ประวัติศาสตร์อิสลามในสเปน โดย ดร.อนัส อมาตยกุล
ประวัติศาสตร์อิสลามในสเปน
โดย ดร.อนัส อมาตยกุล
1.หลังการวะฟาตของท่าน นบีมูฮัมหมัด(ซล.) เริ่มเข้าสู่สมัย การแผ่ขยายศาสนาอิสลามโดย คุลาฟาอ์ รอชิดีน หรือ Islamic conquest
2. ราชวงศ์อุมัยยะฮ์ ขยายดินแดนอิสลามไปทางตะวันออกจนครอบคลุม อาฟกานิสตาน ชิดพนมแดนจีน และทางตะวันตกถึงตอนใต้ของฝรั่งเศส
3. จักพรรดิ์ ชาล มาลญ์ สกัดการแผ่ขยายของอิสลาม มุสลิมจึงถอยมาตั้งมั่นในสเปน และอยู่ในดินแดนสเปนราว 800 ปี
4.สเปนกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรววดิ์อิสลาม ราชวงศ์อุมัยยะฮ์ ส่งข้าหลวงไปปกครอง
5. ต่อมาเกิดกบถในอิหร่าน มีการปลุกปั่นให้เกลียดชังราชวงศ์อุมัยยะฮ์ กบถขยายวงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นกองทัพขนาดใหญ่
6.ในที่สุดคอลีฟะฮ์ มัรวาน ที่ 2 แห่งวงศ์อุมัยยะฮ์แพ้แก่กบถ
7. กบถประกาศยกลูกหลานท่านอับบาส ลุงท่าน นบี ศ็อล ขึ้นเป็นคอลีฟะฮ์ ตั้งรสชวงศ์ใหม่เป็น อับบาสิยะฮ์
8.ทำลายกรุงดามัสกัส เมืองหลวงอุมัยยะฮ์ ที่ซีเรีย แล้วย้ายเมืองไป แบกแดด ในอิรัคใกล้พื้นที่มวลชนของตน
9.สังหารเจ้านายในราชวงศ์อุมัยยะฮ์ทั้งหมด แต่มีเจ้าชายอับดุลเราะหมาน หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด พระองค์หนี ไปตามทะเลทรายจนถึงแอฟริกา และหาทางเข้าสู่สเปน เพื่อกอบกู้ราชวงศ์อุมัยยะฮ์
10. เจ้าชายอับดุลเราะหมาน ประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ดินแดนสเปนอย่างผู้มีชัย จึงได้ฉายานามว่า
" อับดุล เราะหมาน อัด ดาคิล หรือ อับดุล เราะหมานผู้เข้าสเปนสำเร็จ"
11. พระองค์ทรงฟื้นฟูการปกครองและการบริหารสเปน ทรงย้ายเมืองหลวงจากเดิม เมืองโตเลโด มาเป็น คอร์โดบา สร้างมัสยิดกลางแห่งคอร์โดบา โดยสถาปัตยกรรมมิฮ์รอบของมัสยิดคอร์โดบา เป็นแรงบันดาลใจของมิฮ์รอบ มัสยิดสเปนโรงเรียนร๊อบบานีย์ เพื่อการท่องจำอัลกุรอาน
12. ราชวงศ์อุมัยยะฮ์ในสเปนรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางการศึกษาในยุโรป มีคอลีฟะฮ์ปกครองสืบต่อกันมาหลายพระองค์ (พึงทราบว่า ยุโรปเคยมีคอลีฟะฮ์ปกครองแล้วหลายพระองค์) อันเป็นหนึ่งในมูลเหตุให้รัฐอิสลามต้องถูกทำลายล้าง
13.ราชวงศ์อุมัยยะฮ์เสื่อมลง และสลายตัว ทำให้จักรวรรดิ์ หรือคิลาฟะฮ์ (Caliphate) แตกออกเป็นรัฐเล็กรัฐน้อยนับสิบรัฐ
13.ราชวงศ์อุมัยยะฮ์เสื่อมลง และสลายตัว ทำให้จักรวรรดิ์ หรือคิลาฟะฮ์ (Caliphate) แตกออกเป็นรัฐเล็กรัฐน้อยนับสิบรัฐ
14.กองทัพตะวันตกจึงทะยอยเข้ายึดทีละรัฐ สภาพเช่นนี้เป็นอยู่ยาวนานเป็นร้อยปี
15.ในระหว่างที่ตะวันตกทะยอยเข้ายึด เจ้ามุสลิมทั้งหลายจึงรวมกันเรียกร้องให้อาณาจักรโมรอคโคโบราณ ช่วงนั้นเป็นสมัย ราชวงศ์ อัลมุรอบีฏูน (al Moravid) ยกพลข้ามทะเลมาช่วย ยับยั้งไม่ให้กองทัพครูเสดรุกคืบลึกเข้ามา
16.จากนั้นราชวงศ์ อัลมุรอบิฏูนล่มสลายลงด้วยการกบถของกลุ่มศาสนากลุ่มใหม่คือเลุม อัลมุวะหิดูน
17. อัลมุวะหิดูน เข้ายึดดินแดนของอัลมุรอบิฏูนทั้งฝั่งแอฟริกา และฝั่งยุโรป (สเปน)
18. คอลีฟะฮ์วงศ์ มุวะฮิดูน ยกพลข้ามไปสเปนและทำลายกองทัพครูเสดหลายครั้ง
19.จนถึงสมรภูมิสุดท้าย คือ อัล อุกอบ ที่คอลีฟะฮ์ มุฮัมมัด แพ้แก่ อัลฟองโซ แห่งสเปน
20.สเปนยึดได้ธงคิลาฟะฮ์ และเก็บรักษาไว้ ทุกปีจะนำมาแห่แหน ฉลองชัย จนทุกวันนี้
21.จากนั้นจึงไม่มีกองทัพจากฝั่งโมรอคโคข้ามมาช่วยมุสลิมในสเปนอีก
อาณาจักรทั้งหลายทะยอยถูกยึดหมด เหลือ อาณาจักรสุดท้ายของวงศ์ นัศรียะฮ์ (Nasrid)
22.เมืองหลวงของอาณาจักรนัศริดคือ เกรนาดา غرناطة
มุญาฮิดีน ทั้งหลายที่แตกพ่ายมาจากล้วนอื่นๆของสเปนมาชุมนุมกันที่อาณาจักรนัศริด ทำให้อาณาจักรนี้ต้านทานครูเสดของสเปนไว้ได้ 200 ปี
23. ในช่วงเวลานั้นอาณาจักรออตโตมานกำลังผงาดขึ้นมา นักรบครูเสดเกรงว่า อิสลามในสเปนจะได้รับการช่วยเหลือจากอิตโตมาน จึงมีมติจากศาสนจักรในทำสงครมครูเสดเบ็ดเสร็จเผด็จศึก ทำลายดินแดนมุสลิม และกวาดล้างอิสลามออกจากยุโรปให้หมด
24.แคว้นอารากอน และ แคว้นกาสตีล รวมเป็นอาณาจักรเดียวกันด้วยการสมรสของกษัตริย์เฟอร์นานโด กับ ราชินีอีซาเบลลา
25.กองทัพครูเสดสเปนปิดล้อมเมืองยาวนานหนึ่งปี จนภายในเมืองหมดสิ้นเสบียงอาหาร ละไม่มีมุสลิมจากส่วนใดของโลกเข้ามาช่วย
26 กษัตริย์อบู อับดุลลอฮ์ จึงยอมแพ้ เซ็นข้อตกลงในวันที่ 1 ม.ค. ปีค.ศ. 1492
27.กองทัพครูเสดประสบความสำเร็จในการกำจัดอิสลามในยุโรป ในวันที่ 1 มกราคม โดยมีคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส รอคอยการรำเรือสเปนไปทำลายเส้นทางการค้าอิสลามทางทะเลอยู่ในกองทัพนี้ด้วย
28.ตามข้อตกลงการยอมแพ้ ระบุว่า กองทัพครูเสดจะเข้าเมืองได้ในวันที่ 2 มกราคม เพื่อให้กษัตริย์อบู อับดุลลอฮ์ เสด็จออกจากเมืองพร้อมพระราชวงศ์ ลี้ภัยไปยังฝั่งโมรอคโคก่อน และให้ปิดประตูเมืองที่พระองค์เสด็จออกไว้ตลอดกาล
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: ดร.อนัส อมาตยกุล