คุณค่าของเวลาในวิถีมุสลิม

วัยหนุ่มสาวมุสลิมส่วนมาก ได้ใช้ชีวิตในช่วงเวลานี้ให้หมดไปกับการสนุกสนาน เสเพล...

โดย นูรุลอุมมะ

หะดิษที่บันทึกโดยบุคอรี มีรายงานจากท่านอิบนุอับบาสฯ กล่าวว่า ท่านรอซูล ได้สอนว่ามีเนี๊ยะมัต (ความโปรดปราณ) ๒ ประการที่มนุษย์ส่วนใหญ่มักจะปล่อยเลย (ไม่มองถึงความสำคัญ) การมีสุขภาพ ร่างกายที่แข่งแรง และการมีเวลาว่าง

หะดิษบทนี้ได้บอกให้เราได้รู้ถึงวิถีชีวิตของมนุษย์ทั่วๆ ไป ว่าพวกขานั้นจะไม่รู้ถึงคุณค่าในความโปรดปราน ๒ อย่าง ที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงประทานมาให้กับพวกเขา นั่นก็ได้แก่ การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และการมีเวลาว่าง

ฉะนั้นการมีสุขภาพที่แข็งแรงนั้นถือว่าเป็นความดีงามอันประเสริฐ ซึ่งเราทุกคนที่เป็นมุอ์มินจะต้องน้อมชุโก้ร ขอบคุณต่ออัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา แต่เป็นที่น่าเสียใจและน่าสลดใจอย่างยิ่ง ที่มีวัยหนุ่มสาวมุสลิมส่วนมากได้ใช้ชีวิตในช่วงเวลานี้ให้หมดไปกับการสนุกสนาน เสเพล เฮฮาไปแต่ละวัน โดยที่ไม่ได้คิดถึงภารกิจและความรับผิดชอบของเขาที่มีต่ออุมมะฮ์อิสลาม ภารกิจดังกล่าวนี้ก็คือ การดะวะฮ์และเปลี่ยนแปลงสังคม

แต่ถ้าหากว่า ณ วันนี้ คนหนุ่มสาวมุสลิมของเรายังไม่รู้ถึงคุณค่าของการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและการเอาเวลาว่างมาใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและสังคม แน่นอนการใช้ชีวิตของเขาจะต้องตกอยู่ในสภาพที่ขาดทุนทั้งดุนยาและอาคีเราะฮ์

ดังคำดำรัสของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ที่ได้ตรัสไว้ ในซูเราะห์ อัล-อัศร์

๑. ขอสาบานด้วยกาลเวลา

๒. แท้จริงมนุษย์อยู่ในสภาพที่ขาดทุน

๓. แว้แต่บรรดาผู้ที่ศรัทธาและประกอบแต่การงานที่ดีเท่านั้น สั่งเสียกันในสิ่งที่เป็นสัจธรรมและสั่งเสียให้มีความอดทน

ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย หากเราลองมองย้อนกลับไปดูวิถีชีวิตของบรรพชนรุ่นก่อนๆ พวกเขาเหล่านั้นเล็งเห็นถึงความสำคัญของเวลา และรู้ถึงคุณค่าของมันอย่างมากที่สุด พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยให้เวลาๆหนึ่งหรือว่าวันๆหนึ่งผ่านไปโดยที่ไม่ได้เพิ่มพูนในวิชาความรู้หรือกระทำแต่การงานที่ดีที่สุด ที่เป็นประโยชน์ให้กับตัวเองและผู้อื่น โดยพวกเขาจะถือกฎเกณฑ์ที่ว่าจะต้องปฏิบัติตัววันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน และวันพรุ่งนี้จะต้องดีกว่าวันนี้

อีกคำพูดหนึ่ง ใครก็ตามที่สภาพวันนี้ของเขาเหมือนกับเมื่อวาน เขาคือผู้ที่ขาดทุน และใครก็ตามที่สภาพของเขาแย่กว่าเมื่อวาน เขาคือผู้ที่สมควรจะได้รับการสาปแช่ง

เรามาพิจารณาถึงคำพูดของซอฮาบะฮ์กันเถิด

ท่านอิบนูมัสอูดกล่าวว่า "ฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจต่อสิ่งใดมากเท่ากับที่ฉันเสียใจต่อวันหนึ่งที่ดวงอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไป แล้วอายุไขของฉันก็ยิ่งลดน้อยลง แต่การงานที่ดีของฉันมิได้เพิ่มพูนขึ้นเลย"

ความรู้ที่ได้รับ

๑. เวลานั้นเปรียบเสมือนคมดาบที่หากท่านไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์ มันก็อาจจะส่งผลเสียแก่ตัวท่านเอง

๒. เวลาที่สูญเสียไปนั้น ไม่สามารถหวนกลับคืนมาใหม่และไม่มีสิ่งใดที่จะมาทดแทนได้

๓. มนุษย์ส่วนมากจะรู้ถึงคุณค่าของการเป็นวัยหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรงและสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อ ๒ ประการนี้ได้จากชีวิตของพวกเขาไปเสียก่อน

๔. อิสลามนั้นส่งเสริมการบริหารจัดการเวลาของชีวิตอย่างมีประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุด

๕. จากการสาบานของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ต่อบรรดาช่วงเวลาต่างๆ ที่ถูกจารึกในอัลกุรอานนั้นมิได้หมายถึงการสาบานดั่งเช่นมนุษย์ทั่วไปที่ขอจากความคุ้มครองหรือเรียกความเชื่อถือให้ตนเอง แต่การสาบานของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา นั้นคือการสำทับบอกถึงความยิ่งใหญ่และสำคัญของช่วงเวลาวัยฉกรรจ์แก่บรรดาผู้ศรัทธา และมนุษยชาติทั้งผอง