แม้ผู้ที่ตายชะฮีดจะได้การรับรองสวนสวรรค์ แต่เขาจะยังไม่ได้เข้าสวรรค์ เว้นแต่เขาจะชำระหนี้สิน หรือสิ่งที่เป็นสิทธิ์ของลูกหลานอาดัมเสียก่อน หากเขาไม่ชำระไม่สะสางในดุนยา...
ผู้ที่ตายชะฮีดแต่..มีหนี้สิน
قَالَ رَسُولُ اللهِ صَلَّى اللهِ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : " يُغْفَرُ لِلشَّهِيْدِ كُلُّ ذَنْبٍ إِلَّا الدَّيْنَ " وراه مسلم
ท่านรอซูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า : “ ผู้ที่ตายชะฮีดจะได้รับการอภัยโทษสำหรับบาปทั้งหมด เว้นแต่หนี้สิน “ [ รายงานโดยมุสลิม ]
แม้ผู้ที่ตายชะฮีดจะได้การรับรองสวนสวรรค์ แต่เขาจะยังไม่ได้เข้าสวรรค์ เว้นแต่เขาจะชำระหนี้สิน หรือสิ่งที่เป็นสิทธิ์ของลูกหลานอาดัมเสียก่อน หากเขาไม่ชำระไม่สะสางในดุนยา เขาจะต้องชำระสะสางมันในวันอาคิเราะห์
ดังนั้น ไม่สมควรที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำเป็นเล่น ๆ กับการเป็นหนี้ แม้ว่าเราจะกลับเนื้อกลับตัวต่ออัลลอฮฺ และพระองค์ก็ทรงอภัยให้กับบาปของเรา แต่เราจะไม่ได้รับการอภัยในสิ่งที่เป็นสิทธิ์ของลูกหลานอาดัม
ที่มา: ซุนนะฮ์
- กักตัวในบ้านเมื่อเกิดโรคระบาด ผลบุญเสมือนผู้ตายชะฮีด
- หนี้สินกับอิสลาม หากไม่ใช้หนี้ ระวัง..ไม่ได้เข้าสวรรค์!
- ดุอาอฺความตาย สำหรับคนเป็นต้องอ่าน
ลักษณะของการตายชะฮีด
มีรายงานจากท่านอุบาดะฮฺ อิบนิซ ซอมิต ว่า ท่านรอซูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้กล่าวว่า "ใครคือผู้ตายชะฮีดในความคิดของพวกท่าน บรรดาซอฮาบะฮ์ตอบว่า "ผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตาลา" ท่านรสูล กล่าว่า "ถ้าเช่นนั้นผู้ที่ตายชะฮีดในประชาชาติของฉันก็คงน้อยนัก (หาใช่เช่นนั้น) หากแต่ผู้ที่ถูกฆ่าในสนาบรบเพื่อหนทางของอัลลอฮ์คือชะฮีด ผู้ที่ตายด้วยโรคระบาด (กาฬโรค) เป็นชาฮีด ผู้ที่ตายด้วยโรคท้องร่วงเป็นชาฮีด และสตรีที่ชีวิตขระคลอดบุตรก็เป็นชาฮีดเช่นกัน"
(บันทึกหะดิษโดยอิหม่ามอะหมัด อิบนุมาญะฮฺ และอิบนุฮิบบาน)
ท่านรสูลุลลอฮฺ กล่าวว่า :
ความว่า "บรรดาผู้ตายชะฮีดมีประเภท (1) ตายเนื่องจากโรคระบาด (2) ตายเนื่องจากโรคในท้อง (เช่นโรคท้องร่วง,แท้งลูกตาย), (3) จมน้ำตาย (4) ถูกสิ่งหนึ่งล้มทับตาย (เช่น บ้านล้มทับตาย,ตึกถล่ม เป็นต้น), (5) ผู้ที่ตายในหนทางของอัลลอฮฺ" (บันทึกโดยติรฺมิซีย์ หะดีษที่ 983)
ชะฮีด เป็นคำนามเอกพจน์ มีรูปพหูพจน์ว่า ชุฮะดาอฺ นักวิชาการมีความเห็นต่างกันถึงสาเหตุในการเรียกผู้เสียชีวิตในกรณีเฉพาะว่า “ชะฮีด” อัลอัซฮะรีย์กล่าวว่า : ที่เรียกอย่างนี้เป็นเพราะพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) และร่อซู้ล (ศ้อลลอฮฺฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) ได้ยืนยันแก่ผู้นั้นด้วยสวนสวรรค์
ลักษณะของการตายชะฮีดนั้นมีมากมาย กล่าวคือ หากเขาตายในสนามรบ เขาก็อยู่ในลักษณะของผู้ที่ตายชะฮีด ไม่ต้องทำการอาบน้ำ ไม่ต้องทำการละหมาด ให้ฝังพร้อมกับเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่ได้เลย โดยนำเอาอาวุธ เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้เพื่อการสงครามออกเสียก่อน
ส่วนผู้ตายชาฮีดที่ไม่ได้ตายในสนามรบ เช่นบาดเจ็บจากสนามรบ และมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หรือถูกกดขี่ขมเหงจนกระทั้งเสียชีวิต หรือสาเหตุการตายอื่นๆที่ไม่ได้เกี่ยวพันกับสนามรบ จมน้ำตาย อุบัติเหตุรถชน เครื่องบินตก ตึกถล่ม ตายเนื่องจากโรคระบาด ตายเนื่องจากโรคในท้อง หรือสตรีที่ตายขณะคลอดบุตร
บุคคลที่เสียชีวิตเหล่านี้จะต้องทำการอาบน้ำมัยยิต กะฝั่น และการทำละหมาดให้
ดังที่มีการอาบน้ำ กะฝั่น ให้แก่ท่านอุมัร ท่านอุสมาน ท่านอาลี ท่านซะอด์ บิน มุอ๊าซ รอฎียัลลอฮุอันฮุม
ประเภทของผู้เสียชีวิตแบบชะฮีด
นักวิชาการได้แบ่งประเภทของผู้เสียชีวิตแบบชะฮีดออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1 ชะฮีดในข้อชี้ขาดของโลกนี้และโลกหน้า คือ ผู้ตายชะฮีดในสมรภูมิ (เพื่อปกป้องและเชิดชูธงชัยแห่งศาสนาอิสลามให้สูงส่ง) ข้อชี้ขาดของโลกนี้คือ ไม่มีการอาบน้ำศพ และไม่มี การละหมาดให้ตามทัศนะของปวงปราชญ์ (ญุมฮูรุ้ลอุละมาอฺ) และข้อชี้ขาดของโลกหน้านั้น คือ ผู้ตายชะฮีดนั้นจะได้รับผลานิสงค์เป็นกรณีพิเศษ ถือเป็นผู้ตายชะฮีดที่ได้รับภาคผลของการเป็นชะฮีด (ชะฮาดะฮฺ) ที่สมบูรณ์
(อัลฟิกฮุล อิสลามี่ย์ ว่า อะดิ้ลล่าตุฮู ; วะฮฺบะฮฺ อัซซุฮัยลี่ย์, 2/559 , ดารุ้ลฟิกร์ , ดามัสกัส ; 1989)
2 ชะฮีดในข้อชี้ขาดของโลกนี้เท่านั้น ตามความเห็นของนักนิติศาสตร์อิสลามสังกัดกลุ่มชาฟิอียะฮฺนั้นคือ ผู้ที่ถูกสังหารในสมรภูมิกับกลุ่มชนผู้ปฏิเสธด้วยสาเหตุของสมรภูมินั้น โดยผู้นั้นได้ยักยอกส่วนของทรัพย์สงคราม (ฆ่อนีมะฮฺ) หรือผู้นั้นถูกสังหารในสภาพที่เขาหนีทัพ หรือผู้นั้นได้ทำการศึกอันเป็นไปเพื่อการโอ้อวด (ริยาอฺ) เป็นต้น (กิตาบ อัลมัจญมูอฺ 5/225)
3 ชะฮีดในข้อชี้ขาดของโลกหน้า (อาคิเราะฮฺ) เท่านั้น หมายถึง ผู้ที่ไม่ได้เสียชีวิต ด้วยเหตุของการทำสงครามกับเหล่าชนผู้ปฏิเสธ (กิตาบ อัลมัจญมูอฺ 5/224) มีข้อชี้ขาดในการจัดการศพเหมือนกับผู้ที่มิใช่ชะฮีด กล่าวคือ มีการอาบน้ำศพให้ ห่อศพ ละหมาดให้และฝังศพ (อิอานะตุดตอลิบีน ; 2/124) ผู้ตายชะฮีดในประเภทนี้จะได้รับผลานิสงค์ในโลกหน้า และมีกรณีการเสียชีวิตหลายลักษณะ อาทิเช่น สตรีที่เสียชีวิตในการคลอดบุตร, ผู้ที่เสียชีวิตเนื่องจากท้องเดิน (ท้องร่วง) , ผู้ที่เสียชีวิตในคราที่เกิดโรคระบาดใหญ่ (ตออูน) , ผู้ที่จมน้ำตาย , ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุอาคารถล่มทับ , ผู้เสียชีวิตเนื่องจากไฟคลอก , ผู้ทีเสียชีวิตในสภาพทีแสวงหาความรู้ และผู้ที่ ถูกสังหารโดยอธรรม เป็นต้น
(อิอานะตุดตอลิบีน ; 2/124, อัลฟิกฮุล อิสลามี่ย์ ; 2/560, กิตาบ อัลมัจญมูอฺ 5/224)
การจัดการศพของผู้เป็นชะฮีด
1 กรณีของผู้ที่เป็นชะฮีดในประเภท 3 ซึ่งเป็นชะฮีดในข้อชี้ขาดของโลกหน้าเท่านั้น ให้จัดการศพเหมือนกับผู้เสียชีวิตในกรณีปกติ กล่าวคือ มีการอาบน้ำศพ, ห่อศพ, ละหมาด และฝังศพ
(อัลฟิกฮุลอิสลามี่ย ; 2/561 , กิตาบ อัลมัจญมูอฺ 5/224)
2 กรณีของผู้ที่เป็นชะฮีดในประเภท 1 และ 2 ซึ่งเป็นชะฮีดเนื่องจาก การทำสงครามเพื่อปกป้องและเชิดชูธงของศาสนา ปวงปราชญ์ (ญุมฮูรุ้ลอุละมาอฺ) ไม่นับรวมกลุ่มฮะนะฟียะฮฺ ซึ่งมีความเห็นแตกต่าง ถือว่า ไม่ต้องมีการอาบน้ำศพ การห่อศพ และการละหมาดให้แก่ศพ แต่ให้ขจัดสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นนอกจากโลหิตของผู้ตายชะฮีดเท่านั้น
(อัลฟิกฮุลอิสลามี่ย์ ; 2/558)
ในส่วนของมัซฮับชาฟิอีย์นั้น ถือเป็นที่ต้องห้าม (ฮะรอม) ในการอาบน้ำศพและการละหมาดให้แก่ศพของผู้ที่ตายชะฮีด (กิตาบ อัลมัจญมูอฺ 5/221) ส่วนการห่อศพและฝังศพ ผู้ที่ตายชะฮีดนั้นเป็นสิ่งจำเป็น (วาญิบ)
(อิอานะตุดตอลิบีน ; 2/123 ,อาชียะฮฺ อัชชัยคฺ อิบรอฮีม อัลบัยญูรีย์ ; 1/466)
والله أعلم بالصواب والسلام