เมื่อมีใครเอ่ยถามถึงจุดประสงค์และเหตุผลสำคัญ ที่พระองค์อัลลอฮฺทรงสร้างญินและมนุษย์ขึ้นมา ก็จะต้องได้ คำตอบว่า เพื่อให้มนุษย์รู้จัก ศรัทธา,ซื่อสัตย์ภักดี, สวามิภักดิ์ต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทำอิบา ดะฮฺความดีต่างๆถวายแด่พระองค์แต่เพียงผู้เดียว ดังที่พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงมีรับสั่งว่า
ทำความดีอย่างไร อัลลอฮฺจึงจะพิจารณาตอบรับ ?
โดย อ.อับดุลลอฮฺ สุไลหมัด
เมื่อมีใครเอ่ยถามถึงจุดประสงค์และเหตุผลสำคัญ ที่พระองค์อัลลอฮฺทรงสร้างญินและมนุษย์ขึ้นมา ก็จะต้องได้ คำตอบว่า เพื่อให้มนุษย์รู้จัก ศรัทธา,ซื่อสัตย์ภักดี, สวามิภักดิ์ต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทำอิบา ดะฮฺความดีต่างๆถวายแด่พระองค์แต่เพียงผู้เดียว ดังที่พระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงมีรับสั่งว่า
وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنْسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ
“และเรามิได้สร้างมนุษย์และญินโดยมีเจตนาอื่นใด นอกจากเพื่อให้มนุษย์และญินนั้นสวามิภักดิ์แก่เรา แต่เพียงผู้เดียว”
ซูเราะฮฺอัซซาริยาต อายะฮฺที่ 56
และหลังจากที่อัลลอฮฺทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา และให้มีอายุไขยืนยาวคนละหลายๆปี เพื่อทดสอบว่ามนุษย์คน ใดและญินคนใดที่จะมีความจง รักภักดีต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มีการทำความดีเพื่อพระองค์อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มากกว่ากัน และในการนี้อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงมีรับสั่งว่า
الَّذِي خَلَقَ الْمَوْتَ وَالْحَيَاةَ لِيَبْلُوَكُمْ أَيُّكُمْ أَحْسَنُ عَمَلًا وَهُوَ الْعَزِيزُ الْغَفُورُ
“พระองค์ผู้ทรงให้มีความตายและความเป็น เพื่อจักทดสอบพวกเจ้า อันคนใดบ้างในหมู่พวกเจ้ามีกุศล กรรม (ผลงาน)ที่ยอดเยี่ยม ดีกว่า”
ซูเราะฮฺอัลมุลกฺ อายะฮฺที่ 2
คำว่า “ ซึ่งแปลว่า “มีกุศลกรรมหรือผลงานที่ดีกว่า” หมายถึง มีการศรัทธา,มีการประพฤติดี,ประพฤติชอบ และทำอิบาดะฮฺเพื่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อย่างดีและถูกต้องสมบูรณ์ ทุกวันนี้มีหลายคนที่หลงสำคัญ ตนเองผิดไปว่าตนเองนั้นดีที่สุด ทำความดีครบทั้งหมด ทำถูกต้องทั้งหมดแล้ว ใครบอกใครเตือนว่าผิด หรือทำ ไม่ถูกก็ไม่ได้ โกรธโมโหตั้งแง่ตั้งงอน ไม่ยอมรับฟังคำบอกคำเตือนใดๆทั้งสิ้น คนประเภท นี้แน่นอนต้องเป็นผู้ ที่อยู่ในสภาพที่ขาดทุนอย่างย่อยยับที่สุด อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงมีรับสั่งว่า
قُلْ هَلْ نُنَبِّئُكُمْ بِالْأَخْسَرِينَ أَعْمَالًا الَّذِينَ ضَلَّ سَعْيُهُمْ فِي الْحَيَاةِ الدُّنْيَا وَهُمْ يَحْسَبُونَ أَنَّهُمْ يُحْسِنُونَ صُنْعًا
“จงกล่าวเถิด เอาไหมเราจะแจ้งให้พวกท่านทราบถึงบรรดาผู้มีผลงานขาดทุนย่อยยับที่สุด คือบรรดา ผู้ที่ผลงานของพวกเขา ที่เคยสร้างสม ไว้ในโลกนี้มีอันต้องมลายสูญสิ้นไป แต่พวกเขายังเข้าใจผิด อยู่ว่าพวกเขาได้ปฏิบัติความดีไว้ครบสมบูรณ์แล้ว”
ซูเราะฮฺอัลกะฮฺฟิ อายะฮฺที่ 103-104
เป็นที่ทราบกันดีว่า การทำความดีอย่างถูกต้องสมบูรณ์นั้นเป็นเรื่องที่ยาก และการทำความดีให้ได้รับกุศลผล บุญตอบแทนอย่างครบถ้วน สมบรูณ์ โดยไม่ขาดตก บกพร่องเลยนั้นยิ่งยากเย็นยิ่งกว่า และที่ยากไปกว่านั้นก็คือ การเก็บรักษาความดีที่ทำไว้ให้อยู่กับเราตลอดนานเท่านาน เราทุกคนอาจจะทะนงตนและเข้าใจผิดว่า มีความดี เก็บกักตุนไว้มากแล้ว จึงไม่สนใจว่าภายภาคหน้าความดีเหล่านี้นั้นจะอยู่กับเราครบทั้งหมด หรือไม่ ไม่แน่ในโลก หน้าวันอาคิเราะฮฺ ความดีที่เราเคยคิด ว่ามีมากมายเหลือเฟือแล้วนั้น อาจจะกลายเป็นเพียงแค่ธุลีผงที่ล่องลอย อย่างไร้ค่า ก็เป็นได้ เหมือนที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงมีรับสั่งไว้ว่า
وَقَدِمْنَا إِلَى مَا عَمِلُوا مِنْ عَمَلٍ فَجَعَلْنَاهُ هَبَاءً مَنْثُورًا
“และเราได้มุ่งสู่ผลงานที่พวกเขาได้สร้างสมไว้ จากนั้นเราจึงเนรมิตให้มันเป็นเพียงแค่ฝุ่นละอองที่ปลิว ว่อนเท่านั้น”
ซูเราะฮฺอัลฟุรกอน อายะฮฺที่ 23
ตัวอย่างที่น่าจะเป็นคำตอบและข้อสรุปถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงตอบรับการทำ อะมั้ลอิบาดะฮฺ ก็คือกรณีของ ฮาบีลและกอบีล บุตรชายของท่านนาบีอาดัม อะลัยฮิสลาม อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮู วะตะอาลา ทรงเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้ว่า
وَاتْلُ عَلَيْهِمْ نَبَأَ ابْنَيْ آَدَمَ بِالْحَقِّ إِذْ قَرَّبَا قُرْبَانًا فَتُقُبِّلَ مِنْ أَحَدِهِمَا وَلَمْ يُتَقَبَّلْ مِنَ الْآَخَرِ قَالَ لَأَقْتُلَنَّكَ قَالَ إِنَّمَا يَتَقَبَّلُ اللَّهُ مِنَ الْمُتَّقِينَ
“เจ้าจงอ่านข่าวบุตรชายทั้งสองของอาดัมให้พวกเขาฟังตามความเป็นจริงเถิด ขณะที่ทั้งสองทำการ พลีถวาย แล้วสิ่งพลีถวายถูกตอบรับจากหนึ่ง ในสองคนนั้น โดยไม่ถูกตอบรับจากอีกคน ผู้พี่ (กอบีล) จึงสบถว่า แน่นอนข้าจักต้องสังหารเจ้าให้ได้ ฝ่ายผู้น้อง (ฮาบีล) ตอบว่า แท้จริงอัลลอฮฺทรง ตอบรับ จากบรรดาผู้มีความตักวาเท่านั้น”
ซูเราะฮฺอัลมาอิดะฮฺ อายะฮฺที่ 27
จากสารัตถะของโองการที่ระบุว่า อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงพิจารณาตอบรับการทำกุรบานถวายของ ฮาบีลและไม่รับของกอบีล เพราะฮาบีลทำกรุบาน ถวายด้วยความตักวาสำนึกยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮู วะตะอาลา จึงทำให้เราสรุปได้ว่า อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะทรงตอบรับเฉพาะการกระทำ ของผู้มีความ บริสุทธิ์ใจ ทำถูกต้องตรงตามหลักการ ไม่อวดอ้างผลงาน ไม่หวังคำชมเชย หรือสิ่งตอบแทน แลกเปลี่ยน ทำด้วย ความสำรวมและสำนึกแห่ง ความยำเกรงตักวาต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา นักวิชาการหลายท่านได้อธิบาย ตรงกันว่า การตักวาหรือสำนึกแห่งความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา นั้นถือเป็นองค์รวมและเงื่อนไข เบื้องต้นของการตอบรับการกระทำความดี ที่มีด้วยกันอย่างน้อยสองประการ คือ
(1) อิคลาศุนนียะฮฺ มีความบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เพียงผู้เดียว และ
(2) ตัจรีดุลมุตาบะอะฮฺ ถูกต้องตรงตามแบบอย่างที่ศาสนากำหนดไว้ มีนักวิชาการสะลัฟหลายท่านเพิ่มเงื่อนไข อีกหนึงข้อ คือ
(3) ไม่มีการริยาอฺอวดอ้าง ซึ่งเงื่อนไขข้อที่สามนี้ใกล้เคียงหรืออาจเป็นข้อเดียวกันกับข้อแรกก็เป็นได้ แต่เนื่อง จากเป็นประเด็นที่ต้องให้ความ สำคัญอย่างมาก นักวิชาการสะลัฟบางท่านจึงนับแยกเพิ่มเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่ง
และวิธีการตรวจสอบผลงานว่าถูกต้องหรือไม่นั้น ให้ตรวจสอบจากอัลกรุอ่านและซุนนะฮฺ หากอยู่ในวิสัยที่เรา สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง หากเราไม่สามารถ ตรวจสอบได้ด้วยตนเองให้สอบถามจากบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้รู้ที่มีจรรยาบรรณและเป็นที่ยอมรับ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงมีรับสั่งในการนี้ว่า
فَاسْأَلُوا أَهْلَ الذِّكْرِ إِنْ كُنْتُمْ لَا تَعْلَمُونَ
“เมื่อพวกท่านไม่รู้ พวกท่านจงสอบถามจากบรรดาผู้มีความรู้เถิด”
ซูเราะฮฺอันนะหฺลุ อายะฮฺที่ 43
สุดท้ายนี้ขอสรุปสั้นๆว่า การทำความดีให้ได้ดีนั้นเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว แต่การเก็บรักษาความดีที่ทำเอาไว้ให้ อยู่ตลอดไปจนวันตายนั้น เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า คนดีคือดีตรงที่ทำ ดีเพราะทำไม่ใช่ดีเพราะพูด การเอาดีแต่ตรง ที่พูด เขาเรียกว่าดีแต่ปาก หลายคนข้างนอกดูสดใส พูดเรื่องความดีได้สารพัดแต่ข้างในเป็นโพรง เมื่อสัมผัสจาก ภาพลักษณ์ภายนอกดูเมือนจะเป็นคนดี แต่เมื่อตรวจสอบด้วยมาตรฐานศาสนา ทั้งสามประการก็ไม่เหลือส่วน ที่เป็นความดีใดๆเลย
ที่มา: อิสลามตามแบบฉบับ
https://islamhouse.muslimthaipost.com