เป็นชาวซาอุฯ ที่อาศัยในกรุงริยาด วันหนึ่งได้เล่าให้กับท่านอิหม่ามฟังว่า
เรื่องจริงเล่าโดย อาจารย์ท่านหนึ่ง ในมหาวิทยาลัยอุมมุลกุรอ มักกะห์ มีชายผู้ศรัทธาคนหนึ่งผู้อยู่ในหนทางของพระองค์ ละหมาดที่มัสยิด 5 เวลา
เป็นชาวซาอุฯ ที่อาศัยในกรุงริยาด วันหนึ่งได้เล่าให้กับท่านอิหม่ามฟังว่า….
ฉันฝันว่า มีคนมาบอกฉันให้ไปหาชายคนหนึ่ง เพื่อพาเขาคนนี้ไปทำอุมเราะห์
ในฝันได้บอกเบอร์โทรศัพท์แก่ฉันด้วย และฝันเช่นนี้ 2 คืนติดต่อกันแล้ว ท่านอิหม่ามจึงบอกว่า ขอให้จำจดฝันนั้น ว่าชื่อของผู้นั้นคือใคร และเบอร์โทรอะไร ชายผู้นั้นจึงกลับบ้าน และอาบน้ำละหมาดเหมือนเช่นที่เคยทำก่อนนอน และเค้าก็ฝันเหมือนเดิม เช้ารุ่งขึ้นจึงจดรายละเอียด และบอกแก่ท่านอิหม่าม หลังละหมาดซุบฮิ อิหม่ามจึงแนะนำให้ลองโทรไปตามเบอร์ที่ฝัน ซุบฮานั้ลลอ !!!
เป็นเบอร์ของชายชื่อเดียวกับในฝัน แต่เค้าตัดสินใจไม่เล่าถึงความฝัน เพียงแต่บอกว่า มีคำสั่งจากเข้านายผู้ใจดี ให้พาท่านไปทำอุมเราะห์ที่นครมักกะห์
ชายดังกล่าวผู้ไร้ศรัทธา จึงหัวเราะด้วยเสียงที่ดัง และกล่าวว่า ฉันเป็นผู้ทำบาปสารพัด ไม่เคยคิดที่จะไปทำอุมเราะห์เลย และฉันไม่มีเวลา ต้องทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด อีกอย่างก็ไม่มีเงินพอที่จะไปด้วย แต่ชายผู้ศรัทธาขอร้องว่า ขอให้ฉันได้พาท่านไป และค่าใช้จ่ายทั้งหมดเจ้านายเป็นคนรับผิดชอบ ชายผู้นั้นจึงยอมไป ด้วยเงื่อนไขว่า ต้องไปเพียงวันเดียว และกลับมาส่งที่บ้าน เมื่อเสร็จอุมเราะห์แล้ว
ชายทั้ง 2 มุ่งหน้าสู่บัยตุ้ลเลาะห์ และทำอุมเราะห์จนลุล่วง อัลฮัมดุลิ้ลลาห์
ชายผู้ไม่ศรัทธาได้ขอให้พาเค้ากลับริยาดไปหาครอบครัว ชายผู้ศรัทธารับปาก แต่ขอให้รออีกสักชั่วโมง จะได้เวลาซุบฮิแล้ว เราจะละหมาดซุบฮิ แล้วเดินทางกลับบ้านกัน และในขณะที่ละหมาดเสร็จ ผู้คนต่างรอให้ชายผู้ไม่ศรัทธา เงยหน้าจากการซูหยูด แต่ก็ไม่มีทีท่าจะเงย ชายศรัทธาจึงจับตัวและพบว่าเค้าเสียชีวิตแล้ว อัลลอฮุอักบัร !!! ชายผู้นี้ เสียชีวิตในขณะละหมาดต่อหน้าบันตุ้ลเลาะห์ บริเวณหลังมะกอมอิบรอฮีม ตรงกับประตูกะบะห์ และเค้าพึ่งทำอุมเราะห์เสร็จสิ้น ชายศรัทธาดำเนินการอาบน้ำศพ และละหมาดญะนาซะห์ ณ มัสยิดฮะรอมมักกะห์ และนำเค้ากลับไปหาครอบครัว ฝังที่ริยาด
เวลาล่วงเลยไป 3 วัน ชายศรัทธาจึงโทรหาครอบครัวของผู้เสียชีวิต เหตุอันใด อาม้าล(การปฎิบัติ) อันใด หรือ สิ่งใดที่เค้าทำเมื่อมีชีวิตอยู่ จึงส่งผลให้พระองค์ตอบรับ ให้เค้าได้ ” ฮุสนุ้ลคอติมะห์ ” วาระสุดท้ายของชีวิตที่ดีงามเช่นนี้ อุละมาอ์ คนผู้รู้ ผู้อยู่ในหลักการ มากมายต่างขอดุอาให้ได้รับฮุสนุ้ลคอติมะห์ แต่กลับเป็นเรื่องยากเสียเหลือเกิน ภรรยาตอบว่า ไม่มีเลย สามีของฉันไว้ผมยาวรุงรัง สูบบุหรี่ ทิ้งละหมาด บางครั้งดื่มเหล้า ไม่สนใจต่อคำสั่งใช้ของพระองค์เลย
แต่มีอย่างหนึ่งที่เค้าทำเป็นประจำ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ข้างห้องของฉัน
มีแม่หม้ายที่สามีเสียชีวิต และลูกๆ เมื่อสามีเสียชีวิตลงนางอายุมาก ไม่สามารถทำงานได้ และฐานะยากจน สามีของฉันทำงาน ขับรถแท๊กซี่ ทุกวันที่กลับจากงาน เค้าจะแบ่งเงินเป็น 2 ส่วน และซื้ออาหาร 2 ชุด ที่เหมือนกัน ชุดหนึ่งเป็นของฉันกับลูก และอีกชุดหนึ่ง เค้าจะเคาะประตูห้องหญิงที่สามีเสียชีวิต และแขวนอาหาร พร้อมเงินครึ่งหนึ่ง เมื่อหญิงหม้ายมาที่ประตู จะพูดว่า ” โอ้ลูกชาย ไปจากประตูเถิด ฉันขอดุอาให้ได้ ” ฮุสนุ้ลคอติมะห์ ” และจึงเปิดประตูมาเอาของ ทุกวัน
หากว่าเรายังคงตกอยู่ในความมืดมัว ขอจงเฝ้าดุอาเตาบะห์ และปฎิบัติดีตามคำสั่งใช้ของพระองค์ ยึดตามแนวปฎิบัติของท่านนบี ซล. ความยิ่งใหญ่ของการ ” ให้ ” เป็นสิ่งที่มนุษย์คาดไม่ถึงต่อการตอบแทน และเราอาจไม่โชคดี ดั่งชายคนนี้ก็เป็นได้ จึงต้องหมั่นทำความดี เพื่อเป็นเสบียงไว้ในอาคิเราะห์
” اللهم إني أسألك لي و لأهلي وللمسلمين و لذرياتنا حسن الخاتمة ” آمين يا رب
อะบูบันดัรมักกาวี่
บทความที่น่าสนใจ: