สตรีผู้บริสุทธิ์ มารดาของอีซา


1,906 ผู้ชม

มัรยัม บุตรี ของอิมรอน บิดาของเขาเป็นผู้ทรงเกียรติในท่ามกลาง นักปราชญ์ของพวกบนอิสรออีล เมื่อภรรยาของเขาตั้งครรภ์ นางได้บนบานว่า จะมอบบุตรของนางที่อยู่ในครรภ์ให้เป็นผู้รับใช้บัยตุลมักดิส...


สตรีผู้บริสุทธิ์ มารดาของอีซา

มัรยัม บุตรี ของอิมรอน บิดาของเขาเป็นผู้ทรงเกียรติในท่ามกลาง นักปราชญ์ของพวกบนอิสรออีล เมื่อภรรยาของเขาตั้งครรภ์ นางได้บนบานว่า จะมอบบุตรของนางที่อยู่ในครรภ์ให้เป็นผู้รับใช้บัยตุลมักดิส การกระทําอย่างนี้ เป็นเรื่องปกติของบ่าวอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ผู้มีคุณธรรม โดยที่ครอบครัวจะอุทิศ บุตรคนหนึ่งของครอบครัวให้ไปรับใช้บ้านของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ในประเทศอียิปต์ จนถึงเมื่อไม่นานมานี้ ครอบครัวของผู้มีคุณธรรม ยังนิยมที่จะส่งบุตรคนหนึ่ง ของครอบครัวเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร เพื่อจะได้ทําหน้าที่ประกาศ เชิญชวนสู่การเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร และทําหน้าที่เผยแผ่ศาสนาต่อมวลมนุษย์ และหวังว่าอัลลอฮ์ (ซ.บ.) จะชี้นํา พวกเราให้กลับคืนไปสู่หนทางที่ดีงามนี้ด้วยตัวของเราเอง เพราะมันคือหลัก ปฏิบัติของผู้ที่มีคุณธรรม และเป็นแนวทางของผู้ที่ประสบผลสําเร็จ

มารดาของมัรยัมได้บนบานให้ทารกในครรภ์ของนางเป็นผู้รับใช้ บัยตุลมักดิส เมื่อนางได้คลอดบุตรออกมาปรากฏว่าเป็นเพศหญิง เป็นที่รู้กันว่า เพศหญิงจะไม่ทําหน้าที่รับใช้บ้านของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) เพราะบุตรหญิงจะเป็น ที่หวงแหนของครอบครัว และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย มารดา ของมัรยัมเคยตั้งความหวังไว้ว่าบุตรของนางจะเป็นเพศชาย เพื่อรับใช้บ้าน ของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ต่อมามารดาผู้มีคุณธรรมจึงได้ขอแก้ตัวต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ด้วยศรัทธาที่ละเอียดอ่อน คําขอแก้ตัวนี้เท่ากับเป็นการวิงวอนต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ให้ปกป้องบุตรีของนางคนนี้ คือ “มัรยัม” และลูกหลานของนางให้พ้นจาก ชัยฏอนมารร้าย

อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้รับเด็กผู้หญิงคนนี้ได้ในการคุ้มครองของพระองค์ และได้ให้มัรยัมเติบโตขึ้นเป็นอย่างดี มัรยัมเติบโตขึ้นอย่างมีเกียรติ และอยู่ในการเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) มีจรรยามารยาท ขณะที่มัรยัมใกล้คลอดนั้นบิดาของเขาได้เสียชีวิตลง มารดาจึงต้องการหาผู้มาอุปการะและดูแลมัรยัม และเมื่อมารดาได้ไปหาครอบครัวใหญ่ที่ดูแลบัยตุลมักดิส และปกครองพวกบนอิสรออีล ทุกคนในครอบครัวนั้นต่างอาสาที่จะให้การอุปการะและดูแล แต่เพื่อให้ทุกคนพอใจจึงให้ทําการจับฉลากในหมู่พวกเขา ผลการจับฉลากคือ ซะการียา (อ.ล.) ได้เป็นผู้อุปถัมภ์และเลี้ยงดูเด็กหญิงกําพร้า มัรยัม บุตรี ของอิมรอน

ซะการียา (อ.ล.) เป็นสามีของน้าสาวมัรยัม เขาได้ให้การเลี้ยงดูมัรยัม เหมือนเลี้ยงดูบุตรของตนเอง เขาให้ความสําคัญกับการอบรมสั่งสอนมัรยัมให้ได้รับศรัทธาที่ถูกต้อง และทําอิบาดะห์ตามแบบฉบับของนบีมูซา (อ.ล.) และมีสถานที่เฉพาะของตนเพื่อการทําอิบาดะห์ในบัยตุลมักดิส และมีห้องเฉพาะ (มีฮ์รอบ) ของตนอยู่ในบัยตุลมักดิส เช่นเดียวกัน ซะการียา (อ.ล.) ได้พบว่ามีอาหาร และผลไม้หลากหลายชนิดนอกฤดูกาลอยู่ที่มัรยัม เขารู้สึกแปลกใจ มากจึงได้ถาม มัรยัมว่า อาหารและผลไม้เหล่านี้เธอได้มาจากไหน โอ้มัรยัม ?

มัรยัม ได้ตอบคําถามนี้ด้วยลิ้นที่เต็มไปด้วยศรัทธาและกระตือรือร้นว่า

มันมาจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) พระองค์จะประทานให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์อย่างคาดไม่ถึง

มัรยัม เติบโตและใช้ชีวิตอยู่กับศรัทธาที่บริสุทธิ์ โดยไม่มีสิ่งใดเข้ามาปะปน เป็นการใช้ชีวิตของผู้ที่ได้อุทิศตนเองเพื่อการอิบาดะห์ต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.)ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร และรับใช้บ้านของพระองค์ คือ บัยตุลมักดิส ต่อมามลาอิกะห์ ได้มาหามัรยัม และแจ้งข่าวให้นางทราบว่าอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ทรงคัดเลือกนาง และขัดเกลานางให้สะอาดบริสุทธิจากมลทินทั้งปวง ต่อมาลิ้นของนาง หัวใจของนาง ร่างของนาง และสติปัญญาของนางก็อยู่กับการอิบาดะห์ต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร มัรยัมจะไม่ออกจากบัยตุลมักดิส นอกจากเพื่อทําธุระส่วนตัวเท่านั้น

ดังนั้นจิตใจของนางจึงสูงส่ง และวิญญาณจึงใสสะอาด และติดต่ออยู่บนโลกเบื้องบน โดยผ่านความใสสะอาดของจิตวิญญาณ และความสูงส่งของจิตใจ มัรยัมได้ยินมะลาอิกะห์ กระตุ้นนางให้ขยันในการทําอิบาดะห์ต่ออัลลอฮ์ (ซ.บ.) ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร และศิโรราบต่อพระองค์

อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ตาอาลา ได้ตรัสไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานว่า:

“จงรำลึกถึงขณะที่ภรรยาของอิมรอน ได้กล่าวว่า ข้าแด่องค์อภิบาลของฉัน แท้จริงฉันได้บนบานให้สิ่งที่อยู่ในครรภ์ของฉัน ถูกกําหนดให้อยู่ใน ฐานะผู้เคารพสักการะต่อพระองค์และรับใช้พระองค์เท่านั้น ดังนั้นขอพระองค์ได้โปรดรับจากฉันด้วยเถิด แท้จริงพระองค์ท่านเป็นผู้ทรงได้ยินเป็นผู้ทรงรับรู้ ครั้นเมื่อนางได้คลอดบุตร นางก็กล่าวว่า ข้าแด่องค์อภิบาล แท้จริงฉัน ได้คลอดบุตรเป็นหญิง และอัลลอฮ์ (ซ.บ.) นั้นทรงรู้ดียิ่งกว่าถึงบุตรที่นางได้ คลอดออกมา และใช่ว่าเพศชายจะเหมือนกับเพศหญิงก็หาไม่ และฉันได้ ตั้งชื่อเขาว่ามัรยัม และฉันขอต่อพระองค์ให้คุ้มครองนาง และลูกของนางให้ พ้นจากชัยฏอนที่ถูกขับไล่ แล้วองค์อภิบาลของนางก็ทรงรับมัรยัมไว้เป็นอย่างดี และให้นางเจริญวัยอย่างดีอีกด้วย และพระองค์ได้ให้ซะการียอุปการะนาง คราใดที่ซะการียาได้เข้าไปหานางที่มิฮ์รอบ เขาได้พบปัจจัยยังชีพอยู่ที่นาง เขาถามว่า โอ้มัรยัม เธอได้สิ่งนี้มาอย่างไร มัรยัมตอบว่ามันมาจากอัลลอฮ์ (ซ.บ.) แท้จริงอัลลอฮ์ (ซ.บ.)นั้นจะประทานปัจจัยยังชีพแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ โดยปราศจากการคิดคํานวณ” (อาลิอิมรอน : 35-37)

อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ผู้ทรงเกรียงไกรได้ตรัสว่า “และจงรําลึกขณะที่มะลาอิกะห์กล่าวว่า มัรยัมเอ๋ย แท้จริงอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ทรงเลือกเธอ และทรงทําให้เธอบริสุทธิ์ และได้ทรงคัดเลือกเธอให้ เหนือกว่าบรรดาหญิงแห่งประชาชาติทั้งหลาย มัรยัมเอ๋ยจงภักดีต่อพระเจ้า ของเธอเถิด เธอจงก้มกราบและก้มโค้ง(รุวะฮ์) ร่วมกับบรรดาผู้ก้มโค้ง (กัวะ ) ทั้งหลาย นั่นคือส่วนหนึ่งจากบรรดาข่าวของสิ่งเร้นลับ ซึ่งเราชี้แจงให้เจ้าทราบ และเจ้ามิได้อยู่กับพวกเขาขณะที่พวกเขาโยนเครื่องเสี่ยงทายของพวกเขา เพื่อทราบว่าใครในหมู่พวกเขาจะได้อุปการะมัรยัม และเจ้ามิได้อยู่กับพวกเขา ขณะพวกเขาโต้เถียงกัน” (อาลิอิมรอน : 42-44)

พวกเราจงให้ความสําคัญกับอายะห์สุดท้ายนี้ อัลลอฮ์ (ซ.บ.) ได้ยืนยันด้วยหลักฐานแก่มนุษย์ทุกคนว่าคัมภีร์อัลกุรอานนี้เป็นคําพูดของ พระองค์ ไม่ใช่คําพูดของผู้ใด โดยมีหลักฐานว่าพระองค์ทรงโต้ตอบกับมุฮัมมัด (ซ.ล.) ด้วยเรื่องราวที่เร้นลับซึ่งผู้คนส่วนมากไม่รู้ เช่นเรื่องนี้ ท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) ไม่ใช่เป็นนักประวัติศาสตร์ที่จะรับรู้เรื่องนี้และนําไปเล่าให้ผู้อื่นทราบ และในขณะนั้นท่านก็ไม่ได้อยู่ร่วมกับพวกบนีอิสรออีล ขณะที่พวกเขาจับสลากที่แต่ละคนได้เขียนชื่อลงบนปากกา และได้โยนปากกาของทุกคนลงไปในน้ำ ปากกาของผู้ใดลอยขึ้นมาเหนือน้ำเขาจะมีสิทธิ์เป็นผู้อุปการะมัรยัม และผลปรากฏว่าปากกาของซะการียาลอยขึ้นมา ขณะที่ปากกาของคนอื่นจมน้ำหมดสิ้น

 บทความโดย: อาจารย์อรุณ บุญชม

https://islamhouse.muslimthaipost.com/

อัพเดทล่าสุด