การลูบและจูบกุโบร์นั้นเป็นบิดอะฮฺและเป็นประเพณีของคริสต์
บิดอะฮฺ คือ การปฏิบัติเพิ่มเติมในหลักการศาสนาที่ไม่ได้นำมาจากคัมภีร์อัลกุรอานและซุนนะฮ์ท่านนะบีมุฮัมมัด และคิดว่าการปฏิบัติเช่นนั้นจะได้ผลบุญเท่านั้นเท่านี้โดยไม่มีปรากฏในหลักฐาน
وَقَالَ الْإِمَامُ أَبُو الْحَسَنِ مُحَمَّدُ بْنُ مَرْزُوقٍ الزَّعْفَرَانِيُّ (ت 517 هـ):... وَلَا يَسْتَلِمُ الْقَبْرَ بِيَدِهِ وَلَا يُقَبِّلُهُ، قَالَ: وَعَلَى هَذَا مَضَتْ السُّنَّةُ. قَالَ أَبُو الْحَسَنِ: وَاسْتِلَامُ الْقُبُورِ وَتَقْبِيلُهَا الَّذِي يَفْعَلُهُ الْعَوَامُّ الْآنَ مِنْ الْمُبْتَدَعَاتِ الْمُنْكَرَةِ شَرْعًا يَنْبَغِي تَجَنُّبُ فِعْلِهِ وَيُنْهَى فَاعِلُهُ (المجموع شرح المهذب 5/ 311)
อิหม่ามอบู อัลหะสัน มุฮัมมัด บิน มัรซูก อัซซะอฺฟะรอนีย์ กล่าวว่า "และไม่มีการจับหรือลูบกุโบร์ด้วยมือ และไม่มีการจูบมัน" ท่านกล่าวว่า "และซุนนะห์ได้ดำเนินมาบนการปฏิบัติดังกล่าว"
ท่านกล่าวว่า "การจับลูกกุโบร์และจูบมันตามที่ชาวบ้านหรือบุคคลทั่วไปกระทำในปัจจุบันเป็นอุตริกรรมที่น่ารังเกียจหรือแถูกปฏิเสธด้านหลักชะรีอะฮฺประเภทหนึ่ง ซึ่งควรหลีกเลี่ยงการกระทำดังกล่าวและห้ามปรามผู้กระทำ" (อัลมัจญ์มูอฺ 5/311)
หัมหมัด ญามาลุดดีน อัลกอสิมีย์ กล่าวว่า
وَالْمُسْتَحَبُّ فِي زِيَارَةِ الْقُبُورِ أَنْ يَقِفَ مُسْتَدْبِرَ الْقِبْلَةِ مُسْتَقْبَلًا لِوَجْهِ الْمَيِّتِ ، وَأَنْ يُسَلِّمَ وَلَا يَمْسَحَ الْقَبْرَ وَلَا يَمَسَّهُ وَلَا يُقَبِّلَهُ ، فَإِنَّ ذَلِكَ مِنْ عَادَةِ النَّصَارَى
และสุนัตในการเยี่ยมกุโบร์ ให้เขายืนหันหลังให้กิบลัตและหันหน้าไปทางหน้าของมัยยิต ,ให้เขากล่าวสลาม ,เขาจะไม่ลูบ ,ไม่สัมผัส และไม่จูบมัน เพราะแท้จริง ดังกล่าวนั้น คือ ประเพณีคริสเตียน - เมาอิเซาะตุลมุมินีน อัน เอียะยาอุลูมิดดีน หน้า324 เรื่อง بَيَانُ سَكْرَةِ الْمَوْتِ وَالِاعْتِبَارُ بِالْجَنَائِزِ وَزِيَارَةِ الْقُبُورِ
การลูบ และจูบกุโบร์นั้น เป็นประเพณีคริสเตียน(นะศอรอ) แต่มีคนบางกลุ่มที่อ้างว่า เป็นชาวอะฮลุสซุนนห์วัลญะมาอะห์ของแท้ ส่งเสริมให้ทำ
ที่มา: อะสัน หมัดอะดั้ม