

ศาสนาก็มีวันสำคัญหรือวันพิเศษ  สำหรับศาสนิกของตนเองเช่นกัน วันสำคัญเหล่านี้มีทั้งในแต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือนหรือแต่ละปี เช่น วันสะบาโต สำหรับชาวยิว วันคริสต์มาส วันพระ วันวิสาขะบูชา เป็นต้น เมื่อวันเหล่านี้เวียนมาถึง ศาสนาก็ได้กำหนดพิธีกรรมหรือกิจกรรมไว้ให้ศาสนิกของตนปฏิบัติทำเพื่อที่จะจรรโลงจิตใจและดำรงศาสนาของตนไว้

ดังนั้น ในวันเสาร์ ชาวยิวจะหยุดงานและสวดมนต์ วันอาทิตย์ คริสตศาสนิกจะไปโบสถ์ ส่วนวันสำคัญประจำสัปดาห์ของมุสลิมคือวันศุกร์ ทำไมต้องเป็นวันศุกร์

นบีมุฮัมมัดได้กล่าวว่า ?  วันที่ดีที่สุดที่ดวงอาทิตย์ขึ้นคือวันศุกร์ วันนั้นเป็นวันที่อาดัมถูกสร้าง วันที่ท่านได้ถูกนำเข้าสวรรค์ วันที่ท่านได้ถูกขับออกจากที่นั่น และยามอวสานจะเกิดขึ้นในวันศุกร์?

นบีมุฮัมมัดจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษแก่วันศุกร์เป็นอย่างมาก ท่านมีคำแนะนำต่างๆให้มุสลิมปฏิบัติในวันนั้นและท่านเองก็ได้ปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่าง เช่น ในวันศุกร์ ท่านแนะนำมุสลิมให้อ่านคัมภีร์กุรอานบางบทในการนมาซก่อนรุ่งอรุณ

ทั้งนี้เนื่องจากเนื้อหาของคัมภีร์กุรอานเหล่านั้นมีสาระครอบคลุมกิจการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับวันศุกร์เนื่องจากวันศุกร์เป็นวันที่มุสลิมถูกกำหนดให้ไปฟังเทศนาธรรมและนมาซร่วมกันในตอนบ่ายที่มัสญิด ดังนั้น นบีมุฮัมมัดจึงได้สั่งมุสลิมให้ปฏิบัติตัวเป็นพิเศษในวันนั้น เช่น อาบน้ำชำระล้างร่างกาย แปรงฟัน ประทินน้ำหอม ใส่เสื้อผ้าที่ดีที่สุดและไปมัสญิดแต่เนิ่นๆ เมื่อไปถึงมัสญิดแล้ว ก็ให้นมาซเคารพมัสญิดก่อนจะนั่งลง และหากมีเวลาก็ให้อ่านคัมภีร์กุรอานและกล่าวคำรำลึกถึงพระเจ้าให้มากๆ วันศุกร์ วันแห่งการฟังธรรมสิ่งสำคัญที่ทำให้การนมาซบ่ายวันศุกร์มีความสำคัญและมีความพิเศษกว่าวันอื่นๆก็คือการกล่าวเทศนาธรรมก่อนการนมาซร่วมกัน ขณะที่มีการกล่าวเทศนาธรรมซึ่งโดยปกติแล้วจะทำโดยอิมาม ผู้ที่นั่งอยู่ในมัสญิดจะต้องตั้งใจฟังด้วยความสงบและห้ามพูดคุยกัน หากใครพูดคุยกันระหว่างการเทศนาธรรม การนมาซบ่ายวันศุกร์ของคนผู้นั้นก็ถือเป็นอันโมฆะ

การกล่าวคำเทศนาธรรมจะเริ่มต้นด้วยการสรรเสริญพระเจ้าและการขอพรให้แก่นบีมุฮัมมัด หลังจากนั้นก็จะเป็นการหยิบยกเอาข้อความจากคัมภีร์กุรอานและคำสอนของท่านนบีมุฮัมมัดมาสั่งสอนตักเตือนผู้ฟังให้เกรงกลัวพระเจ้าและดำเนินชีวิตตามคำสอนของศาสนา เสร็จแล้ว ก็จะนมาซร่วมกัน กิจกรรมนมาซบ่ายวันศุกร์ในมัสญิดจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

การไปนมาซวันศุกร์เป็นสัญลักษณ์แห่งความดีงามที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่มุสลิม วันศุกร์จึงเป็นวันที่มุสลิมมีความรู้สึกรื่นเริงยินดีเนื่องจากมีโอกาสที่ได้ไปร่วมนมาซกับผู้ศรัทธาคนอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ ประเทศมุสลิมจะถือเอาวันศุกร์เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์

คำว่า  วันศุกร์ในภาษาอาหรับเรียกว่า ?ญุมุอ๊ะฮ? และคำนี้ได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อบทหนึ่งของคัมภีร์กุรอานด้วย นั่นหมายความว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงให้ความสำคัญเป็นพิเศษแก่วันศุกร์ ในวันนั้น พระองค์ได้ทรงมีคำสั่งให้มุสลิมปฏิบัติดังนี้ :-

?โอ้บรรดาผู้ศรัทธา เมื่อมีการประกาศให้ไปนมาซในวันศุกร์ ดังนั้น สูเจ้าจงรีบเร่งไปสู่การรำลึกถึงอัลลอฮฺและจงทิ้งการค้าขายทั้งหลายเสีย นั่นเป็นการดีกว่าสำหรับสูเจ้า ถ้าหากสูเจ้ารู้ และเมื่อการนมาซเสร็จสิ้นแล้ว สูเจ้าก็จงแยกย้ายกันไปบนหน้าแผ่นดินเพื่อแสวงความโปรดปรานของอัลลอฮฺ และจงรำลึกถึงอัลลอฮฺอย่างสม่ำเสมอเพื่อที่สูเจ้าจะประสบผลสำเร็จ? (กุรอาน 62:9-10) นมาซวันศุกร์ หน้าที่ของมุสลิม

การนมาซวันศุกร์   เป็นหน้าที่สำคัญสำหรับมุสลิมชายทุกคน  และจะขาดเสียมิได้ยกเว้นในกรณีที่จำเป็นจริงๆ ที่สำคัญ  คือ การนมาซวันศุกร์อย่างถูกต้องสมบูรณ์เป็นการชดใช้บาปบางอย่าง มันจะขจัดบาปเล็กๆที่เกิดขึ้นระหว่างการนมาซวันศุกร์ที่แล้วจนถึงนมาซวันศุกร์ครั้งหลังสุด การนมาซวันศุกร์มีความสำคัญแค่ไหนนั้นจะเห็นได้จากการที่นบีมุฮัมมัดเคยพูดเปรียบเปรยเป็นเชิงขู่ว่าจะเผาบ้านของคนที่ไม่ไปนมาซวันศุกร์ ท่านกล่าวว่าอัลลอฮฺจะทรงปิดหัวใจของบรรดาผู้มีเจตนาหลีกเลี่ยงการนมาซวันศุกร์และพลาดการนมาซวันศุกร์สามครั้งต่อเนื่องกันโดยไม่มีเหตุผลสมควร

ผู้หญิง เด็ก คนเดินทางและคนป่วยไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมนมาซวันศุกร์ การเดินทางในวันศุกร์เป็นที่อนุญาต แต่ผู้เดินทางควรจะเริ่มต้นการเดินทางก่อนเวลาประกาศให้ไปนมาซวันศุกร์ เว้นเสียแต่ว่ามีความจำเป็นจริงๆ ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณที่ตั้งของมัสญิดจะต้องไปนมาซวันศุกร์ถ้าหากว่ามีความสามารถ แต่ถ้าหากอากาศและสภาพแวดล้อมไม่ดี เช่นมีพายุ น้ำท่วม การนมาซวันศุกร์อาจถูกยกเลิกได้

การไปร่วมนมาซวันศุกร์แต่เนิ่นๆนั้นมีผลบุญอันยิ่งใหญ่เป็นสิ่งตอบแทน กล่าวคือ การออกไปนมาซวันศุกร์แต่เนิ่นๆทำให้คนผู้นั้นได้รับผลบุญตอบแทนในการรอคอยการนมาซ การนั่งรำลึกถึงอัลลอฮ การนมาซสุนัตในระหว่างเวลานั้น การปฏิบัติตัวในวันศุกร์ตามแบบอย่างของนบีมุฮัมมัด

1) อาบน้ำทั่วร่างกายก่อนจะออกไปยังมัสญิด

2) แปรงฟันและใช้น้ำหอมอ่อนๆประทินร่างกาย ขลิบหนวด ถอนขนรักแร้ โกนขนใต้ร่มผ้าและตัดเล็บ

3) ใส่เสื้อผ้าที่สะอาดและประณีตเรียบร้อย ท่านนบีได้กล่าวว่า ?ถ้าหากเป็นไปได้ ก็ควรจะซื้อเสื้อผ้าไว้สองชุดนอกเหนือไปจากชุดทำงานทั้งนี้เพื่อไว้ใส่ในวันศุกร์? คำพูดนี้สำหรับผู้ชาย ส่วนผู้หญิงนั้นไม่ถือเป็นข้อบังคับ ผู้หญิงสามารถไปนมาซวันศุกร์ได้ถ้าหากแต่งตัวปกปิดร่างกายมิดชิดและไม่ใช้น้ำหอม และการไปมัสญิดจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆติดตามมา

4) กล่าวคำรำลึกถึงพระเจ้าให้มากๆและวิงวอนขอพรต่อพระองค์ทั้งก่อนและหลังการนมาซ

5) ทำทานก่อนการนมาซเพราะวันนั้นถือเป็นวันรื่นเริงของคนยากจน 

ข้อห้ามพิเศษในวันศุกร์

1)หลังจากที่ได้มีการประกาศ(อะซาน)ให้คนมานมาซแล้ว การซื้อขายเป็นที่ต้องห้ามจนกว่าการนมาซจะเสร็จสิ้น

2)ห้ามพูดในขณะที่มีการกล่าวคำเทศนาหรือสนใจอยู่กับคำพูดหรือการกระทำใดๆที่ทำให้หันเหความสนใจไปจากการตั้งใจคำเทศนาธรรม

3)ห้ามจัดนมาซวันศุกร์ในสองมัสญิดในท้องถิ่นเดียวกันโดยไม่จำเป็น เมื่อการนมาซวันศุกร์ได้ถูกจัดให้มีขึ้นในท้องถิ่นใดเป็นที่ถูกต้องตามเงื่อนไขแล้ว การนมาซในท้องถิ่นอื่นก็ใช้ไม่ได้ยกเว้นมัสญิดในท้องถิ่นหลักจะไม่เพียงพอสำหรับผู้คนในท้องถิ่นนั้น

บทความจากอาจารย์บรรจง  บินกาซัน  ประธานโครงการอบรมผู้สนใจอิสลาม

อัพเดทล่าสุด