จำเป็นสำหรับมุสลิมทุกคนที่ต้องคิดในแง่ที่ดีกับอัลลอฮฺ ตอนที่ความตาย
จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับมุสลิมที่ต้องคิดและรำลึกถึงความตายอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่า ความตายนั้น เป็นเหตุให้ต้องพลัดพรากไปจากครอบครัวและผู้คนที่รักและความสุขสบายในโลกดุนยา เนื่องจาก คิดอย่างนี้เป็นการคิดแบบสั้นๆ หากแต่ความตายนั้นเป็นตัวแยกเราออกจากการทำอิบาดะฮฺไปสู่การรับผลตอบแทนในวันอาคิเราะฮฺ ด้วยการนี้แล้วจะทำให้มุสลิมมีความตั้งใจที่จะทำงานอิบาดะฮฺเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันอาคิเราะฮฺ ยอมรับและนอบน้อมต่ออัลลอฮฺ ส่วนการคิดและรำลึกถึงในรูปแบบแรกนั้นมีแต่จะทำให้เกิดความรู้สึกเสียใจและเสียดาย และแน่นอนหากอัลลอฮฺประสงค์ที่จะให้ผู้หนึ่งตายในสถานที่ใดๆ แล้ว พระองค์จะทำให้เขาผู้นั้นมีความเกี่ยวพันต้องไปหาสถานที่นั้นๆ
และจำเป็นสำหรับมุสลิมทุกคนที่ต้องคิดในแง่ที่ดีกับอัลลอฮฺ ตอนที่ความตายได้มาเยือน ดังที่ท่านนบี ได้กล่าวว่า
«لا يَـمُوتَنَّ أَحَدُكُمْ إلا وَهُوَ يُـحْسِنُ الظَّنَّ بِالله عَزَّ وَجَلَّ». أخرجه مسلم
“พวกท่านคนใดคนหนึ่ง จงอย่าตายนอกเสียจากว่าเขาจะต้องคิดในสิ่งที่ดีต่ออัลลอฮฺ อัซซะวะญัล” (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2877)
ลักษณะหรือเครื่องหมายที่แสดงถึงมัยยิต (คนตาย)
การตายดี
1. จะมีเหงื่อออกที่หน้าผาก ท่านร่อซูล (ศล.)กล่าวว่า “ ผู้ที่ศรัทธานั้นจะตายในสภาพที่มีเหงื่อไหลซึมออกมาจากหน้าผาก ” (บันทึกโดย อะห์หมัด อันนะซาอีย์ และอัตติรมิซีย์)
2. หน้าตาสดใสมีรอยยิ้มบนใบหน้ากับข่าวที่ได้ยินจากมลาอิกะฮฺมาพร้อมกับผ้ากะฝั่นที่จะใช้ห่อวิญญาณที่มาพร้อมกับ เครื่องหอมจากสวนสวรรค์
3. กล่าวปฏิญาณก่อนตาย ท่านร่อซูล (ศล.)กล่าวว่า “ ผู้ใดที่กล่าวคำพูดสุดท้ายในโลกดุนยาว่าลาอิลาฮะอิ้ลลัลลอฮฺ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดสมควรแก่การเคารพสักการะอย่างแท้จริง เว้นแต่อัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น เขาผู้นั้นจะได้เข้าสวรรค์ ” (บันทึกโดยอบูดาวูด และอัลฮากิม)
4. ตายวันศุกร์ หรือคืนวันศุกร์ ดังคำกล่าวของท่านร่อซูล (ศล.) “ ไม่มีมุสลิมคนหนึ่งคนใดตายในวันศุกร์ เว้นแต่อัลลอฮฺจะทรงป้องกันเขาให้พ้นจากการลงโทษในหลุมฝังศพ (กุบูร) ” (บันทึกโดย อัตติรมิซีย์)
5. ตายขณะประกอบคุณงามความดี เชื่อฟัง และภักดีต่ออัลลอฮฺ เช่นทำฮัจย์ ละหมาด ถือศีลอด หรือญิฮาดในหนทาง ของพระองค์
ตายไม่ดี
1. สีหน้าเจ็บปวดหวาดกลัวตกใจสุดขีด ดวงตาเบิกกว้าง เนื่องจากการถูกกระชากวิญญาณ และได้เห็นมละกัลเมาตฺ ผู้เก็บวิญญาณในสภาพที่น่าหวาดกลัว มาพร้อมกับผ้ากระฝั่นที่จะใช้ห่อวิญญาณที่มาจากขุมนรก
2. หน้าตาและทั่วร่างกายจะหมองคล้ำ
3. ตายในขณะตั้งภาคี
4. ปฏิบัติสิ่งที่ฝ่าฝืนต่อพระเจ้า เช่น เจตนาฆ่าผู้อื่น ละทิ้งการละหมาด และ ละเลยต่อหน้าที่ ที่อัลลอฮฺ (ซบ.) และ ร่อซูลของพระองค์ได้ใช้ให้ปฏิบัติตาม และไม่ยอมละทิ้งสิ่งที่ อัลลอฮฺ (ซบ.) และที่ร่อซูลของพระองค์ได้ห้ามไว้
หลังจากตายไปแล้ว หากเป็นมัยยิตที่ซอลิฮฺจะกล่าวว่า “ เอาฉันไปเร็วๆ ”
หากเป็นมุสลิม อาซี (มุสลิมที่ฝ่าฝืน) จะกล่าวว่า “ อย่าเอาฉันไป วิบัติ แล้วฉัน ” เสียงนี้ ทุกสิ่งจะได้ยินหมด ยกเว้นมนุษย์ ซึ่งหากได้ยินจะหูแตก และน่าหวาดกลัว
ตอบคำถาม แก่มาลาอิกะฮฺ
เมื่อวางมัยยิตไว้ในกุโบร์ มาลาอิกะฮฺ 2 ท่านจะเข้ามา ชื่อ มุงกัร นากีร ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่เกี่ยวกับคำถามในกุโบร์ ทุกคำตอบจะมาจากอิหม่านของเราเอง
หากตอบได้ ใครคือพระเจ้า มูฮัมหมัดเป็นใคร และเขาจะกล่าวในสิ่งที่เขา เคยกล่าวว่า เขาเป็นบ่าวของอัลลฮฺ และร่อซูลของพระองค์ ฉันขอปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดสมควรแก่การเคารพสักการะอย่างแท้จริง นอกจากอัลลอฮฺเพียงองค์เดียวเท่านั้น และแท้จริงมูฮัมหมัดเป็นบ่าวของพระองค์ และเป็นร่อซูลของพระองค์ และ มุงกัร นากีรจะกล่าวว่า แน่นอนเรารู้ว่าท่านจะต้องกล่าวเช่นนี้ กุโบร์จะกว้าง 70 ศอกและมี รัศมีแสงสว่าง (นูรฺ)หลังจากนั้นก็จะกล่าวว่าเจ้าจงนอนเหมือนคืนวิวาห์คืนแรกซึ่งการหลับนอนเป็นสิ่งที่รักแก่เขาที่จะกลับไปหาครอบครัวของเขาเสียอีกจนกระทั่งอัลลอฮฺจะทรงให้ฟื้นคืนชีพจากที่เขานอน ของเขาอย่างนี้แหละ (บันทึกโดย อัตติรมิซีย์)
หากเป็นมุนาฟิก จะกล่าวว่า “ลาอัดรี” (ฉันไม่รู้) มลาลิกะฮฺจะกล่าวว่า แน่นอนเรารู้ว่าท่านจะต้องกล่าวเช่นนี้ แล้วกล่าวกับแผ่นดินว่า จงบีบเขา แผ่นดินจะบีบจนซี่โครงประสานกัน จนถึงวันกิยามะฮฺ
(บันทึกโดย อัตติรมิซีย์)
ผู้ตายทุกคนที่ถูกฝังในกุโบร์ ต้องถูกกุโบร์บีบรัดกันทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นคนดีหรือคนชั่วก็ตาม ดังที่ท่านหญิงอาอิชะฮ์ กล่าวว่า ท่านร่อซูลลุลลฮ์ กล่าวว่า
“แท้จริง สำหรับกุโบร์จะมีการบีบตัว ถ้าหากว่า คนหนึ่งรอดพ้นจากการบีบตัวของกุโบร์แล้ว ซะอดฺ อิบนุ มุอ้าซ ก็ต้องรอดพ้นจากการบีบตัวของกุโบร์ด้วย”
(นำเสนอโดย อะหมัด และอิบนุฮิบบาน)
3 ประการ สู่คนตาย
1. ซอดาเกาะฮฺที่ยังประโยชน์ เช่น บริจาคเงินสร้างมัสยิด หรือทำอะไรทิ้งไว้ให้คนอื่นได้ใช้ประโยชน์
2. ความรู้ที่เป็นประโยชน์
3. ลูกที่ซอลิฮฺขอดุอาให้ ( การขาดละหมาดแม้เพียง 1 เวลาไม่ถือว่าเป็นลูกที่ซอลิฮฺ )
และอีกประการ หลังวางมัยยิต ยืนปากหลุมแล้วขอดุอาตัสบีศให้มัยยิต ตอบคำถามแก่มลาอิกะฮฺได้อย่างมั่นคง
การลงโทษในกุโบร์นั้นเป็นเรื่องจริง ครั้งหนึ่งท่านนบีเดินผ่าน 2 กุโบร์ และได้ถูกลงโทษ เรื่องการปัสสาวะ การไม่ปกปิดเอาเราะฮฺ (ส่วนใหญ่ผู้ชาย) และ การนินทาชาวบ้าน พูดแต่เรื่องคนอื่น ในสิ่งที่เสียหาย ฟิตนะฮฺ ท่านนบีเลยหยิบก้านอินผลัมสดมา 2 ก้านมาปักไว้ทั้ง 2 กุโบร์ ซอฮาบะห์ถามว่า ท่านทำอะไร ท่านนบีกล่าวว่า “ หวังว่า 2 กุโบร์นี้ จะถูกลดโทษตราบที่ก้านอินทผลัมจะเหี่ยวเฉาลง (มุสลิม)
*** บอกแนวข้อสอบชีวิตกันแล้วหวังว่าพี่น้องทั้งหลายอย่าได้ละเลยกับหน้าที่และรีบ เตาบะฮฺตัวหากกำลังหลงทางอยู่ เพราะเราไม่รู้ว่าจะถึงเวลาของเราเมื่อใด
ที่มา: www.islammore.com